เคล็ด(ไม่)ลับสุขภาพดีในแต่ละราศี

เคล็ดลับน่ารู้ในการดูแลสุขภาพโดยยึดหลักของธาตุเจ้าเรือนกับราศี รวมถึงระบบภายในร่างกายที่สัมพันธ์กันในแต่ละราศี

โดย...มัลลิกา นามสง่า

การมีสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัยเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แต่ด้วยสภาพแวดล้อมทั้งอากาศ น้ำ มลภาวะต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป จึงส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนในปัจจุบัน การดูแลรักษาสุขภาพร่างกายจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะเรื่องอาหารที่รับประทานเข้าไป

“ชนิดา แซ่ตั้ง” ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและความงามจากทางสถาบัน Slim Up Center จึงได้มาให้ความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพโดยยึดหลักของธาตุเจ้าเรือนกับราศี รวมถึงระบบภายในร่างกายที่สัมพันธ์กันในแต่ละราศี

“ธาตุเจ้าเรือนทั้งสี่ธาตุ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ มีความสัมพันธ์กันมากกับอาหารการกิน เพราะธาตุที่เราถือกำเนิดขึ้นมานั้น เป็นตัวกำหนดให้เรามีรูปร่างและลักษณะแบบนี้ ในการรับประทานอาหารก็ควรให้ความสำคัญด้วยเหมือนกัน เพราะอาหารจะช่วยส่งเสริมให้ร่างกายมีความสมดุลกับธาตุเกิดมากที่สุด และจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย”

ราศีมังกร (14 ม.ค.–12 ก.พ.)
ธาตุดิน–สัญลักษณ์แพะทะเล
ลักษณะและบุคลิกที่ดูก้าวร้าวของคนราศีนี้ มักส่งผลมาจากลักษณะทางกายภาพของส่วนกระดูกและข้อต่อที่ไม่ค่อยมีความยืดหยุ่น ทำให้เมื่อยิ่งแก่ตัว หรือเริ่มเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังของชีวิต จะเป็นโรคเกี่ยวกับข้อต่อและกระดูก ทางที่ดีควรบริโภคแคลเซียม เช่น นม งาดำ ผักสีเขียว ไปจนถึงกินปลาเล็ก ปลาน้อย และวิตามินดี

ราศีกุมภ์ (13 ก.พ.–13 มี.ค.)
ธาตุลม–สัญลักษณ์คนแบกหม้อน้ำ
คนที่เกิดราศีกุมภ์กลับมีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาท นอกจากนั้นคนราศีนี้ยังเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคข้อเท้าบวม เส้นเลือดขอด ข้อเท้าเคล็ด ไปจนถึงข้อต่ออักเสบ ควรหมั่นนวดขาทุกวันด้วยน้ำมันนวดตัว น้ำมันวิตามินอี หรือน้ำมันหอมระเหยมะนาวผสมกับลาเวนเดอร์ เพื่อบริหารให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น

ราศีมีน (14 มี.ค.–12 เม.ย.)
ธาตุน้ำ–สัญลักษณ์ปลา 2 ตัว
ชาวราศีมีนมักมีระบบต่อมน้ำเหลืองทำหน้าที่หลักในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้มีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับระบบต่อมน้ำเหลือง ทางแก้คือ ดื่มน้ำสมุนไพร ชา และเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย จากการที่โหมงานหนัก ชอบคิดมากในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทำให้ชาวราศีมีนจะรู้สึกเหนื่อยอ่อนและเวียนศีรษะอยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาวะเลือดจางและขาดธาตุเหล็ก

ราศีเมษ (13 เม.ย.–13 พ.ค.)
ธาตุไฟ–สัญลักษณ์แกะตัวผู้
ชาวราศีเมษจะมีปัญหาตรงบริเวณศีรษะ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหัวบ่อยๆ หรือโรคไมเกรน ยิ่งพื้นฐานชาวเมษเป็นคนเครียดง่าย คิดมาก บวกกับไม่ชอบกินอาหารตรงเวลา จึงทำให้อาการปวดหัวกำเริบอยู่บ่อยๆ หนำซ้ำยังป่วยเป็นโรคหวัดและไซนัสอักเสบได้ง่ายอีก จึงควรดื่มน้ำหัวบีต แครอต และชาสมุนไพรคาโมไมล์

ราศีพฤษภ (14 พ.ค.–13 มิ.ย.)
ธาตุดิน–สัญลักษณ์วัว
ชาวราศีพฤษภมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาเรื่องสุขภาพคอ ถ้าเมื่อไหร่ที่เครียดจัด หรืออยู่ในที่ที่อากาศเย็นๆ จะปวดคอได้ง่าย นอกจากปัญหาเรื่องปวดคอและคอติดเชื้อแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องต่อมไทรอยด์ทำงานไม่ปกติ และระบบเผาผลาญอาหารทำงานไม่ค่อยดี วิธีแก้คือใช้มือนวดเบาๆ ใต้ติ่งหู ต่อมไทรอยด์ทำงานไม่ปกติ ก็เป็นอีกโรคที่มักมาก่อกวนชาวราศีนี้

