posttoday

3 หนุ่ม 3 มุม รุมแย่งแชมป์

24 มิถุนายน 2555

ศึกเทนนิสแกรนด์สแลมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก “วิมเบิลดัน” ได้จัดแข่งต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 126 แล้ว

โดย...จาด้า

ศึกเทนนิสแกรนด์สแลมที่เก่าแก่ที่สุดในโลก “วิมเบิลดัน” ได้จัดแข่งต่อเนื่องมาเป็นครั้งที่ 126 แล้ว และการประชันแร็กเกตระหว่างวันที่ 25 มิ.ย.–8 ก.ค.นี้ ก็คงจะเต็มไปด้วยความสนุกตื่นเต้นดังเช่นทุกปีที่ผ่านมา

ปีนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันใจป้ำ เมื่อเพิ่มเงินรางวัลให้แชมป์ถึง 1.15 ล้านปอนด์ หรือ 57.5 ล้านบาท เท่ากันทั้งในประเภทชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนเดิมก็คือธรรมเนียมปฏิบัติที่ว่านักหวดทุกคนที่ออล อิงแลนด์ คลับ จะต้องใช้ชุดแข่งสีขาวเป็นหลักเท่านั้น เพื่อให้สวยงามสะอาดตาบนคอร์ตหญ้าสีเขียว

ขาประจำลุ้นตำแหน่งแชมป์

แม้ว่าผู้ท้าชิงจะหน้าเดิมๆ แต่ในศึกวิมเบิลดัน 2012 ก็ยังคงน่าติดตามอยู่ดีว่าท้ายที่สุดใครจะได้ชูโทรฟี ระหว่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ราฟาเอล นาดาล หรือ “แชมป์เก่า” อย่าง โนวัก โจโควิช

ในการแข่งขันแกรนด์สแลม 29 รายการหลังสุด แชมป์ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตกอยู่ในมือของทั้ง 3 คน ถึง 28 ครั้ง โดยคนที่ฝ่าด่านอรหันต์เข้ามาได้ก็มีเพียงแค่ ฮวน มาร์ติน เดล โปโตร นักหวดชาวอาร์เจนไตน์ ที่หักปากกาเซียนด้วยการโค่น “เฟดเอ็กซ์” ในรอบชิงชนะเลิศยูเอส โอเพน 2009

ด้วยเหตุนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ทั้งกูรูและแฟนพันธุ์แท้วงการลูกสักหลาดทั้งหลายจะมั่นอกมั่นใจเหลือเกินว่ายังไงซะ แชมป์วิมเบิลดันปีนี้ก็ไม่น่าจะหนีพ้นมือของท็อปทรีโลกไปได้ตามเคย

3 หนุ่ม 3 มุม รุมแย่งแชมป์

 

“อย่างที่พวกคุณๆ รู้นั่นแหละ พวกเขา (โจโควิช, นาดาล, เฟเดอเรอร์) ค่อนข้างจะเห็นแก่ตัวไปหน่อยนะ ในเรื่องของแชมป์แกรนด์สแลม” แอนดี ร็อดดิก อดีตมือ 1 โลก และเป็นรองแชมป์วิมเบิลดัน 3 สมัย กล่าวติดตลก

แม้จะเป็นคำพูดขำๆ แต่เชื่อว่าคงมีนักเทนนิสหลายคนที่รู้สึกไม่ต่างไปจากจอมเสิร์ฟหนักชาวอเมริกัน โดยเฉพาะในรายของ แอนดี เมอร์เรย์ มือ 4 ของโลก ที่มีวาสนาทำได้ใกล้เคียงที่สุดแค่รองแชมป์ออสเตรเลียน โอเพน 2 สมัย และยูเอส โอเพน อีก 1 สมัยเท่านั้น ขณะที่ วิมเบิลดัน เขาทำได้ดีที่สุดแค่ในรอบตัดเชือก

นอกจาก เมอร์เรย์ แล้ว นักหวดที่พอจะมีลุ้นเล็กๆ ก็คงจะเป็น โจวิลเฟรด ซองกา มือ 5 ของรายการจากฝรั่งเศส โทมัส เบอร์ดิช (6/เช็ก) และ เดล โปโตร (9/อาร์เจนตินา)

อย่างไรก็ตาม ซองกา ซึ่งเข้าถึงรอบตัดเชือกเมื่อปีที่แล้ว ยอมรับว่าโอกาสที่โทรฟีจะไปอยู่ในอ้อมกอดผู้เล่นคนอื่นนอกจาก 3 มหาอำนาจของวงการเทนนิสนั้น มีอยู่อย่างริบหรี่

