เชษฐา คำบัณฑิตย์กุล กูรูกรุยทาง
Concierge อ่านว่า คอนเซียส เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “คนเฝ้าประตู”
โดย...กาญจน์ อายุ/อนันตรา
Concierge อ่านว่า คอนเซียส เป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “คนเฝ้าประตู” และมีอีกความหมายหนึ่งที่ใช้ในโรงแรมคือ “พนักงานต้อนรับในโรงแรมที่พูดได้หลายภาษา ทำหน้าที่หิ้วกระเป๋าและเปิดประตู” แต่นี่ไม่ใช่ความหมายทั้งหมด เพราะคอนเซียสตัวจริงบอกว่าเขาคือ “ผู้ไขปัญหาให้ลูกค้า”
ผู้ถือกุญแจคนนี้คือ “คุณเชษฐ์–เชษฐา คำบัณฑิตย์กุล” หัวหน้าผู้อำนวยความสะดวก (Chief Concierge) ของโรงแรมอนันตรา กรุงเทพฯ ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา เขาเป็นหนุ่มร้อยเอ็ดที่เริ่มต้นอาชีพในโรงแรมด้วยตำแหน่ง Doorman เวลาผ่านมา 15 ปี เขายังอยู่แถวประตู แต่อยู่เพื่อต้อนรับ เพื่อปรึกษา และแก้ปัญหาให้แขกทุกคน
ล่าสุด คุณเชษฐ์มีหน้าที่เป็น “กูรู” ผู้รู้ที่จะพาแขกไปเดิน ชิม เที่ยว ริมถนนในกรุงเทพฯ กับโปรแกรมสตรีตไวส์ กูรู (Streetwise Guru) การเที่ยวเดินเท้าที่แม้แต่คนกรุงเทพฯ ยังไม่เคยไป
ผู้ไขปัญหา
คุณเชษฐ์เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เมื่อปี 2540 เริ่มต้นการทำงานเป็นพนักงานเปิดประตูในโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ด้วยใจรักงานบริการ ทำให้งานนี้คืองานที่สนุกและรู้สึกไม่น้อยเนื้อต่ำใจ คุณเชษฐ์ไม่ได้แค่เปิดประตู เขายังเรียนรู้ภาษาอังกฤษจากแขก ค่อยๆ พัฒนาความสามารถด้านภาษา หาโอกาสขยับเขยื้อนหน้าที่ จนทำให้ตอนนี้เขาสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษและขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้าภายในเวลา 15 ปี
ตำแหน่งหัวหน้าผู้อำนวยความสะดวก (Chief Concierge) ในโรงแรมห้าดาว เป็นงานที่ได้มาจากความพยายามของเขาเองล้วนๆ ซึ่งงานตำแหน่งนี้ไม่มีโรงเรียนสอน ไม่มีตำรา ต้องสั่งสมประสบการณ์ด้านงานบริการทางเดียว ซึ่งคุณเชษฐ์ได้กล่าวถึงคุณสมบัติของคอนเซียสที่ดีว่า
“คอนเซียสคืองานบริการ คนที่เป็นได้ต้องชอบคุย สนุกสนาน เฮฮา อดทน และที่สำคัญคือต้องโกรธคนไม่เป็น เพราะถ้าเราโกรธเมื่อไหร่เราจะต่อกับลูกค้าไม่ติดแล้ว และถ้าเจอลูกค้าที่ขี้สงสัย เราก็ต้องเข้าใจว่าเขาไม่รู้ เขาจึงถาม เราก็ต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ”
เดินเที่ยว
โปรแกรมสตรีตไวส์ กูรู เป็นโปรแกรมให้แขกที่พักในโรงแรมได้เปิดประสบการณ์เที่ยวกรุงเทพฯ ในแบบที่โปรแกรมทัวร์ไม่มีให้ เพราะพวกเขาจะได้ลองชิมอาหารในตลาด ปล่อยปลาในวัด และช็อปปิ้งสินค้าท้องถิ่น
คุณเชษฐ์จะเป็นกูรูพาแขกที่จองโปรแกรมไว้ไปตะลอนด้วยตัวเอง เส้นทางตอนกลางวันจะเริ่มที่นั่งเรือของโรงแรมจากฝั่งธนบุรีไปฝั่งพระนครที่สะพานตากสิน จากนั้นพาแขกเดินไปวัดยานนาวาที่อยู่ใกล้เคียง ข้างในวัดจะมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับพระพุทธเจ้าให้ศึกษา ไหว้พระบรมสารีริกธาตุ ถวายสังฆทาน และให้พระสงฆ์พรมน้ำมนต์ผูกสายสิญจน์ กิจกรรมที่ชาวต่างชาติร้อง Wow! เพราะทุกสิ่งคือเรื่องแปลกสำหรับพวกเขา
“แขกจะเกิดคำถามเยอะมากเรื่องความเชื่อ ชาติหน้า หรือการเกิดใหม่ เราก็ค่อยๆ อธิบาย และพาเขาไปให้อาหารปลา แล้วปล่อยปลาไหลด้วย พวกเขาสนใจมาก และชอบมาก”
