UN หาทางสนับสนุนเยาวชนต่อสู้คดี Climate Change ทางกฎหมาย
สหประชาชาติได้ปรับปรุงสนธิสัญญาสำคัญเพื่อปกป้องสิทธิเด็กในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันกลุ่มเยาวชนถือเป็นแนวหน้าในการต่อสู้เพื่อปกป้องโลก
ตั้งแต่ไฟป่าในโปรตุเกสไปจนถึงโครงการเชื้อเพลิงฟอสซิลในรัฐมอนแทนาของสหรัฐอเมริกา กลุ่มเยาวชนเริ่มยื่นฟ้องและกลายเป็นโจทก์ในคดีด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อขอให้รัฐบาลดำเนินการต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ขณะที่คณะกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติระบุว่า ความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม รวมถึงวิกฤตสภาพภูมิอากาศนับเป็นรูปแบบของความรุนแรงเชิงโครงสร้างต่อเยาวชนรูปแบบหนึ่ง นอกจากนี้ ภาครัฐควรให้เยาวชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และขจัดอุปสรรคต่างๆออกไปเพื่ออนุญาตให้เยาวชนสามารถยื่นดำเนินคดีด้วยตนเองได้
ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา มีการหารือกับเยาวชนกว่า 16,000 คน จาก 100 ประเทศ เพื่อจัดทำร่างแนวทางปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม ขณะที่ Tânia dos Santos Maia วัย 14 ปี จากบราซิลให้ความเห็นว่า เธอคาดหวังว่าเอกสารจากสหประชาชาติจะช่วยให้เยาวชนตระหนักในสิทธิของตนมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ทนายความที่เป็นตัวแทนของเยาวชน 6 คนจากโปรตุเกส ซึ่งกำลังยื่นคดีต่อศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปด้วยการฟ้อง 32 ประเทศ ในข้อหาที่เขาระบุว่ารัฐบาลเพิกเฉยและไร้แนวทางในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทนายความในคดีดังกล่าวเชื่อว่าแนวทางใหม่จากสหประชาชาติจะช่วยให้การดำเนินคดีด้านสิ่งแวดล้อมที่ยื่นฟ้องโดยกลุ่มเยาวชนจะมีความแข็งแกร่งขึ้น
ทั้งนี้ ประเทศในสหประชาชาติทุกประเทศ ยกเว้นสหรัฐอเมริกาได้รับรองสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กปี 1989 ซึ่งครอบคลุมเรื่องสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องมีการปรับปรุงสนธิสัญญาดังกล่าวเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศดำเนินไปอย่างรวดเร็ว