“เพราะว่าพวกเขาเก่งเกินไป มันก็เท่านั้นแหละ” ซองกา กล่าว

มือ 1 โลกเป็นเดิมพัน

ปกติก็สู้กันสูสีคู่คี่มาโดยตลอดอยู่แล้วสำหรับบิ๊กทรี แต่วิมเบิลดันหนนี้น่าจะบี้กันสนุกกว่าเดิม เพราะคนที่ได้แชมป์ในวันที่ 8 ก.ค.นี้ มีสิทธิที่จะได้ครองบัลลังก์มือ 1 โลกไปด้วยพร้อมกัน

โจโควิช ก้าวขึ้นมาเป็นมือท็อปของโลกเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ปีที่แล้ว หลังจากที่คว้าแชมป์วิมเบิลดันสมัยแรกด้วยการชนะ นาดาล 31 เซต และหากเขาเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ในปีนี้ ก็จะการันตีว่ามือ 1 โลกจะยังไม่หนีไปไหน

แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะป้องกันแชมป์ที่ออล อิงแลนด์ คลับ เพราะนอกจากวิมเบิลดัน 2011 แล้ว เขาก็ยังไม่เคยได้แชมป์บนคอร์ตหญ้าเลย นับตั้งแต่เทิร์นโปรมา 9 ปี

ขณะที่ เฟเดอเรอร์ ซึ่งเวลานี้รั้งมือ 3 ของโลก จะขึ้นมาเป็นมือ 1 ได้ก็ต่อเมื่อเขาได้ชูโทรฟีที่เซ็นเตอร์ คอร์ต อีกครั้ง พร้อมกับลุ้นให้ โจโควิช ไม่ผ่านรอบตัดเชือกด้วย

3 หนุ่ม 3 มุม รุมแย่งแชมป์

 

 

หลังจากที่ครองความยิ่งใหญ่มานาน นักหวดมาดคุณชายชาวสวิส ห่างหายจากบัลลังก์มานาน กว่า 2 ปี และแน่นอนว่านอกจากการลุ้นแชมป์วิมเบิลดันสมัยที่ 7 แล้ว การได้กลับไปยืนในจุดสูงสุดอีกครั้งคือแรงกระตุ้นชั้นดีที่จะทำให้เฟดเอ็กซ์เป็นคู่แข่งที่อันตรายมากสำหรับทั้งราฟาและโจโควิช

ด้าน นาดาล ที่เสียมือ 1 โลกไปให้กับ “โนเล” ก็มีสิทธิทวงตำแหน่งของเขากลับมาได้เช่นกัน โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะต้องคว้าแชมป์วิมเบิลดันสมัยที่ 3 ของตัวเองให้ได้ และแช่งให้คู่ปรับจากเซอร์เบียไปได้ไม่เกินรอบก่อนรองชนะเลิศ

รีแมตช์รอบชิง?

หากไม่มีการพลิกโผใดๆ เกิดขึ้น ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า โจโควิช จะโคจรมาพบกับ เฟเดอเรอร์ ในรอบรองชนะเลิศสายบน ขณะที่สายล่าง นาดาล ถูกคาดหมายว่าจะเข้ามายืนรอในรอบตัดเชือก แต่ เมอร์เรย์ จะมาตามนัดได้หรือไม่ก็ยากเกินจะคาดเดา เพราะว่านักหวดสกอตมีผลงานที่ไม่ค่อยดีนักในปีนี้

หากวิเคราะห์จากดรอว์ที่ออกมาแล้ว แชมป์เก่าชาวเซิร์บ ซึ่งจะประเดิมสนามพบ ฮวน คาร์ลอส เฟร์เรโร อดีตมือ 1 โลก น่าจะเข้าไปเจอกับ เบอร์ดิช ในรอบก่อนรองชนะเลิศ โดย เบอร์ดิช มีดีกรีเป็นรองแชมป์ปี 2010 ด้วย

ขณะที่ เฟดเอ็กซ์ ซึ่งพลิกล็อกตกรอบ 8 คนสุดท้าย 2 ปีล่าสุด จะพบกับ อัลเบิร์ต รามอส ในรอบแรก และมีแนวโน้มจะต้องดวลแร็กเกตกับ แยนโก ทิปซาเรวิช มือ 8 จากเซอร์เบีย ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

ด้าน นาดาล ที่เพิ่งคว้าแชมป์เฟรนช์ โอเพน 7 สมัยมาหมาดๆ จะเริ่มต้นด้วยการพบ โธมัส เบลุชชี จากบราซิล และไม่น่าจะเจองานยากจนกว่าจะเป็นรอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งน่าจะเป็น ซองกา ที่ต้องเจอ เลย์ตัน ฮิววิตต์ อดีตแชมป์ชาวออสซี ในบิ๊กแมตช์รอบแรก