จากทำบุญทำทานเสร็จก็พาแขกเดินไปตลาดบางรัก ตลาดสดที่ขายของท้องถิ่น นักท่องเที่ยวจะได้กลิ่นตลาดจริงๆ เห็นของสดจริงๆ และเห็นลีลาการขายของแม่ค้าในตลาด จากนั้นคุณเชษฐ์จะโบกตุ๊กตุ๊กให้ไปส่งที่ปากคลองตลาด จุดนี้นักท่องเที่ยวจะได้เห็นการทำพวงมาลัย ดอกไม้เมืองไทย และจะได้ชิมไก่ทอดข้าวเหนียวที่ร้านรถเข็นขายไก่ทอดด้วย
“โดยปกตินักท่องเที่ยวจะไม่ค่อยกินอาหารตามรถเข็น แต่เราจะพาเขากิน ให้เขาได้ทำในสิ่งที่คนไทยทำกัน บางคนชอบถึงขั้นถามสูตรไปทำกินเองก็มี”
จากปากคลองตลาดเดินทะลุต่อมาที่พาหุรัดตรงข้ามโรงเรียนเพาะช่าง จะเจอกับรถเข็นขายน้ำสมุนไพร ซึ่งนักท่องเที่ยวจะถูกใจน้ำใบบัวบกและน้ำกระเจี๊ยบมากเป็นพิเศษ เพราะรสชาติไม่ปรุงแต่งเหมือนน้ำผลไม้ในกล่อง พอดื่มน้ำดับกระหายแล้วเดินต่อไปที่ตลาดสำเพ็ง ปล่อยให้ช็อปปิ้งสินค้าอย่างที่คนไทยซื้อ
“สินค้ายอดนิยมจะเป็นโสร่ง ผ้าพันคอ ผ้า และอาหารแห้ง นอกจากนี้ผมยังบอกวิธีการต่อรองราคา วิธีการซื้อ เพราะสำเพ็งจะขายแบบขายส่ง และพาไปชิมน้ำทับทิมคั้นสดๆ ตามรถเข็น ซึ่งเป็นเรื่องที่อะเมซิงสำหรับแขกมาก เพราะบ้านเขาขายน้ำทับทิมราคาแพงและไม่ขายริมถนนด้วย”
ถึงสำเพ็งเวลาใกล้เที่ยง คุณเชษฐ์พาเดินไปตามถนนราชวงศ์ ซึ่งตามถนนจะมีร้านขายก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ อาหารอีสาน ขนมเบื้อง แล้วแต่ว่าจะชิมร้านไหน แต่ยังไม่หยุดทานอาหารกลางวัน เพราะต้องเดินไปให้ถึงท่าเรือราชวงศ์เพื่อทานอาหารอีสาน
“ตรงท่าเรือราชวงศ์จะมีร้านอาหารหลายร้าน แต่ที่ชอบพาแขกไปทานคือร้านอาหารอีสาน เพราะร้านนี้สะอาดและโชว์วิธีการตำส้มตำหน้าร้าน อาหารที่แขกชอบมากคือส้มตำปูม้าไม่เผ็ด คอหมูย่าง ลาบไก่ ไก่ย่าง และข้าวเหนียว”
เมื่ออิ่มแล้วจะข้ามเรือตรงท่าเรือราชวงศ์ไปที่ท่าดินแดง ท่านี้จะมีตลาดสดที่สะอาดและเป็นระเบียบ และมีร้านขายหมูสะเต๊ะเจ้าดังที่นักท่องเที่ยวติดใจทั้งรสทั้งร้าน
“ร้านหมูสะเต๊ะจะมีเตาย่างขนาดยาว ควันคลุ้ง คนปิ้งมีลีลาย่างซึ่งเป็นท่าทางการทำอาหารที่แขกไม่เคยเห็น”
โปรแกรมวันเดย์ทริปจบอย่างเอร็ดอร่อยที่ตลาดท่าดินแดง และจะกลับโรงแรมโดยรถลีมูซีน แต่ถ้าแขกเลือกโปรแกรมช่วงเย็น แขกจะได้รับประสบการณ์นั่งรถเมล์กลับโรงแรม เพราะโปรแกรมตอนเย็นจะกะเวลาเสร็จได้ยากกว่า คุณเชษฐ์จึงตัดสินใจพาแขกโหนรถเมล์กลับโรงแรมเองเสียเลย
“โปรแกรมตอนเย็นจะเริ่มตอนสี่โมงเย็นถึงประมาณสองทุ่ม มีตารางการเดินต่างกับตอนกลางวัน คือจากตลาดบางรักจะนั่งรถตุ๊กตุ๊กไปสีลมซอย 20 ตรงข้ามวัดแขก เพื่อไปดูชุมชนมุสลิม และแวะทานบาร์บีคิวในซอย จากนั้นเดินไปยังซอยนราธิวาส 1 พาแขกไปกินอาหารอีสาน และดูสังคมหนุ่มสาวออฟฟิศในเวลาเลิกงาน แล้วเดินไปต่อที่พัฒน์พงศ์ ให้แขกชิมยาดองหรือไทยวิสกี้ จากนั้นเดินทะลุไปยังถนนพระราม 4 เพื่อพาแขกไปกินที่ร้านอาหารสะพานเหลือง และนั่งตุ๊กตุ๊กไปเยาวราชให้รู้จักกับไชนาทาวน์ ชิมเกาลัด และอาหารจีน จากเยาวราชจะไปสิ้นสุดที่ตลาดดินแดงที่เดิม แต่จะไม่นั่งรถลีมูซีน เพราะผมจะพาขึ้นรถเมล์สาย 20 กลับโรงแรม”
เมื่อนักท่องเที่ยวรู้แล้วว่าบนถนนกรุงเทพฯ มีของดีให้ดู ให้ชิม และให้ซื้อ ต่อไปพวกเขาจะเดินไปกันเองโดยที่ไม่ต้องมีกูรูนำทาง และพวกเขาก็จะกล้าเดินไปยังถนนอื่น กล้ากินอาหารบนฟุตปาทร้านอื่น และเห็นกรุงเทพฯ ในมุมอื่นที่เป็นกรุงเทพฯ จริงๆ