ผลขาดทุนสุทธิของ China Evergrande ลดลง ในครึ่งปีแรก
China Evergrande Group บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้มากที่สุดในโลก รายงานผลขาดทุนสุทธิที่ดีขึ้นในครึ่งปีแรกของปี 2023 อยู่ที่ 33 พันล้านหยวน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 66.4 พันล้านหยวน
บริษัท China Evergrande Group เป็นศูนย์กลางของวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน โดยตั้งแต่ปลายปี 2021 บริษัทเริ่มมีการผิดนัดชำระหนี้ ไม่สามารถก่อสร้างให้เสร็จตามเป้า รวมถึงซัพพลายเออร์หลายรายไม่ได้รับเงินจากบริษัท ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
นอกจากนี้ ในเดือนนี้ Country Garden บริษัทเอกชนผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของจีน ยังผิดนัดจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้เช่นกัน ทำให้เกิดความกังวลว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนจะล้มต่อกันเป็นโดมิโน่หรือไม่ เนื่องจากเศรษฐกิจในจีนยังมีความซบเซา
ในการยื่นเอกสารเมื่อวันอาทิตย์ Evergrande กล่าวว่ารายรับในครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นเป็น 128.2 พันล้านหยวน หรือคิดเป็น 44% จากปีก่อนหน้า เนื่องจาก "มีการวางเตรียมความพร้อมสำหรับการกลับมาขายอีกครั้งและได้ดำเนินการเอาชนะสถานการณ์วิกฤตของตลาดอสังหาริมทรัพย์” ทั้งนี้กระแสเงินสดของบริษัทลดลง 6.3% เป็น 13.4 พันล้านหยวน
หนี้สินของบริษัทลดลงเล็กน้อยเป็น 2.39 ล้านล้านหยวน จาก 2.44 ล้านล้านหยวน ณ สิ้นปี 2022 ขณะที่สินทรัพย์รวมก็ลดลงเหลือ 1.74 ล้านล้านหยวน จาก 1.84 ล้านล้านหยวน
นอกจากนี้ ผลขาดทุนสุทธิของบริษัทระหว่างปี 2021 และ 2022 รวมกัน อยู่ที่ 8.1 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับในปี 2020 ที่บริษัททำกำไรได้ 8.1 พันล้านหยวน
Evergrande กล่าวว่าความสามารถในการดำเนินการต่อจะขึ้นอยู่กับแผนปรับโครงสร้างหนี้ในต่างประเทศ รวมถึงการเจรจากับผู้ให้กู้เกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการชำระหนี้
ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทยังขอความคุ้มครองภายใต้มาตรา 15 ของประมวลกฎหมายล้มละลายของสหรัฐฯ ซึ่งคุ้มครองบริษัทนอกสหรัฐฯ ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างจากเจ้าหนี้ที่หวังจะยื่นฟ้องหรืออายัดทรัพย์สินในสหรัฐฯ