สายการบิน Emirates กระทบหนักจากเหตุน้ำท่วมดูไบ
สายการบิน Emirates และสายการบินในเครือ Flydubai เริ่มกลับมาดำเนินการแล้ว หลังจากฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงทั่วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในรอบ 75 ปี แต่การเคลียร์ปัญหาให้ผู้โดยสารที่ตกค้างจำนวนมากยังต้องใช้เวลาอีกระยะ
ทิม คลาร์ก ประธานสายการบิน Emirates ระบุว่าต้องยกเลิกเที่ยวบินเกือบ 400 เที่ยว และล่าช้าอีกหลายเที่ยวบินอันเป็นผลมาจากพายุที่ถล่มเมืองดูไบเมื่อวันอังคาร ขณะเดียวกันต้องระงับการเช็คอินสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางออกจากดูไบ และหยุดการดำเนินการต่อเครื่องผ่านสนามบินนานาชาติดูไบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สำคัญระดับโลก ส่งผลให้นักเดินทางหลายพันคนติดอยู่ที่สนามบิน โดยสายการบินได้มอบห้องพักในโรงแรม 12,000 ห้องและบัตรกำนัลอาหาร 250,000 ใบให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ เขาเสริมว่าอาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะเคลียร์ยอดค้างของผู้โดยสารที่จองใหม่ได้
นอกจากนี้ สายการบินยังจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจขึ้นเพื่อจัดการการส่งคืนสัมภาระประมาณ 30,000 ชิ้นที่ตกค้างให้กับเจ้าของ โดยการเคลียร์ผู้โดยสารที่จองใหม่และกระเป๋าเดินทางจะต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ทางสายการบินเรียกร้องให้ลูกค้าอดทนและเข้าใจ
นอกจาก Emirates แล้ว Flydubai ซึ่งเป็นสายการบินในเครือยังกลับมาบินตามตารางเที่ยวบินเต็มรูปแบบจากอาคารผู้โดยสาร 2 และอาคาร 3 ของสนามบินเมื่อวันเสาร์ด้วย ท่ามกลางความกดดันของการเร่งขนย้ายผู้โดยสารที่ยังตกค้าง
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมาหลายวันแล้ว โดยถนนระหว่างเมืองและอาบูดาบียังคงจมอยู่ใต้น้ำบางส่วนเมื่อวันเสาร์ ในอาบูดาบี ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารบางแห่งประสบปัญหาการขาดแคลนผลิตภัณฑ์ ทำให้ไม่สามารถรับสินค้าที่จัดส่งจากดูไบได้ ขณะที่น้ำท่วมรุนแรงส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 1,000 เที่ยว ทั้งเครื่องบินขาเข้าและขาออกจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนเส้นทางและความล่าช้าเป็นเวลานาน จากโดยปกติแล้วผู้โดยสารจำนวนหนึ่งในสี่ล้านคนเดินทางผ่านสนามบินทุกวัน แต่หน่วยงานสนามบินได้จำกัดจำนวนผู้โดยสารขาเข้าชั่วคราวเพื่อให้การฟื้นฟูการดำเนินการ และการระบายผู้ตกค้างทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ก่อนหน้านี้ โฆษกท่าอากาศยานดูไบกล่าวว่า นี่เป็นปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักที่สุดที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับในรอบ 75 ปี และเรากำลังทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อให้การดำเนินงานกลับสู่ภาวะปกติ
นักวิจัยได้เชื่อมโยงเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และคาดการณ์ว่าภาวะโลกร้อนจะนำไปสู่อุณหภูมิที่สูงขึ้น ความชื้นที่เพิ่มขึ้น และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมมากขึ้นในบางส่วนของภูมิภาค ขณะเดียวกันการขาดโครงสร้างพื้นฐานในการระบายน้ำเพื่อรับมือกับฝนตกหนักในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศในเขตแห้งแล้งหรือในพื้นที่ทะเลทรายเช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อาจทำให้ประเทศเหล่านี้ได้รับผลกระทบรุนแรงจากน้ำท่วมเป็นพิเศษ