แม้ว่าจะมีสมญานามว่าเป็นราชาเคลย์คอร์ต แต่บนยอดหญ้า นักหวดจอมถึกจากสเปน ก็แจ๋วไม่แพ้กัน พิสูจน์ได้จากการได้แชมป์วิมเบิลดันในปี 2008 และ 2010 ส่วนปี 2009 เขาไม่ได้ลงแข่งขัน เพราะมีปัญหาบาดเจ็บ

ตรงข้ามกับ เมอร์เรย์ ที่เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ 3 ปีซ้อน แต่ครั้งนี้ต้องเจองานหนักตั้งแต่รอบแรก เมื่อเจอ นิโคไล ดาวีเดนโก อดีตมือ 3 โลก ชาวรัสเซีย และหากผ่านได้ก็น่าจะพบ อิโว คาร์โลวิช จอมเสิร์ฟพลังช้างชาวโครแอต ในรอบ 2 นอกจากนั้นเพื่อนร่วมสายก็ยังมีหนักๆ ทั้ง ดาบิด เฟร์เรร์ (7), เดล โปโตร (9) และ มาริน ซิลิช (16)

3 หนุ่ม 3 มุม รุมแย่งแชมป์

 

โอกาสที่เปิดกว้างสำหรับสาวๆ

ตรงข้ามกับประเภทชายเดี่ยวที่แชมป์แทบจะผูกขาดกับบิ๊กทรี แต่ในประเภทหญิงถือว่าได้ลุ้นสนุกกว่ากันเยอะ เพราะฝีไม้ลายมือไม่ได้ห่างชั้นกันมาก เพียงแต่ขึ้นอยู่กับว่าวันลงสนามจะเป็นวันของใครมากกว่า

อย่างไรก็ตาม บ่อนรับพนันถูกกฎหมายและเหล่าคอลัมนิสต์ด้านวงการลูกสักหลาดมองไปในทิศทางเดียวกันว่า มาเรีย ชาราโพวา เจ้าของแชมป์เฟรนช์ โอเพน หมาดๆ น่าจะเป็นเต็งหนึ่ง เนื่องจากความมั่นใจกำลังอยู่ในช่วงพีกจากการกลับมาเป็นมือ 1 โลกอีกครั้ง และยังเป็นผู้เล่นคนที่ 10 ในประวัติศาสตร์ที่ได้แชมป์หญิงเดี่ยวแกรนด์สแลมครบทั้ง 4 รายการด้วย

ชาราโพวา เป็นตัวยืนในสายบน โดยเธอมีคู่แข่งร่วมสายที่อันตรายอย่าง ซาบิเน ลิซิกกี ดาวรุ่งชาวเยอรมัน มือ 15 ของรายการ อักเนียสกา รัดวานสกา (3/โปแลนด์) ซาแมนธา สโตเซอร์ (5/ออสเตรเลีย) วีนัส วิลเลียมส์ (สหรัฐ) และ คิม ไคลจ์สเตอร์ส (เบลเยียม) ที่จะโชคร้ายเจองานหนักตั้งแต่รอบแรกกับ เยเลนา แยนโควิช (18/เซอร์เบีย)

หากนักหวดสาววัย 25 ปี ไม่ออกทะเลเองเสียก่อนก็น่าจะทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้อีกครั้ง หลังจากที่เธออกหักได้แค่รองแชมป์เมื่อ แพ้ เปตรา ควิโตวา ม้ามืดชาวเช็ก เมื่อปีที่แล้ว

ขณะที่สายล่าง ถือว่าหนักกว่าสายบนอย่างชัดเจน เพราะนอกจาก ควิโตวา แชมป์เก่าซึ่งเป็นมือ 4 ในปีนี้แล้ว ก็ยังมี เซเรนา วิลเลียมส์ อดีตแชมป์ 4 สมัย ชาวอเมริกัน วิกตอเรีย อซาเรนกา (2/เบลารุส) แคโรไลน์ วอซเนียกกี (7/เดนมาร์ก) และ มาริยง บาร์กโตลี รองแชมป์ปี 2007 (9/ฝรั่งเศส)

เชื่อว่าคู่ชิงในฝันของใครหลายคนน่าจะเป็น ชาราโพวา และ วิลเลียมส์ ผู้น้อง เพราะก่อนหน้านี้เมื่อปี 2007 นักหวดสาวชาวรัสเซีย เคยแจ้งเกิดเต็มตัวเมื่อพลิกล็อกโค่นเซเรนา และคว้าแชมป์แกรนด์สแลมครั้งแรกด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปี

เอาเป็นว่ารักใครชอบใครก็เชียร์กันได้ตามสะดวก แต่ที่แน่ๆ อย่าลืมส่งกำลังใจไปให้ “แทมมี่” ของเรากันด้วย