จีนให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ จัดการกับหนี้ของท้องถิ่น

ผู้นำจีนกำลังพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจและขจัดความเสี่ยงทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากทรัพย์สินตกต่ำและหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นจำนวน 92 ล้านล้านหยวน (12.77 ล้านล้านดอลลาร์)

สถาบันการเงินจะสนองความต้องการทางการเงินที่สมเหตุสมผลของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และงดเว้นจากการตัดการให้กู้ยืมแก่พวกเขา ผู้กำกับดูแลหลักทรัพย์ ระบุเมื่อวันศุกร์ หลังการประชุมที่จัดขึ้นโดยธนาคารกลางและหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงิน

คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีน ระบุว่า ความพยายามล่าสุดในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ผ่านทางเครดิตธนาคาร พันธบัตร และตราสารทุน กำลังได้รับแรงผลักดัน

หน่วยงานกำกับดูแลกล่าวเสริมว่า จีนจะส่งเสริมการขยายสินเชื่อที่มั่นคงเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและสถาบันการเงินควรทำงานร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อแก้ไขความเสี่ยงด้านหนี้ โดยการขยาย การแลกเปลี่ยน หรือการโอนหนี้ 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นจีนได้จัดตั้งนิติบุคคลขึ้นมาเพื่อลงทุนพัฒนาและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ

แม้ปัจจุบัน รัฐบาลจีนพึ่งพานิติบุคคลเหล่านี้น้อยลงแล้ว จากมาตรการลดภาระหนี้สินในระบบจากภาครัฐแต่ความเสี่ยงที่ นิติบุคคลเหล่านี้จะเกิดการผิดนัดชำระหนี้กลับเพิ่มขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจาก การลดการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่น จากกำไรที่ลดลงจากการขายที่ดินและภาพเศรษฐกิจมหภาคที่อ่อนแอลง

โดยเมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน คณะรัฐมนตรีของจีนได้ออกแนวปฏิบัติสำหรับการปฏิรูปโมเดลการร่วมทุนระหว่างรัฐและเอกชน (Public-Private Partnership : PPP) ซึ่งจีนใช้ครั้งแรกเมื่อปี 2014 ในขณะที่รัฐบาลจีนมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของหนี้รัฐบาลท้องถิ่นที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ 

ตามข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นจีนอยู่ที่ 92 ล้านล้านหยวน(ประมาณ 464 ล้านล้านบาท) หรือคิดเป็น 76% ของจีดีพีจีนในปี 2022 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 62.2% ในปี2019 หรือปีก่อนโควิด-19 

ในขณะที่การลดลงของราคาบ้านในช่วงที่ผ่านมาสะท้อนการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดที่อยู่อาศัยจีน ที่ยอดขายและการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์หดตัวลงอย่างมาก บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่เริ่มผิดนัดชำระนี้และต้องฟื้นฟูกิจการ