จับตา 3 บริษัทเตรียมขึ้นราคา! รับแผนกีดกันการค้าของทรัมป์หากมีผลบังคับใช้
บริษัทในสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวขึ้นราคาสินค้ารับนโยบายกีดกันทางการค้าภายใต้การนำของ “โดนัลด์ ทรัมป์” แม้ยังไร้ประกาศบังคับใช้ โดยจะเก็บภาษีนำเข้า 60% สำหรับสินค้าที่มาจากประเทศจีน
ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 Donald Trump ได้เสนอนโยบายจัดเก็บภาษีนำเข้า 60% สำหรับสินค้าที่มาจากประเทศจีน ส่วนสินค้านำเข้าจากประเทศอื่นๆจะจัดเก็บภาษีที่ 10-20% อย่างไรก็ตาม แม้นโยบายดังกล่าวยังไม่เริ่มบังคับใช้ แต่นักเศรษฐศาสตร์หลายรายให้ความเห็นว่า นโยบายดังกล่าวจะทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นและบีบให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทางฝั่งธุรกิจเอง เริ่มมีหลายบริษัทที่เตรียมรับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวโดย AutoZone บริษัทจำหน่ายอะไหล่และอุปกรณ์เสริมสำหรับทั้งรถยนต์เผยว่า หากทรัมป์บังคับใช้นโยบายจัดเก็บภาษีนำเข้า ทางบริษัทเองไม่สามารถแบกรับต้นทุนไว้ได้ทั้งหมด ผลกระทบจะตกไปอยู่ที่ลูกค้าเช่นกัน เนื่องจากต้องมีการปรับเพิ่มราคาสินค้า อย่างไรก็ตาม บริษัทจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้าล่วงหน้าก่อนนโยบายจัดเก็บภาษีนำเข้าจะมีผล ซึ่งหลังจากนี้ ราคาสินค้าจะค่อยๆ ปรับตัวลงตามระยะเวลา
ทางด้าน Tim Boyle ซีอีโอของ Columbia Sportswear บริษัทที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ยังได้ออกมาแสดงความกังวลต่อนโยบายดังกล่าวโดยระบุว่า "สงครามทางการค้าไม่ใช่เรื่องดีสำหรับธุรกิจและไม่ใช่เรื่องง่ายต่อการแข่งขัน" การคงราคาสินค้าไว้ตามเดิมถือเป็นเรื่องยากมากสำหรับบริษัทในช่วงเวลานี้ Columbia Sportswear จึงมีความจำเป็นที่ต้องขึ้นราคาสินค้า ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ
นอกจากนี้ Stanley Black & Decker บริษัทอะไหล่และเครื่องมือช่าง เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ได้ประเมินสถานการณ์เพื่อเตรียมรับมือกับนโยบายกีดกันทางการค้า ซึ่งนอกจากการปรับเพิ่มราคาสินค้าแล้ว Stanley Black & Decker ยังเริ่มพิจารณาว่าอาจย้ายฐานการผลิตจากจีนไปยังประเทศอื่น เช่น เม็กซิโก เพื่อลดผลกระทบจากกำแพงภาษีนำเข้า
ทั้งนี้ ยังมีบางบริษัทที่รอนโยบายประกาศบังคับใช้อย่างชัดเจนเช่น ELF Beauty ที่ยังคงราคาสินค้าไว้ตามเดิม และนโยบายใหม่ของการเก็บภาษีนำเข้าจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจจนกว่าจะถึงหลังปีงบประมาณ 2025