สหรัฐฯหวั่น เทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับของจีน ล้วงข้อมูลชาวอเมริกัน
Pete Buttigieg รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของสหรัฐฯ กล่าวว่าหน่วยงานของเขามีความกังวลด้านความมั่นคงของชาติเกี่ยวกับบริษัทยานยนต์ไร้คนขับของจีนในตลาดอเมริกา หลังจากที่ฝ่ายนิติบัญญัติบางส่วนเรียกร้องให้มีการจำกัดการดำเนินงานของบริษัทเหล่านี้
Pete Buttigieg รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่ว่าเราจะพูดถึงฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ เช่นเดียวกับปัญหาด้านโทรคมนาคมหรือ TikTok ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านคมนาคมเช่นกัน”
"ทางสหรัฐอเมริกาจึงจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจให้ดีขึ้นต่อการเป็นเจ้าของของธุรกิจต่างๆ ที่กำลังส่งมอบชิ้นส่วนประกอบให้กับระบบคมนาคมของเรา"
ในวันที่ 17 กรกฎาคมมีจดหมายถึง Buttigieg และ Gina Raimondo รัฐมนตรีกระทรวงการค้า ซึ่งขอให้มีดำเนินการสอบสวนเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับจากประเทศจีนในสหรัฐฯและหาลู่ทางเพื่อจำกัดเทคโนโลยีดังกล่าว
ฝ่ายนิติบัญญัติระบุว่า "เทคโนโลยีที่ใช้ในรถยนต์ไร้คนขับ เช่น LiDAR, RADAR, กล้อง, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เซมิคอนดักเตอร์และเซ็นเซอร์ขั้นสูงอื่นๆ สามารถใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของประชาชนอเมริกันได้ รวมถึงระบบโครงสร้างพื้นฐานที่อาจส่งข้อมูลกลับไปยังจีน และท้ายที่สุดข้อมูลทั้งหมดจะตกอยู่ในเงื้อมมือของพรรคคอมมิวนิสต์จีน”
นอกจากนี้ ฝ่ายนิติบัญญัติยังมีความกังวลเป็นพิเศษต่อการทดสอบยานพาหนะต์ไร้คนขับและเทคโนโลยีต่างๆที่ต้องนำมาใช้ทดสอบร่วม
เนื้อความภายในจดหมายยังอ้างข้อมูลจากหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่แสดงให้เห็นถึงการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับของบริษัทจีน 7 แห่ง รวมถึงบริษัท Apollo ของ Baidu และ Pony.ai
สตาร์ทอัพที่มุ่งเน้นสำหรับการให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับ ซึ่งในปีที่แล้วบริษัทเหล่านี้ได้ทำการทดสอบยานยนต์ไร้คนขับในรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของอเมริกา
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับในสหรัฐฯ มีความล่าช้าในการส่งมอบรถยนต์ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองละมีวัตถุประสงค์ในเชิงพาณิชย์ ขณะที่หลายบริษัทในอุตสาหกรรมรถยนต์ไร้คนขับเริ่มลดต้นทุนการผลิตและปริมาณงานลง