ภาษีทรัมป์กระทบอุตสาหกรรมรถยนต์ Tesla รับผลกระทบน้อยสุด

Tesla ซึ่งมีฐานการผลิตในรัฐเท็กซัส ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกหลายประการ นักวิเคราะห์มองว่าห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งและประสิทธิภาพทางการเงินของ Tesla จะช่วยลดผลกระทบจากภาษีที่อาจเกิดขึ้นกับการขนส่งรถยนต์และชิ้นส่วนทั่วโลก เนื่องจากบริษัทฯ มีฐานการผลิตและห่วงโซ่อุปทานในประเทศเป็นส่วนใหญ่

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Tesla จะได้รับประโยชน์ในสหรัฐฯ แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง Elon Musk และ Trump อาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ในตลาดโลก นอกจากนี้ หุ้นของ Tesla ยังเผชิญกับความผันผวนในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสต่อต้านรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น

 

ในทางตรงกันข้าม ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อื่นๆ เช่น General Motors, Ford Motor และ Stellantis ต่างเผชิญกับความท้าทายจากนโยบายภาษีดังกล่าว เนื่องจากต้นทุนการผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ ที่สูงขึ้นและกำไรที่ลดลง

 

Tesla ได้เปรียบเชิงการแข่งขัน เนื่องจากพึ่งพาการนำเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศน้อยกว่าคู่แข่ง โดยรถยนต์ Tesla ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ ทั้งหมดผลิตในประเทศ ในขณะที่ Toyota และ GM มีสัดส่วนการนำเข้ารถยนต์สูงถึง 55% และ 48% ตามลำดับ

 

นักวิเคราะห์ของ Bernstein ประเมินว่า 61% ของปริมาณรถยนต์ Tesla ที่จำหน่ายในสหรัฐฯ มาจากสหรัฐฯ เอง ซึ่งช่วยให้บริษัทฯ หลีกเลี่ยงผลกระทบจากภาษีและอาจได้รับประโยชน์จากการที่คู่แข่งต้องปรับราคาสูงขึ้น

 

แม้ว่า Trump จะระบุว่านโยบายภาษีของเขาอาจเป็นกลางหรือเป็นประโยชน์ต่อ Tesla แต่ Musk ยอมรับว่าภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนชิ้นส่วนรถยนต์ Tesla ที่นำเข้าจากต่างประเทศ

 

Tesla นำเข้าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจากจีนและชิ้นส่วนยานยนต์อื่นๆ จากหลายประเทศ ซึ่งหากภาษีนำเข้ารถยนต์ยังคงอยู่ที่ 25% ราคารถยนต์อาจสูงขึ้น 5,000 ถึง 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

 

อย่างไรก็ตาม Tesla ยังคงมีความท้าทายในตลาดยุโรปและแคนาดา เนื่องจากความรู้สึกทางการเมืองและแรงจูงใจด้านรถยนต์ไฟฟ้าที่ลดลงกำลังส่งผลกระทบต่อสถานะทางการแข่งขันของบริษัทฯ

 

นักวิเคราะห์จาก Wall Street คาดการณ์ว่า Tesla จะรายงานการส่งมอบรถยนต์ในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 3% แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง Musk และ Trump อาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขายในอนาคต