ออสเตรเลียย้ำเรือดำน้ำนิวเคลียร์ช่วยประกันความมั่นคงในภูมิภาค
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย ฯพณฯ ริชาร์ด มาร์ลส์ เดินทางเยือนประเทศไทย หลังภารกิจเดินทางไปหมู่เกาะโซโลมอนและฟิลิปปินส์ ย้ำเรือดำน้ำนิวเคลียร์ตามโครงการ AUKUS จะประกันความมั่นคงในภูมิภาค
ในการให้สัมภาษณ์พิเศษก่อนการเข้าพบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า
ดีใจที่ได้กลับมาอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งสถานที่ที่ตนมาหลายครั้ง เป็นส่วนหนึ่งของโลกที่รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียกับประเทศไทยลึกซึ้งมาก ก่อนที่โรคระบาดจะเกิดขึ้น ชาวออสเตรเลีย 8 แสนคนจะมาประเทศไทยทุกปี ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีข้อตกลงการค้าเสรีที่เก่าแก่ที่สุดประเทศหนึ่ง กับออสเตรเลีย มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของการศึกษาในออสเตรเลีย โดยเฉพาะด้านการป้องกันประเทศ โดยเฉพาะในหลวงรัชกาลที่ 10 ก็ทรงศึกษาด้านการทหารจากออสเตรเลียด้วย ตนก็มีเพื่อนสมัยมัธยมเป็นคนไทย และทั้งหมดนั้นก็สื่อถึง ความรักที่ลึกซึ้ง ระหว่างสองประเทศ
ภารกิจในไทยครั้งนี้ ตนได้พบกับประธานวุฒิสภา วุฒิสมาชิกจำนวนหนึ่ง ได้พบกับนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ ในฐานะประเทศที่มีพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกา ในฐานะประเทศที่มีจีนเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่ใหญ่ที่สุด ตนให้คำมั่นอย่างสมบูรณ์ในการรักษาระเบียบตามกฎระเบียบทั่วโลก เพราะเข้าใจว่าโลกทุกวันนี้เปราะบาง มาก และนี่เป็นเวลาที่จะต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตร ออสเตรเลียเห็นประเทศไทยเป็นแนวหน้าและเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค ดังนั้นออสเตรเลียจึงมองไปที่ความร่วมมือมากขึ้น ความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศมากขึ้น การสร้างความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี โดยทั้งหมดจะกระทำบนรากฐานของความรักที่แท้จริง ความไว้วางใจที่แท้จริง
เมื่อสอบถามถึงกรณีที่ออสเตรเลียเตรียมสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ตามโครงการความร่วมมือ
AUKUS รองนายกริชาร์ด มาร์ลส์ ระบุว่าเป็นโครงการที่สำคัญมากสำหรับออสเตรเลีย โดยพื้นฐานแล้ว AUKUS คือการแบ่งปันเทคโนโลยีระหว่างออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร แต่หัวใจสำคัญของเรื่องนี้ก็คือ ออสเตรเลียกำลังมีความสามารถในการปฏิบัติการเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งจะจัดหาผ่านความร่วมมือของสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา เป็นการพัฒนาขีดความสามารถด้านเรือดำน้ำ ซึ่งจะประกาศรายละเอียดให้ทราบภายในเดือนหน้า
จึงต้องการให้ประเทศไทยและภูมิภาคเข้าใจอย่างชัดเจนถึงหัวใจของการสร้างความมั่นคงร่วมกันให้กับภูมิภาค และส่งผลให้เกิดความมั่นคงและความสงบในภูมิภาค จึงต้องการให้ประเทศไทยมีความเชื่อมั่นในขั้นตอนต่างๆ ที่เรากำลังดำเนินการอยู่
เมื่อถามว่า เรือดำน้ำดังกล่าว มุงไปยังการสกัดกั้นอิทธิพลของจีนในภูมิภาคหรือไม่
รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียยืนยันว่า ออสเตรเลียให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์กับจีน และต้องการสร้างความร่วมมือกับจีน ที่ผ่านมาได้เห็นการเติบโตและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีนเป็นบวก ออสเตรเลียต้องการทำให้แน่ใจว่าเรามีภูมิภาคที่สงบสุขและโลกที่สงบสุข การสร้างขีดความสามารถของออสเตรเลียผ่านการซื้อกิจการเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จากสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา
สำหรับความร่วมมือของ AUKUS เชื่อว่าเป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถของออสเตรเลียซึ่งเรามองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความมั่นคงร่วมกัน ซึ่งจะช่วยสร้างความสมดุลภายในภูมิภาค ตั้งแต่รัฐบาลของเราขึ้นมามีอำนาจในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว เราให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพกับจีน แต่ในการสร้างความสัมพันธ์นั้น ในการใช้การทูต เพื่อพยายามสร้างเส้นทางสู่สันติภาพ
ตนได้พบกับรัฐมนตรีกลาโหมจีนสองครั้งตั้งแต่เข้ารอบตำแหน่ง รัฐบาลชุดนี้ขึ้นสู่อำนาจในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว และได้กระชับความสัมพันธ์เป็นปกติในระดับที่เราสามารถสร้างรูปแบบการป้องกันกับจีนที่เรากำลังทำงานอยู่ เราซาบซึ้งมากกับการประชุมที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วระหว่างประธานาธิบดีไบเดนและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ความพยายามทั้งหมดของเราคือการพยายามที่จะทำให้แน่ใจว่าเราสร้างภูมิภาคที่มั่นคงและสงบสุข เพราะนั่นเป็นพื้นฐานที่เราได้เห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และความเจริญรุ่งเรือง
ด้านความสัมพันธ์ทางความมั่นคงระหว่างไทยกับออสเตรเลียปัจจุบันเราทำการฝึกร่วมกันหลายรูปแบบนอกจากนี้ยังมีการทำงานร่วมกันภายในภูมิภาค และนช่วงปลายปี เรือรบลำหนึ่งของเราจะแวะมาเยี่ยมประเทศไทยด้วย
ส่วนกรณีครบรอบ 1 ปี เหตุการกองทัพรัสเซียบุกยูเครน รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลยมองว่า เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา จะมีใครคิดว่า เราจะเห็นการต่อต้าน จากชาวยูเครน จากกองกำลังติดอาวุธของยูเครน ได้อย่างเข้มแข็งถึงหนึ่งปี เป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงสำหรับประธานาธิบดีเซลเลนสกี้และประเทศของเขา
จากมุมมองของประชาคมระหว่างประเทศและออสเตรเลีย เรามองว่านี่เป็นการทำลายกฎหมายระหว่างประเทศ ที่รัสเซียใช้กำลังบังคับเพื่อนบ้านที่เล็กกว่า และในขณะที่คนในกองทัพยูเครน กำลังต่อสู้เพื่อครอบครัวของพวกเขา พวกเขากำลังต่อสู้เพื่อประเทศของพวกเขา ผมคิดว่าพวกเขากำลังต่อสู้เพื่อกฎระเบียบที่เป็นพื้นฐานของโลก และในแง่นั้น พวกเขากำลังต่อสู้เพื่อพวกเรา และบทบาทของออสเตรเลีย จะเป็นการยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับยูเครน โดยเราจะเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารที่เราได้มอบให้แก่ยูเครนแล้ว ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่าครึ่งพันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
เราเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน NATO ที่ใหญ่ที่สุดต่อยูเครน และในที่สุด สิ่งที่เราพยายามทำคือ ยืนหยัดกับยูเครนให้นานที่สุด เพื่อให้ยูเครนสามารถแก้ไขความขัดแย้งนี้ได้ด้วยตัวเอง และนั่นคือสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นพื้นฐานและสำคัญที่สุด