ทรัมป์กลับลำ! จ่อเก็บภาษีชิปเดือนหน้า อนาคตสินค้าไอทียังผันผวน

14 เมษายน 2568

อนาคตสินค้ากลุ่มเทคโนโลยียังลูกผีลูกคน รอดภาษีตอบโต้ แต่ไม่พ้น "ภาษีเซมิคอนดักเตอร์" ทรัมป์จ่อเก็บภาษี "ชิป" เดือนหน้า

อุตสาหกรรมเทคโนโลยีอาจยังไม่สามารถวางใจได้ว่าจะรอดพ้นจากกำแพงภาษีทรัมป์ระลอกใหม่หรือไม่ แม้จะมีการประกาศยกเว้นภาษีสินค้าบางรายการไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม

 

ล่าสุดคำยืนยันจากฮาวเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ในยุคของประธานาธิบดีทรัมป์ได้เปิดเผยว่า

 

แม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะทำให้สินค้ากลุ่มเทคโนโลยี "ได้รับการยกเว้นจากภาษีตอบโต้" ในปัจจุบัน แต่สินค้าเทคโนโลยีพวกนี้จะถูกรวมอยู่ใน "ภาษีเซมิคอนดักเตอร์" 

 

ซึ่งน่าจะประกาศใช้ในอีกหนึ่งหรือสองเดือนข้างหน้า"

 

ทรัมป์กลับลำ! จ่อเก็บภาษีชิปเดือนหน้า อนาคตสินค้าไอทียังผันผวน

ย้อนรอยทรัมป์ยกเว้นภาษีสินค้าอิเล็กทรอนิกส์

 

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อรัฐบาลทรัมป์ได้ประกาศข่าวที่สร้างความโล่งใจให้กับผู้บริโภคและบริษัทเทคโนโลยี

 

ด้วยการยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แล็ปท็อปและสมาร์ทโฟน จากมาตรการภาษีตอบโต้ที่เคยประกาศไว้เมื่อต้นเดือน

 

อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนในนโยบายการค้าของสหรัฐฯ กลับมาสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง

 

เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า เขาจะเปิดเผยอัตราภาษีใหม่สำหรับชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้าภายในสัปดาห์หน้า แม้จะแย้มว่าอาจมีความยืดหยุ่นให้กับบางบริษัทในภาคส่วนนี้ก็ตาม

 

คำประกาศดังกล่าวถือเป็นการกลับลำ และส่งสัญญาณว่าการยกเว้นภาษีตอบโต้ที่เคยให้กับสินค้าอย่างสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ที่นำเข้าจากจีน อาจมีอายุสั้นกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

เนื่องจากทรัมป์ต้องการ "จัดระเบียบ" การค้าในภาคส่วนเซมิคอนดักเตอร์ใหม่ทั้งหมด

ทรัมป์กลับลำ! จ่อเก็บภาษีชิปเดือนหน้า อนาคตสินค้าไอทียังผันผวน

ภาษีทรัมป์ยังต้องจับตาวันต่อวัน

 

การกลับลำของทรัมป์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยภายหลังที่ทำเนียบขาวเพิ่งประกาศยกเว้นภาษีตอบโต้สำหรับสินค้าเทคโนโลยีบางรายการจากจีนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

 

ซึ่งจุดประกายความหวังให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีว่าอาจหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น และผู้บริโภคจะยังสามารถซื้อสินค้าจำเป็น เช่น โทรศัพท์และแล็ปท็อปได้ในราคาเดิม

 

อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่วันต่อมา ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ฮาวเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลทรัมป์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า

 

สินค้าเทคโนโลยีสำคัญที่นำเข้าจากจีน รวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ จะต้องเผชิญกับ "ภาษีรอบใหม่" ที่จะบังคับใช้ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้า

 

ลัตนิกชี้แจงว่า ภาษีรอบใหม่นี้จะเป็น "ภาษีแบบพิเศษที่มุ่งเน้นเฉพาะกลุ่ม" (special focus-type of tariff) สำหรับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ

 

ควบคู่ไปกับภาษีเฉพาะภาคส่วนที่กำหนดเป้าหมายไปที่เซมิคอนดักเตอร์และเวชภัณฑ์ โดยภาษีเหล่านี้จะอยู่นอกเหนือจาก "ภาษีตอบโต้" ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจีน ซึ่งพุ่งสูงถึง 125% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

"ท่านประธานาธิบดีกำลังบอกว่าสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จะได้รับการยกเว้นจากภาษีตอบโต้ แต่จะถูกรวมอยู่ในกลุ่มภาษีเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งน่าจะประกาศใช้ในอีกหนึ่งหรือสองเดือน"

 

ลัตนิกกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับรายการ "This Week" ของสถานีโทรทัศน์ ABC พร้อมคาดการณ์ว่ามาตรการนี้จะดึงฐานการผลิตสินค้าเหล่านี้กลับมายังสหรัฐอเมริกา

 

ท่าทีที่กลับไปกลับมาของทรัมป์ในเรื่องภาษีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้จุดชนวนความผันผวนอย่างรุนแรงที่สุดในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ในปี 2020

 

โดยดัชนี S&P 500 ร่วงลงไปแล้วกว่า 10% นับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม

ทรัมป์กลับลำ! จ่อเก็บภาษีชิปเดือนหน้า อนาคตสินค้าไอทียังผันผวน

 

ตั้งเป้าดึงฐานการผลิตกลับแผ่นดินอเมริกา

 

เมื่อถูกถามถึงผลกระทบต่อราคาสินค้าที่ผู้บริโภคชาวอเมริกันอาจต้องจ่ายแพงขึ้นหรือไม่นั้น นายลัทนิกแสดงความเห็นว่า 

 

"ผมไม่คิดเช่นนั้น เราสามารถผลิตสินค้าในอเมริกาได้" 

 

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนได้โต้แย้งมุมมองนี้ โดยมองว่าแนวคิดเรื่องการมี "คนงานจำนวนมากมาประกอบชิ้นส่วนเล็กๆ เพื่อผลิตไอโฟนในสหรัฐอเมริกา" นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากในเชิงปฏิบัติ

 

ถึงแม้จะมีการผ่อนปรนด้านภาษีเป็นการชั่วคราว ทว่าสถานการณ์ทางภาษีสำหรับสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยี

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์และห่วงโซ่อุปทานอิเล็กทรอนิกส์โดยรวม ยังคงอยู่ในสภาวะที่ไม่มั่นคง

 

และมีความเป็นไปได้ที่จะเผชิญกับมาตรการเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้ อันเป็นผลมาจากนโยบายที่มุ่งเน้นการนำฐานการผลิตกลับสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา

Thailand Web Stat