5เดือนไร้ข้อตกลง การประท้วงเรื่องแทรกแซงศาลของอิสราเอลยังดำเนินต่อ
ท่ามกลางธงชาติอิสราเอลหลายร้อยหรืออาจหลายพันผืนในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในกรุงเทลอาวีฟเมื่อวันเสาร์ โปสเตอร์สีขาวล้วนที่เขียนด้วยลายมือด้วยข้อความสีดำ: "ประชาธิปไตยที่ปราศจากการประนีประนอม"
เป็นเวลาห้าเดือนแล้วที่ชาวอิสราเอลหลายหมื่นคนออกมาที่ถนนทุกสัปดาห์เพื่อประท้วงนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ที่เสนอให้ยกเครื่องกระบวนการยุติธรรม ซึ่งจะทำให้นักการเมืองมีอิทธิพลแทนกแซงการเลือกผู้พิพากษาได้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังเป็นการจำกัดอำนาจของศาลฎีกาในการออกกฎหมาย
ผู้ประท้วงอาจประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง จากการที่แผนดังกล่าว ไม่ได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็วอย่างที่เนทันยาฮูคาดหวัง แต่รัฐบาลของเขายังคงมุ่งมั่นที่จะผลักดันการเปลี่ยนแปลงต่อไป
ภายใต้แรงกดดันทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนทันยาฮูตกลงที่จะชะลอการยกเครื่องเพื่อพยายามเจรจากับฝ่ายค้านโดยใช้แนวทางที่เป็นกลาง แต่หลังจากเปลี่ยนโฟกัสไปที่การผ่านงบประมาณของรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แผนการจัดการกับกระบวนการยุติธรรมก็กลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง
เนทันยาฮูและพันธมิตรขวาจัด รวมถึงพันธมิตรทางศาสนาของเขากล่าวว่าการปฏิรูปมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขใช้อำนาจเกินขอบเขตของฝ่ายตุลาการมานานหลายทศวรรษ และสร้างสมดุลให้กับส่วนต่างๆ ของรัฐบาล นักวิจารณ์เห็นว่านายกรัฐมนตรีเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นอิสระของศาล ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในข้อหารับสินบนของตัวเนทันยาฮูเอง ซึ่งเขาออกมาปฏิเสธ
นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำและอดีตทหารด้านความมั่นคงแห่งชาติเตือนถึงผลเสีย โดยกล่าวว่าระบบศาลที่เป็นอิสระมีความสำคัญต่อความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของอิสราเอล
ประธานาธิบดีของอิสราเอล ซึ่งส่วนใหญ่มีบทบาทในเชิงพิธีการ ได้เป็นสื่อกลางระหว่างกลุ่มพันธมิตรและฝ่ายค้าน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
การประท้วงถึงจุดสูงสุดในช่วงปลายเดือนมีนาคม เมื่อเนทันยาฮูปลดรัฐมนตรีกลาโหมของเขาหลังจากที่เขาแตกแถว และเรียกร้องให้หยุดแผนการปฏิรูประบบตุลาการของเนทันยาฮู ชาวอิสราเอลทะลักออกมาตามท้องถนนในการประท้วงทั่วประเทศที่เกิดขึ้นเองอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน จนเนทันยาฮูต้องกลับการตัดสินใจของเขา
ก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้าในวันเสาร์ ซึ่งสิ้นสุดวันสะบาโตของชาวยิว ฝูงชนก็มารวมตัวกันอีกครั้งในกรุงเทลอาวีฟและเมืองอื่นๆ ทั่วอิสราเอล เนื่องจากไม่มีการนับฝูงชนอย่างเป็นทางการ จึงยากที่จะประเมินว่าผู้ประท้วงมีจำนวนน้อยลงหรือไม่