คืนสู่เหย้า ... สงครามหุ่นยนต์สะท้านโลก

Transformers 3 : Dark of The Moon

โดย.. อินทรชัย พาณิชกุล

ประเทศ สหรัฐ

ประเภทหนัง แอ็กชันไซไฟ

เรตติ้ง น.13+เหมาะสมกับผู้มีอายุ 13 ปีขึ้นไป

ความยาว 155 นาที

กำกับ ไมเคิล เบย์

นำแสดง ไชอา ลาบัฟ/โรซี ฮันทิงตันไวต์ลีย์/ไทรีส กิ๊บสัน/ จอห์น เทอทูโร

กลางเดือน ก.ค. 1969 ขณะที่คนทั้งโลกพากันตื่นเต้นกับก้าวกระโดดครั้งสำคัญของมนุษยชาติ หลังสหรัฐส่งยานอะพอลโล 11 พามนุษย์คนแรกไปเหยียบบนดวงจันทร์ได้สำเร็จ

แต่เรื่องลับสุดยอดที่ไม่มีใครล่วงรู้ มีการค้นพบสิ่งแปลกปลอมน่าอันตื่นตกใจ ซากหุ่นยนต์ยักษ์ฝังร่างแน่นิ่งอยู่ในยานอวกาศขนาดใหญ่ใต้พื้นผิวขรุขระของดวงจันทร์

นั่นคือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์สงคราม ระหว่างกองทัพหุ่นยนต์และมนุษย์บนโลกในอีก 50 ปีข้างหน้า

Transformers 3 : Dark of The Moon ผลงานภาคล่าสุดของผู้กำกับบ้าพลัง ไมเคิล เบย์ กลับมาพร้อมกับทีมนักแสดงคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น ไชอา ลาบัฟ ไทรีส กิ๊บสัน จอห์น เทอทูโร จอช ดูฮาเมล เสริมทัพดาราคุณภาพที่มารับบทใหม่ๆ อย่าง ฟรานเชส แม็กดอแมนด์ จอห์น มัลโควิช แพทริก เดมซีย์ รวมถึงโรซี ฮันทิงตันไวต์ลีย์ (รับบทนางเอกแทนสาวสวยสุดเซ็กซี่ เมเเกน ฟอกซ์) ถ่ายทำด้วยระบบ 3 มิติตลอดทั้งเรื่อง

 

หลังสิ้นสุดสงครามหุ่นยนต์ระหว่างฝ่ายดีเซปติคอนและออโตบอตส์ โลกก็พลันคืนสู่ความสงบ ไอ้หนุ่มจอมห้าว แซม วิทวิคกี วีรบุรุษผู้ถูกลืม ก็กลับมาใช้ชีวิตปกติธรรมดากับแฟนสาวสวยคนใหม่ เตะฝุ่นหางานทำ หวังสร้างอนาคตสดใสมั่นคง

ถึงอย่างนั้น แซมและพลพรรคหุ่นเหล็กออโตบอตส์ นำโดยอ็อพติมัส ไพรม์ บัมเบิลบี ไอรอนไฮด์ รวมถึงพันธมิตรแห่งกองทัพสหรัฐและหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ต่างยังคงจับตาคอยเฝ้าระวังสัญญาณอันตราย อันจะเป็นการเปิดฉากสงครามหุ่นยนต์ขึ้นอีกครั้ง

และแล้วเรื่องที่หลีกเลี่ยงมาตลอดก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อเมกาทรอนส์ ผู้นำฝ่ายดีเซปติคอน กองทัพหุ่นรบนักล่าอาณานิคมซึ่งเก็บตัวซุ่มเงียบรอคอยแก้แค้นมานาน ได้สั่งการแก่เหล่าสมุนทำการหลอกล่อ วางกับดักให้ทุกฝ่ายตายใจ หลงกลในแผนอันชาญฉลาด หวังชิงร่างของเซนติเนล ไพรม์ บรรพบุรุษผู้นำหุ่นยนต์ของฝ่ายออโตบอตส์ รวมถึงแท่งเสาที่สามารถสร้างสะพานอวกาศ เพื่อลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ล้ำสมัย และกองพลสนับสนุนจากนอกโลก

ฉากสงครามสะท้านสะเทือนโลก โดยมีเมืองชิคาโกเป็นใจกลางสมรภูมิรบ ระหว่างฝ่ายออโตบอตส์ที่จับมือกับมนุษย์ ห้ำหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตายกับฝ่ายดีเซปติคอนที่เหนือกว่าหลายขุม ตึกสูงระฟ้าจวบจนถนนทุกเส้นพังพินาศย่อยยับ เหลือเพียงซากปรักหักพัง ผู้คนหนีตายกันจ้าละหวั่น สถานการณ์ฉุกเฉินดำเนินมาถึงขีดสุด

 

ตัวละครหุ่นยนต์หลักๆ ยังอยู่ครบ ทั้งฝ่ายออโตบอตส์ อย่าง อ็อปติมัส ไพรม์ บัมเบิลบี ไอรอนไฮด์ เช่นเดียวกับฝ่ายดิเซ็ปติคอนส์ นำโดยเมกาทรอนส์ สตาร์สครีม แต่ภาคนี้มีตัวเจ๋งเข้ามาด้วยหุ่นรบตัวใหม่อย่างเซนติเนล ไพรม์ และหุ่นยนต์ตัวร้ายที่ขึ้นจอเป็นครั้งแรกอย่างช็อกเวฟ

อารมณ์ของหนัง ทั้งสนุกและตื่นเต้นเร้าใจ แถมมีมุขตลกสอดแทรกเรียกเสียงฮาได้เป็นระยะ

ครั้นพอถึงฉากแอ็กชัน ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ของเหล่ากองทัพหุ่นยนต์ทั้งสองฝ่าย ภาพเมืองชิคาโกโดนถล่มทำลายล้างผลาญ ฉากเหินเวหาในชุดวิงสูทของเหล่าทหารกล้า ต่างฝ่ายต่างระดมยิงระเบิดใส่กันตูมตามกลางสมรภูมินั่นก็มันสะใจเป็นบ้า

เรื่องนี้ก็คงกวาดรายได้มหาศาลอีกแน่นอน ใครยังไม่ชมแนะนำให้ไปดูในโรงภาพยนตร์ระบบ 3 มิตินะครับ