posttoday

จีนโต้ สั่งข้าราชการห้ามใช้ iPhone กระทบบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐ

08 กันยายน 2566

มาตรการควบคุมการใช้ iPhone ของเจ้าหน้าที่รัฐของรัฐบาลจีนในวันพฤหัสบดี ทำให้เกิดความกังวลในหมู่สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐฯ และทำให้เกิดความกังวลว่าบริษัทเทคโนโลยีของอเมริกาอาจได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างประเทศทั้งสอง

หุ้น Apple ร่วงลงมากกว่า 3% และเป็นการลดลงสองวันติดต่อกันที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน หลังจากข่าวที่ว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ปักกิ่งได้แจ้งให้พนักงานในหน่วยงานรัฐบาลกลางบางแห่งให้หยุดใช้โทรศัพท์มือถือของ Apple ในที่ทำงาน

นักวิเคราะห์ของวอลล์สตรีทหลายคนกล่าวว่า มาตรการจำกัดการใช้งานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แม้แต่บริษัทที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลจีนและมีการลงทุนขนาดใหญ่ในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ก็ไม่สามารถต้านทานความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศได้

ความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ เลวร้ายลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่วอชิงตันพยายามจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีหลักๆ ของจีน รวมถึงเทคโนโลยีชิปที่ล้ำสมัย และปักกิ่งก็พยายามที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีของอเมริกา

หุ้นของ Qualcomm ซัพพลายเออร์ของ Apple หนึ่งในบริษัทสหรัฐฯ ที่มีการดำเนินงานในจีนรายใหญ่ที่สุด ร่วงลงเกือบ 7% เช่นกัน ทำให้ภาพรวมหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีติดลบด้วย

สมาชิกสภานิติบัญญัติของทั้งสองฝ่ายในสหรัฐฯ ต่างแสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านความมั่นคงของชาติที่ถูกกล่าวหาว่าเกิดจากผลิตภัณฑ์ของจีน โดยกดดันให้ฝ่ายบริหารของ Biden ดำเนินนโยบายก้าวร้าวกับปักกิ่งมากยิ่งขึ้น

ไมค์ กัลลาเกอร์ ผู้แทนสหรัฐฯ สมาชิกพรรครีพับลิกัน ประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้านจีน กล่าวว่า การสั่งห้ามข้าราชการใช้ iPhone ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และแสดงให้เห็นว่าจีนพยายามจำกัดการเข้าถึงตลาดของบริษัทตะวันตกในจีนอย่างไร 

“นี่คือพฤติกรรมตามตำรา ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน  ที่จะส่งเสริมบริษัทด้านโทรคมนาคมของจีนเอง และค่อยๆ บีบการเข้าถึงตลาดของบริษัทตะวันตก”  

วุฒิสมาชิกมาร์ค วอร์เนอร์ ของสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครตและประธานคณะกรรมการข่าวกรองของวุฒิสภา ก็มีความกังวลเช่นเดียวกันนี้ โดยกล่าวว่า "ในขณะที่เศรษฐกิจจีนซบเซา เราอาจคาดการณ์ได้ว่าจะเคลื่อนไหวเชิงรุกมากขึ้นเพื่อต่อต้านธุรกิจต่างชาติ"

ก่อนหน้านี้ จีนจำกัดการสั่งสินค้าจากบริษัทชื่อดังของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตเครื่องบินโบอิ้ง และผู้ผลิตชิปหน่วยความจำ Micron มาแล้ว

ขณะเดียวกัน หุ้นของซัพพลายเออร์รายอื่นของผู้ผลิต iPhone รวมถึง Broadcom , Skyworks Solutions และ Texas Instruments ก็ลดลงเช่นกัน โดยลดลงระหว่าง 1.8% ถึง 7.3% การลดลงของภาคเทคโนโลยีส่งผลกระทบต่อดัชนีหุ้นหลัก 3 ดัชนีของสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Nasdaq Composite ที่เน้นเทคโนโลยี ซึ่งร่วงลง 0.9% ในการซื้อขายช่วงบ่าย

“การประกาศนี้ดูเหมือนจะเป็นการย้ำความสนใจของนักลงทุนว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนนั้นมีความเสี่ยงอย่างมากต่อราคาหุ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยี” Rick Meckler หุ้นส่วนของ Cherry Lane Investments กล่าว

ประเทศจีนถือเป็นความหวังสำหรับ Apple ในช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับการขาย iPhone

“จีนเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับ Apple ไม่ใช่แค่เพราะเป็นศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญอย่างยิ่ง แต่เป็นเพราะประเทศนี้เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ” Susannah Streeter หัวหน้าฝ่ายเงินและตลาดของ Hargreaves Lansdown กล่าว

ที่ผ่านมา Apple ได้รับรายได้เกือบหนึ่งในห้าจากธุรกิจในประเทศจีน

“คู่แข่งกำลังปิดช่องว่างในการขายสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ และหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น อาจทำให้คู่แข่งมีโอกาสแย่งตำแหน่งแชมป์ของ Apple ได้มากขึ้น” Streeter กล่าว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Huawei ของจีนได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Mate 60 Pro ใหม่ ซึ่งขับเคลื่อนโดยชิปขั้นสูงที่ผลิตโดย SMIC ผู้ผลิตชิปของจีน และถือเป็นความก้าวหน้าสำหรับทั้งคู่ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ

การคว่ำบาตรดังกล่าวตัดสิทธิ์การเข้าถึงเครื่องมือสร้างชิปที่จำเป็นสำหรับการผลิตโทรศัพท์มือถือรุ่นที่ทันสมัยที่สุดของ Huawei  กระทบต่อธุรกิจของบริษัท และช่วยให้ Apple แย่งส่วนแบ่งตลาดบางส่วนจากบริษัทที่ได้รับความนิยมในจีน

“หาก Huawei มีความสามารถในการจัดหาและปรับขนาดชิป Kirin 9000S ที่ผลิตเองในประเทศ เราจะเห็นว่าโทรศัพท์ซีรีส์ Mate จะเป็นโอกาสสำหรับ Huawei ในการเพิ่มยอดขายและฟื้นส่วนแบ่งการตลาด” นักวิเคราะห์จาก BofA Global Research กล่าว

อย่างไรก็ตาม Apple อาจเห็นยอดซื้อเพิ่มขึ้นหลังจากงานอีเว้นท์ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 15 และสมาร์ทวอทช์ใหม่