ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ จากข้อมูลเงินเฟ้อและท่าทีเฟด

ดัชนีราคาผู้ผลิตสำหรับความต้องการขั้นสุดท้ายเพิ่มขึ้น 0.2% ต่อเดือนในเดือนตุลาคม ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ แม้ว่าการเพิ่มขึ้น 2.4% ต่อปีจะสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม

 

กระทรวงแรงงานกล่าวว่าการเรียกร้องสวัสดิการว่างงานของรัฐเบื้องต้นลดลง 4,000 รายเหลือ 217,000 รายที่ปรับตามฤดูกาลแล้วในสัปดาห์นี้ ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์เล็กน้อยที่ 223,000 รายโดยนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดยรอยเตอร์ โดยบ่งชี้ว่ารายงานเงินเดือนของรัฐบาลในเดือนตุลาคมที่อ่อนแอนั้นถือเป็นความผิดปกติ

 

ขณะที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวลล์กล่าวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ตลาดงานที่มั่นคง และอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% หมายความว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและสามารถไตร่ตรองอย่างรอบคอบได้

 

หุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงหลังจากการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจและลดลงต่อเนื่องหลังจากความเห็นของพาวเวลล์

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ร่วงลง 175.86 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 43,782.33 จุด

ส่วนดัชนี S&P 500 (.SPX) ร่วงลง 29.15 จุด หรือ 0.49% สู่ 5,956.23 จุด

และดัชนี Nasdaq Composite ( .IXIC) ร่วงลง 105.02 จุด หรือ 0.55% เป็น 19,125.71 จุด

 

ราคาน้ำมันปิดสูงขึ้นเล็กน้อยในการซื้อขายที่ไม่คึกคักในวันพฤหัสบดี เนื่องจากการดึงสต็อกเชื้อเพลิงของสหรัฐฯ ที่สูงลิบเกินดุลกับความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาดและความกังวลด้านอุปสงค์ที่เกิดจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ 28 เซนต์ หรือสูงขึ้น 0.4% อยู่ที่ 72.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.4% อยู่ที่ 68.70 ดอลลาร์ 

 

ราคาทองคำอ่อนตัวลงหลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนในวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ แม้ว่าเทรดเดอร์จะไม่สูญเสียความมั่นใจในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด

 

ราคาทองสปอตร่วงลง 0.1% สู่ระดับ 2,570.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 

ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลง 0.5% ที่ 2,572.90 ดอลลาร์