ทรัมป์ ตั้งอดีต CEO สมาคมมวยปล้ำ WWE นั่งรมว.ศึกษาธิการ
โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศแต่งตั้ง “ลินดา แมคมาฮอน” อดีตซีอีโอ WWE สมาคมมวยปล้ำอาชีพที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
โดนัลด์ ทรัมป์ได้ประกาศแต่งตั้งลินดา แมคมาฮอน (Linda McMahon) อดีตซีอีโอ WWE สมาคมมวยปล้ำอาชีพที่ใหญ่ที่สุดในโลก ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยทรัมป์ให้ความเห็นว่า
“ลินดา แมคมาฮอน มีผลงานที่น่าทึ่ง ซึ่งในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ การดำรงตำแหน่งของลินดาในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เธอจะทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ปกครองในทุกมลรัฐของอเมริกา เอื้อต่อการตัดสินใจของผู้ปกครองในการเลือกการศึกษาที่ดีที่สุดให้กับบุตรหลานในครอบครัว”
ประวัติ ลินดา แมคมาฮอน (Linda McMahon)
ลินดา แมคมาฮอน เป็นผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมมวยปล้ำอาชีพที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือ World Wrestling Entertainment (WWE) กับสามีของเธอ วินซ์ แมคมาฮอน (Vince McMahon) ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเธอมีบทบาททางการเมืองที่ชัดเจนขึ้น โดยได้รับแต่งตั้งเป็นประธานคณะทำงานช่วงเปลี่ยนผ่านในเดือนสิงหาคม หลังบริจาคเงิน 814,600 ดอลลาร์ให้กับแคมเปญหาเสียงของทรัมป์ในปี 2024
แมคมาฮอนเคยดำรงตำแหน่งในรัฐบาลทรัมป์ครั้งแรกในฐานะผู้บริหารหน่วยงานส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อม (Small Business Administration) ระหว่างปี 2017-2019 นอกจากนี้ เธอยังเป็นประธานคณะกรรมการ America First Action ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่สนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่ของทรัมป์ โดยสามารถระดมทุนได้ถึง 83 ล้านดอลลาร์ในปี 2020
นอกจากนี้ ในปี 2016 เธอยังเคยบริจาคเงิน 6 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์หลังจากที่เขาได้รับการเสนอชื่อ
แม้ลินดา แมคมาฮอน จะประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจ แต่เธอยังตกอยู่ระหว่างประเด็นข้อพิพาททางกฎหมาย เนื่องจากสถานการณ์ล่าสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ลินดา แมคมาฮอน ถูกกล่าวถึงในคดีฟ้องร้อง WWE ว่าเธอและคณะผู้บริหารคนอื่นๆ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเพิกเฉยต่อการล่วงละเมิดทางเพศเด็กชาย ซึ่งทางทนายของเธอปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่าเป็น "ข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง"
บทบาทด้านการศึกษาของลินดา แมคมาฮอน
แม้ว่าลินดา แมคมาฮอนจะไม่เป็นที่รู้จักในแวดวงการศึกษามากนัก แต่เธอเคยสนับสนุนแนวคิด Charter Schools หรือ “โรงเรียนในกำกับของรัฐบาล” ที่บริหารงานโดยเอกชน ซึ่งโรงเรียนประเภทนี้มักจะมีความยืดหยุ่นในการจัดการศึกษาและสามารถทดลองแนวทางการเรียนการสอนใหม่ๆ ได้มากกว่าโรงเรียนรัฐบาลทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ลินดา แมคมาฮอนเคยเล่าถึงความสนใจในด้านการศึกษาว่า เธอเคยมีความฝันที่จะเป็นครู แต่ความคิดนี้ก็เปลี่ยนไปหลังจากแต่งงาน
สำหรับนโยบายด้านการศึกษา ทรัมป์เคยประกาศว่าจะยุบกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งก่อตั้งโดยสภาคองเกรสในปี 1979 และคืนอำนาจส่วนใหญ่ให้กับมลรัฐ อย่างไรก็ตาม หากจะดำเนินการให้ประสบความสำเร็จตามนโยบายนั้น ทรัมป์ต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสเสียก่อน
ทั้งนี้ บทบาทใหม่ของลินดา แมคมาฮอนในกระทรวงศึกษาธิการ ถือว่าน่าจับตาและอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในระบบการศึกษาอเมริกัน หากเธอสามารถผลักดันนโยบายของทรัมป์ได้สำเร็จ