ราศีเมถุน (14 มิ.ย.–14 ก.ค.)
ธาตุลม–สัญลักษณ์คนคู่
ชาวราศีเมถุนมีจุดอ่อนอยู่ที่หลังและไหล่ ทำให้มักเกิดอาการตึงเส้นเอ็นบริเวณข้อมือบ่อยๆ ยิ่งถ้าต้องนั่งทำงานหรืออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ นอนไม่หลับ ถือเป็นโรคที่รุนแรงสำหรับชาวราศีนี้ เพราะไม่ใช่แค่หลับๆ ตื่นๆ แต่จะถึงขั้นตาค้าง สมองทำงานตลอดเวลา จนร่างกายทรุดโทรมอ่อนเพลีย วิธีแก้คือ ลด ละ เลิก เครื่องดื่มกระตุ้นร่างกายทั้งหลาย

ราศีกรกฎ (15 ก.ค.–16 ส.ค.)
ธาตุน้ำ–สัญลักษณ์ปู
ชาวราศีกรกฎมีแนวโน้มจะป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและโรคลำไส้อักเสบ รวมทั้งโรคที่เกี่ยวกับระบบการย่อยอาหาร นอกจากนี้ ยังปวดท้องได้ง่าย พื้นดวงชาวราศีนี้จะเป็นคนที่มีอารมณ์แปรปรวนหงุดหงิดง่าย ควรกินวิตามินและอาหารเสริมเป็นประจำ และควรระวังเรื่องการกิน และอารมณ์ให้มากๆ เพราะจะส่งผลให้ป่วยได้ง่าย

ราศีสิงห์ (17 ส.ค.–16 ก.ย.)
ธาตุไฟ–สัญลักษณ์สิงโต
พื้นดวงของคนราศีสิงห์มักมีปัญหาเรื่องระบบหัวใจและกระดูกสันหลัง อันถือว่าเป็นศูนย์กลางของร่างกายของเรา ชาวสิงห์เป็นคนที่มีนิสัยดื้อรั้นและไม่ยืดหยุ่น จึงทำให้กล้ามเนื้อตามร่างกายเกร็งและปวดเมื่อยอยู่บ่อยๆ และด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ป่วยเป็นโรคเครียดได้ง่ายและพัฒนาไปสู่โรคความดันโลหิตสูง หัวใจ และหลอดเลือดตีบ

ราศีกันย์ (17 ก.ย.–16 ต.ค.)
ธาตุดิน–สัญลักษณ์หญิงสาวพรมจรรย์
ชาวราศีกันย์เป็นคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ โรคภัยใช้เจ็บจึงไม่ค่อยถามหา แต่อาจป่วยเป็นโรคกระเพาะได้ง่าย เพราะมีความอ่อนไหวเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร จึงควรรู้จักปล่อยวาง อาบน้ำอุ่นจัดก่อนนอนและหมั่นดื่มน้ำเก๊กฮวย หรือดื่มนมและน้ำผึ้งอุ่นๆ ก่อนนอน เพื่อช่วยให้ท้องอบอุ่น หลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักหลังสี่โมงเย็น

ราศีตุลย์ (17 ต.ค.–15 พ.ย.)
ธาตุลม–สัญลักษณ์ตราชั่ง
ชาวราศีนี้ควรระวังเรื่องการทำงานของไตและกระเพาะปัสสาวะ ฉะนั้น ทางที่ดีควรหมั่นดื่มน้ำให้ได้วันละประมาณ 6-8 แก้ว และควรหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ กินผักผลไม้สดแทน

ราศีพิจิก (16 พ.ย.–15 ธ.ค.)
ธาตุน้ำ–สัญลักษณ์แมงป่อง
ชาวราศีพิจิกมีนิสัยชอบกลั้นการขับถ่ายไว้นานๆ แถมยังชอบอาหารที่มีไขมันสูง ทำให้โรคท้องผูกมักมาเยือนบ่อยๆ จนบางครั้งอาจเรื้อรังไปถึงริดสีดวงทวาร ทางที่ดีควรปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน และทำระบบขับถ่ายให้เป็นกิจวัตร นอกจากนี้ควรระวังเรื่องระบบอวัยวะสืบพันธุ์ด้วย

ราศีธนู (16 ธ.ค.–13 ม.ค.)
ธาตุไฟ–สัญลักษณ์คนถือธนู
ชาวราศีธนูมีโอกาสเป็นโรคตับอักเสบ โรคตับแข็ง และโรคพิษสุราเรื้อรังมากกว่าชาวราศีอื่น ชาวราศีธนูหมายถึงร่างกายส่วนตับและถุงน้ำดี ทำให้ชาวราศีธนูมีโอกาสเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีสูง ลองกินอาหารประเภทโปรตีน คาร์โบไฮเดรต หรือวิตามินเสริมที่ช่วยให้เกิดการดูดย่อยไขมันได้ดี ลด ละ เลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ส่งผลเสียต่อตับ

*************************

สนใจรายละเอียดการดูแลสุขภาพตามราศีในด้านอื่นๆ สามารถเข้าร่วมในงานสัมมนา “เติมเสน่ห์ให้สวย...ด้วยบุคลิกภาพที่ดีของแต่ละราศี” ของไลฟ์เซ็นเตอร์ คิวเฮ้าส์ ลุมพินี ได้ในวันเสาร์ที่ 24 ก.ย. เวลา 14.00-15.30 น.