ไอศกรีมไนโตรเจน เพื่อนรักรับร้อน อร่อยที่สุดในโลก
ถึงเวลาย้อนกลับสู่ห้องเรียนวิทยาศาสตร์อีกครั้ง... ทว่า การทดลองครั้งนี้ให้ความรู้สึกที่ทั้งตื่นเต้นและท้าทายกว่าครั้งไหนๆ
โดย...สาโรจน์ มีวงษ์สม
ถึงเวลาย้อนกลับสู่ห้องเรียนวิทยาศาสตร์อีกครั้ง... ทว่า การทดลองครั้งนี้ให้ความรู้สึกที่ทั้งตื่นเต้นและท้าทายกว่าครั้งไหนๆ เมื่อเราได้โจทย์การทำไอศกรีมโดยใช้ไนโตรเจนเหลว ซึ่งเป็นนวัตกรรมในการทำไอศกรีมล่าสุด ผลที่ได้รับคือ ไอศกรีมที่อร่อยที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ เชื่อสิ... ถ้าคุณมีโอกาสลิ้มลอง จะหลงรักไอศกรีมมากขึ้นกว่าเดิม!!!
ขอนับย้อนไปไกล (มากๆ) อีกสักครั้งถึงกำเนิดของไอศกรีมเพื่อนรักรับร้อนถึงในยุคโรมัน สมัยจักรพรรดินีโรกันโน้น ผู้ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ริเริ่มไอเดียของการทำไอศกรีมที่โลกต้องจารึก โดยการให้ทหารดั้นด้นไปยังยอดเขาสูงเพื่อไปนำหิมะมาผสมเข้ากับน้ำผึ้งและผลไม้ จนกลายเป็นไอศกรีมเชอร์เบตที่เรารู้จักมาถึงทุกวันนี้
ขณะที่บางตำราก็ว่าไอศกรีมเกิดขึ้นครั้งแรกที่เมืองจีนเมื่อ 4,000 ปีมาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องแสนบังเอิญจากการนึกอยากจะถนอมนมสดอันมีมูลค่ายิ่งในยุคนั้นให้มีอายุยาวนานขึ้นมา จึงนำไปหมกในกองหิมะจนกลายเป็นไอศกรีมรสยวนใจ
พอถึงปลายศตวรรษที่ 13 มาร์โค โปโล เดินทางไปจีน เห็นไอศกรีมแล้วรู้สึกเป็นปลื้มหนักหนา ก็นำสูตรกลับไปอิตาลีเสียเลย ระหว่างทางก็คิดค้นจนได้สูตรใหม่ เรียกว่าเจลาตินที่โด่งดังจนแพร่หลายไปยังฝรั่งเศสและข้ามไปเกาะอังกฤษ
เอาล่ะ... ไม่ว่าจะตำราไหน ก็ทำให้ชาวโลกหลงรักไอศกรีมทันทีที่ได้ลิ้มลอง และแน่ละว่า หลังจากนั้นความคลั่งไคล้ในรสชาติของไอศกรีมเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง บวกกับความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง จนทำให้มีการพัฒนาไอศกรีมทั้งในเรื่องของรสชาติและรูปแบบ
กระทั่งล่าสุดไอศกรีมก้าวสู่ความท้าทายใหม่ด้วยการนำไนโตรเจนเหลวมาใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะมาปฏิวัติรูปแบบและคุณภาพของการผลิตไอศกรีมในรูปแบบเดิม เข้าใจง่ายคือมาลดข้อด้อยของไอศกรีมที่มีอยู่ จนกลายเป็นไอศกรีมที่ดีที่สุด เนียนที่สุด และอร่อยที่สุดในโลกนะสิ อิอิ
“การนำไนโตรเจนเหลวมาใช้ผลิตไอศกรีมบนโลกนี้เพิ่งคิดค้นสูตรได้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมานี่เอง และมีร้านขายไอศกรีมที่ใช้สูตรที่ว่านี้เพียงแค่ 3 ร้านบนโลก ร้านแรกอยู่ที่ลอนดอน ร้านที่ 2 อยู่ที่ชิคาโก และก็ร้านที่ 3 คือร้านของเรา ซึ่งผมเคยมีโอกาสได้ไปลิ้มลองมาแล้วที่ลอนดอน การที่ใช้ไนโตรเจนเหลวมาช่วยในการทำไอศกรีมก็เพื่อลบข้อด้อยของไอศกรีมที่มีอยู่บนโลกนี้ทั้งสามชนิด คือ ฮาร์ดแพ็ก (Hard Pack) ไอศกรีมตักเป็นลูกๆ ทั้งหลายที่มีความหนาแน่น ซอฟต์เซิร์ฟ (Soft Serve) ไอศกรีมเกลียวที่มีความละเอียด และเจลาโต (Gelato) คือไอศกรีมที่นำเอาข้อดีของไอศกรีมทั้งสองชนิดมารวมกัน และล่าสุดคือไอศกรีมที่ใช้ไนโตรเจนเหลวซึ่งเป็นชนิดที่ 4 ของโลก ที่เกิดมาเพื่อฆ่าเจลาโต”
