ตุรกีขยายการสอบสวนอาคารถล่ม หลังยอดผู้เสียชีวิตแผ่นดินไหวพุ่งเกิน 50,000

จำนวนผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว ซึ่งรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นในตอนกลางคืนเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นเป็น 44,128 คนในตุรกี นั่นทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตโดยรวมในตุรกีและซีเรียที่อยู่ใกล้เคียงกันมีจำนวนมากกว่า 50,000 คน

อาคารกว่า 160,000 หลัง ซึ่งมีห้องพักรวมกันกว่า 520,000 หลังพังทลายหรือได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากภัยพิบัติครั้งนี้ ถือเป็นภัยพิบัติที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของประเทศ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม Bekir Bozdag กล่าวว่า มีคนมากกว่า 600 คนถูกสอบสวนเกี่ยวกับอาคารที่พังทลาย กล่าวระหว่างการแถลงข่าวในเมืองดิยาร์บาเคียร์ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 10 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งนี้

ผู้ที่ถูกจับกุมและถูกคุมขังอย่างเป็นทางการแล้วรวมถึงผู้รับเหมาก่อสร้าง 79 คน ผู้รับผิดชอบด้านกฎหมายอาคาร 74 คน เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ 13 คน และผู้ต่อเติมอาคาร 18 คน

ชาวตุรกีจำนวนมากแสดงความขุ่นเคืองต่อสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นการคอร์รัปชั่นในการก่อสร้างและการพัฒนาเมืองที่มีข้อบกพร่อง.

ประธานาธิบดี Tayyip Erdogan ผู้ซึ่งเผชิญกับความท้าทายทางการเมืองที่ใหญ่ที่สุดของการปกครองในรอบสองทศวรรษของเขา ในการเลือกตั้งที่กำหนดจะจัดขึ้นภายในเดือนมิถุนายน นี้ ได้สัญญาว่าจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

เป็นเวลาเกือบสามสัปดาห์นับตั้งแต่เกิดภัยพิบัติ ยังไม่มีการสรุปยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการในตุรกี และเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ยืนยันว่ามีศพกี่ศพที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

พนักงานดับเพลิงคนหนึ่งซึ่งช่วยเก็บกู้ซากปรักหักพังในเมือง Antakya ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักกล่าวว่ามีการพบศพเป็นประจำทุกวัน

"มันยากมาก คุณไม่สามารถบอกให้ใครเร่งทำงานต่อไปได้ หากเขากำลังหยิบแขนคนออกมา"

องค์กรบริหารจัดการภัยพิบัติของตุรกีกล่าวว่า ประชาชนเกือบสองล้านคนไร้ที่อยู่อาศัย ต้องพักในเต็นท์ บ้านตู้คอนเทนเนอร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

โดยมีการตั้งเต็นท์มากกว่า 335,000 หลังในเขตแผ่นดินไหวและมีการค่ายพักในบ้านคอนเทนเนอร์ที่ 130 แห่ง ขณะที่ประชาชนเกือบ 530,000 คนได้รับการอพยพออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