ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดสูงขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุด

เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหนึ่งในสี่ของเปอร์เซ็นต์เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายคำนึงถึงตลาดงานที่ "โดยทั่วไปผ่อนคลายลง" ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงเคลื่อนตัวไปสู่เป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ

 

ก่อนหน้านี้ ตลาดเก็งว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 25 จุดสำหรับการประชุมเดือนพฤศจิกายน และตอนนี้จะจับตาดูความเห็นที่จะเกิดขึ้นจากธนาคารกลางเพื่อเป็นแนวทางเกี่ยวกับเส้นทางของนโยบายการเงิน

 

นอกจากนี้ ความคาดหวังของนักลงทุนว่าทรัมป์จะลดภาษีนิติบุคคลและลดกฎระเบียบต่างๆ ทำให้ดัชนีหลักทั้งสามดัชนีพุ่งสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้า โดยทั้ง Dow Industrials และ S&P 500 ได้เพิ่มเปอร์เซ็นต์สูงสุดในหนึ่งวันในรอบสองปี

 

ดัชนี S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 44.84 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 5,973.88 จุด 

ขณะที่ Nasdaq Composite (.IXIC) เพิ่มขึ้น 285.89 จุด หรือ 1.51% ปิดที่ 19,269.46 จุด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ลดลง 2.67 จุดหรือ 0.01% สู่ 43,727.26 จุด

 

ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเกือบ 1% ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากตลาดชั่งน้ำหนักว่านโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ว่าการรัฐจะส่งผลกระทบต่ออุปทานอย่างไร และในขณะที่ผู้ขุดเจาะลดกำลังการผลิตขณะเดียวกันก็รับมือพายุเฮอริเคนราฟาเอล

 

เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและการนำเข้าน้ำมันดิบที่ลดลงในจีนทำให้กำไรมีจำกัด

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 0.95% อยู่ที่ 75.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ 0.93% สู่ระดับ 72.36 ดอลลาร์

 

ราคาทองคำเพิ่มขึ้นมากกว่า 1% ในวันพฤหัสบดี โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1 ใน 4 ของเปอร์เซ็นต์ตามที่คาด

 

ราคาทองสปอตเพิ่มขึ้น 1.2% อยู่ที่ 2,691.36 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ในวันพุธ ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ สูงขึ้น 1.1% ที่ 2,705.80 ดอลลาร์