Tesla ดันตลาดหุ้นสหรัฐ Nasdaq, S&P กลับมาปิดบวก ราคาทองพุ่งอีก

หุ้นของ Tesla เพิ่มขึ้น 21.9% โดยผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายนี้ตั้งเป้าจะเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากกว่า 140,000 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่บริษัทรายงานผลกำไรไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง และทำให้นักลงทุนประหลาดใจด้วยการคาดการณ์การเติบโตของยอดขาย 20% ถึง 30% ในปีหน้า

 

ดัชนี S&P ปรับเพิ่มขึ้นรายวันเป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ทัศนคติต่อตลาดยังคงค่อนข้างสั่นคลอน หุ้นใน S&P ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มสีแดง เนื่องจากรายงานรายได้อื่นๆ และความกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่แม้จะลดลง แต่ยังคงสูงอยู่

 

อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ลดลงในวันนั้นที่ 4.20% หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวันก่อน เพิ่มขึ้นสูงถึง 4.26% ในช่วงวันพุธ ซึ่งทำให้ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามดัชนีต้องขาดทุนไป

 

หุ้นได้ผ่อนคลายจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงสองสามช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากการประเมินคาดการณ์ใหม่เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ อัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังที่เพิ่มขึ้น รายได้ของบริษัท และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐที่กำลังจะมาถึง

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ลดลง 140.59 จุดหรือ 0.33% ปิดที่ 42,374.36 จุด

ส่วน S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 12.44 จุดหรือ 0.21% ปิดที่ 5,809.86 จุด

และดัชนี Nasdaq Composite ( .IXIC) เพิ่มขึ้น 138.83 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 18,415.49 จุด

 

ราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกรอบ ท่ามกลางความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยจากความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีอยู่ และในขณะที่นักลงทุนแสวงหาความปลอดภัยจากการเลือกตั้งสหรัฐที่ใกล้เข้ามาในวันที่ 5 พ.ย.

 

ราคาทองสปอตเพิ่มขึ้น 0.44% สู่ระดับ 2,729.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.54% สู่ระดับ 2,729.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ราคาน้ำมันลดลงประมาณ 1% ในการซื้อขายที่ผันผวนจากความกังวลว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในยุโรปอาจทำให้ความต้องการพลังงานลดลง

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเบรนต์ร่วง 0.79% สู่ระดับ 74.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตของสหรัฐฯ ร่วงลง 0.88% สู่ระดับ 70.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล