ตลาดหุ้นสหรัฐทรงตัวหลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ดอลลาร์แกร่ง

ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามของสหรัฐฯ สิ้นสุดสัปดาห์ที่สูงขึ้น ใกล้เคียงกับจุดสูงสุดตลอดกาลในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนพุ่งเข้าสู่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น

ตามข้อมูลของ FedWatch Tool ของ CME ตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอย่างน้อย 25 bps ในเดือนพฤศจิกายน โดยคาดการณ์ว่าการปรับลด 50 bps มีโอกาส 48.9% 

แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังส่งผลต่อการประชุมของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นด้วย ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวว่าความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกและความผันผวนของตลาดอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบาย

เงินเยนอ่อนค่าลงหลังการประชุมและอ่อนค่าลง 0.94% เมื่อเทียบกับดอลลาร์เป็น 143.97 ต่อดอลลาร์ เงินดอลลาร์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสองสัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยนหลังจากคำพูดของอุเอดะ

เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังจากอ่อนค่าเมื่อต้นสัปดาห์ ดัชนี ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงิน เพิ่มขึ้น 0.12% เป็น 100.79

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดเพิ่มขึ้น 0.09% เป็น 42,063.36จุด

 S&P 500 (.SPX) ลดลงที่ 0.19% เป็น 5,702.55 และ Nasdaq Composite (.IXIC) ลดลง 0.36% ที่ 17,948.32 จุด

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์อีกด้วย ทองคำแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,614 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาน้ำมันหลักลดลงในการซื้อขายรายวันในวันศุกร์ แต่โดยรวมบวกกว่า 4% ในสัปดาห์นี้

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเบรนต์ร่วงลง 0.52% อยู่ที่ 74.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ของสหรัฐฯ ตกลง 0.4% สู่ระดับ 71.92 ดอลลาร์