posttoday

เกนจิ ความพิเศษที่ชวนค้นหา

22 กรกฎาคม 2554

เกนจิ (Genji) ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อยาวนานกว่า 27 ปี บัดนี้ถูกปรับลุคใหม่หมดทุกมุมมอง

เกนจิ (Genji) ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อยาวนานกว่า 27 ปี บัดนี้ถูกปรับลุคใหม่หมดทุกมุมมอง

โดย.. ซิตี้กาย / ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

เกนจิ (Genji) ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อยาวนานกว่า 27 ปี บัดนี้ถูกปรับลุคใหม่หมดทุกมุมมอง จากฝีมือของไฮโซหนุ่มหล่อไฟแรง แท็ทพลวุฒิ โพธิรัตนังกูร ที่นำประสบการณ์ด้านอินทีเรียร์ดีไซน์ที่ร่ำเรียน และความชื่นชอบงานอาร์ต ผนวกกับความหลงใหลในรสชาติของอาหาร ชุบชีวิตเกนจิให้มีชีวิตชีวา อบอุ่น และน่าสัมผัสทุกโมงยามยิ่งกว่าเดิม

เรื่องราวของเกนจิมีความพิเศษชวนให้ค้นหาไม่ต่างกับนักรบในนิยายอันโด่งดังของญี่ปุ่นที่มีชื่อเดียวกันกับชื่อร้าน ทั้งบรรยากาศการตกแต่ง อาหาร และรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ เฟอร์นิเจอร์ จาน ชาม ล้วนมีเรื่องราวและนำเสนอให้อยู่ร่วมกันอย่างสอดคล้องและลงตัว

เกนจิ ความพิเศษที่ชวนค้นหา

เพียงก้าวแรกก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นด้วยการตกแต่งที่ให้กลิ่นอายแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ในบริเวณไดนิงรูมได้กลิ่นหอมจางๆ ของไม้ฮิโนกิ สนญี่ปุ่นที่นิยมใช้ในสปา ชวนให้เคลิบเคลิ้ม ซึ่งหนุ่มแท็ทลงมือดีไซน์เป็นโต๊ะรับประทานอาหารด้วยตัวเอง

หากต้องการความเป็นส่วนตัว มีห้องวีไอพีที่ให้ความรู้สึกสงบและอบอุ่นตามแบบฉบับญี่ปุ่นเอาไว้ทุกมุมมอง หรือถ้าอยากสนุกสนานก็ต้องประจำการที่ซูชิบาร์ เพราะเชฟมากฝีมือชาวญี่ปุ่นจะโชว์เสน่ห์การทำซูชิอย่างสุดฝีมือ

อีกมุมที่สนุกไม่แพ้กันคือ ยากิโทริ หรือบาร์ปิ้งย่างด้วยถ่านชนิดพิเศษ กระทั่งเตาก็สั่งตรงมาจากญี่ปุ่นให้ความหอมล้ำจนยากที่จะอดใจแวะเข้าไปลิ้มลอง

หันมาชื่นชมความพิเศษของอาหารกันบ้าง ซึ่งทางร้านเขาพิถีพิถันตั้งแต่นำเข้าวัตถุดิบชั้นเลิศ ทั้งสด ใหม่ ล้วนสั่งตรงจากแหล่งเลื่องชื่อจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเนื้อตระกูลดังจากออสเตรเลีย หรือเนื้อชั้นดีจากญี่ปุ่นอย่างมัตซึซากะและฮอกไกโด ต่างเรียงคิวมาเอาใจ และที่พิเศษไม่เหมือนใครคือ ปลาธรรมชาติแท้ๆ จากญี่ปุ่น ซึ่งเชฟคนเก่งประจำร้านมาจากโกเบ เมืองท่าสำคัญจึงมีความชำนาญด้านปลาเป็นพิเศษ

เกนจิ ความพิเศษที่ชวนค้นหา

นอกจากนี้ ยังเพิ่มรสชาติด้วยเกลือของดีจากทั่วโลก อาทิ เกลือรมควันจากเดนมาร์ก เกลือชมพูจากภูเขาหิมาลัย เกลือแดงจากฮาวาย ฯลฯ

ส่วนเมนูเด่นของเกนจิมีให้เลือกอยู่หลากหลาย ทั้งชาบู ชาบู หรือสุกี้ยากี้ ซึ่งเป็นสไตล์คันไซที่รสชาติออกหวานมัน เพิ่มความอร่อยด้วยซอสสูตรพิเศษ

ที่ไม่อยากให้พลาดเลยจริงๆ ก็คือ ซูชิ ที่อุดมไปด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ ไม่ว่าจะเป็นปลาคัตซูโอะ พระเอกประจำฤดูกาลนี้ เนื้อเฟิร์ม หวานนุ่ม หรือจะเป็นอาคามิ ปลาแดงเนื้อไม่มัน แกมด้วยวาซาบิดองตัดรสแก้เลี่ยน คูเอะ ปลาเก๋าปรุงรสด้วยเกลือทรัฟเฟิลที่ให้กลิ่นหอมเห็ดทรัฟเฟิลแบบเต็มๆ หรือจะเป็นแซลมอนเผากับเกลือแดงจากฮาวายที่อร่อยไม่แพ้กัน และที่ถูกใจปลาฮามาจิใส่ซอสหวานซึ่งทำจากโซจูที่หนุ่มแท็ททำเอง ยิ่งได้ขิงอ่อนญี่ปุ่นยิ่งถูกใจ

ความพิเศษของซูชิเกนจิยังไม่จบ คือแต่ละชนิดไม่ต้องอาศัยซอสปรุงรสใดๆ เพราะเชฟปรุงมาให้เสร็จสรรพช่างเป็นความอร่อยที่แปลกใหม่และน่าจดจำที่สุด

จานต่อมาซาซูมิรวม หน้าตาสะสวยดุจงานศิลป์ล้วนรวมของมีประโยชน์ ทั้งปลาเก๋าขาวๆ สดๆ หรือทาวานิ ฮามาจิ จากญี่ปุ่น รสชาติออกจะมันนิดหนึ่ง และลืมไม่ได้กับความหวานล้ำของแซลมอนจากนอร์เวย์ ยิ่งได้วาซาบิขูดสดๆ ยิ่งได้รสชาติ

เกนจิ ความพิเศษที่ชวนค้นหา

ในมุมปิ้งย่างก็ไม่ยอมน้อยหน้า ไก่ย่างตะนาวศรี ไก่พันธุ์พื้นบ้านของไทยนำมาย่างสไตล์ญี่ปุ่น หรือจะเลือกเนื้อตระกูลดังมาย่างก็อร่อยไม่แพ้กัน

กระซิบบอกอีกนิด ถ้าอยากรีบประทานปลาจากธรรมชาติสดๆ ให้มาวันอังคาร หรือไม่ก็วันพุธ จะดีที่สุดเพราะปลาคุณสมบัติดังว่าจะส่งตรงมาจากญี่ปุ่นครับท่าน

เกนจิ ชั้นล็อบบี้ สวิสโซเทล นายเลิศ ปาร์ค ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00-14.30 น. และ 18.00-22.30 น. โทร. 026554265 หรือ www.genjirestaurant.com