โย-ณพล นพปราชญ์ เจ้าของร้าน Milk Solid ซึ่งเป็นร้านขายไอศกรีมร้านแรกในเมืองไทยที่ใช้ไนโตรเจนเหลวในการผลิตไอศกรีม กล่าวถึงความพิเศษของไอศกรีมชนิดล่าสุดของโลก และพร้อมจะพาเราไปสัมผัสกับความมหัศจรรย์ไนโตรเจนเหลวที่ให้ความเนียนนุ่ม จนหลงลืมสัมผัสไอศกรีมที่เคยเนียนนุ่มก่อนหน้านี้กันไปเลย
เดิมทีกระบวนการผลิตไอศกรีมส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นจากการนำส่วนผสมที่มีรสชาติต่างๆ ตามที่ต้องการใส่ลงไปในเครื่องทำไอศกรีม จากนั้นก็นำไปแช่ให้เย็นที่อุณหภูมิ –40 องศาเซลเซียส ซึ่งใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 6 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพื่อทำให้เนื้อของไอศกรีมแข็งตัว ซึ่งวิธีในการผลิตไอศกรีมแบบเดิมนี้จะทำให้เกิดผลึกน้ำแข็งแทรกตัวอยู่ในเนื้อของไอศกรีมในระหว่างกระบวนการแช่แข็ง ซึ่งผลึกน้ำแข็งเป็นตัวทำให้เนื้อไอศกรีมละเอียดก็จริงอยู่ แต่นั่นไม่ได้หมายถึงว่ามันจะเนียนนุ่มอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นตัวทอนรสชาติของไอศกรีมอีกด้วย
ในขณะที่ไอศกรีมของ Milk Solid จะเริ่มต้นด้วยการนำส่วนผสมซึ่งเป็นสูตรลับเฉพาะของร้านตามรสชาติต่างๆ อาทิ วานิลลา ช็อกโกแลต เชอร์เบตรสผลไม้ต่างๆ ใส่ในเครื่องทำ (ปั่น) ไอศกรีม จากนั้นก็เทไนโตรเจนเหลวเป็นส่วนผสมในการผลิตซึ่งมีอุณหภูมิถึง 196 องศาเซลเซียส ในการทำให้เนื้อไอศกรีมเกิดการแข็งตัวโดยใช้เวลาเพียง 30 วินาที ก็สามารถรับประทานได้ทันที มหัศจรรย์รึเปล่าล่ะ...
ข้อดีเด่นของการทำให้ส่วนผสมของไอศกรีมแข็งตัวที่อุณหภูมิ –196 องศาเซลเซียส ก็คือจะไม่ก่อให้เกิดผลึกน้ำแข็งแทรกตัวอยู่ในเนื้อไอศกรีม จึงทำให้สัมผัสได้ความละเอียดเนียนนุ่มของไอศกรีมอย่างแท้จริงนั่นเอง แถมยังสัมผัสรสชาติของไอศกรีมแต่และรสได้แบบเต็มๆ
ส่วนใครที่ลังเลว่าไนโตรเจนเหลวที่ว่านี้จะเป็นอันตรายไหม คุณโย เจ้าของร้านเขาขอรับประกันความปลอดภัย เพราะมันจะระเหยออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการผลิตนั่นเอง
ไม่รอช้าละ ขอเรียกความสดชื่นด้วยไอศกรีมฝรั่งชมพู สีหวานสวย สัมผัสเนี้ยน...เนียน ถึงรสชาติฝรั่งชมพูแบบเต็มๆ เพิ่มความอร่อยที่แตกต่างอีกระดับด้วยเกลือสีชมพู ออกเค็มนิดๆ แหม...มันเข้าขากันดีชะมัด
ต่อด้วยรสช็อกโกแลตที่แสนเข้มข้น ที่มาพร้อมกับความแน่นละเอียดของเนื้อไอศกรีมโดยไม่หลงลืมความนุ่ม ชอบมากอ่ะ...
อย่าลืมรสชาติที่คนส่วนใหญ่หลงรัก ก็จะอะไรเสียอีกละ ถ้าไม่ใช่รสวานิลลาหวานกำลังดี แต่ที่พิเศษคือ เหนียวนุ่มมากกว่าไอศกรีมชนิดอื่นๆ
อ้อ... อย่าลืมปิดท้ายกระชากความสดชื่นกันอีกสักรอบด้วยรสมะม่วง เสาวรส ผลไม้สองชนิดที่ผสานกันจนลงตัว ให้สัมผัสที่สดชื่นสุดๆ
อ้าว... เกือบลืมเมนูใหม่ล่าสุด โวลคาโน เริ่มจากเลือกไอศกรีมรสโปรดของที่มีให้เลือกอยู่หน้าร้าน จากนั้นก็นำไปผสมลงในสไปรท์ ว้าว... นอกจากสัมผัสถึงรสชาติที่แปลกใหม่ ยังซู่ซ่าแสนฉ่ำใจที่สุดเชียวล่ะ นอกจากนี้ยังมีอีกมากกว่า 50 รสชาติ ที่หมุนเวียนเปลี่ยนเอาใจคุณๆ อีกต่างหาก
อืม... แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม ของเนียนๆ นุ่มๆ รอให้คุณสัมผัสอยู่แค่เอื้อมนี่เอง อิอิ!!!