ทัศนาวลัย จักรพงษ์ ทำงานกับธรรมชาติ

โดย...อณุศรา ทองอุไร ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

ฮาน่าทัศนาวลัย จักรพงษ์ สาวสวยผิวเข้ม ตาคม ผมเป็นลอนหยิกสวย หลายคนคุ้นเคยกับเธอดีในฐานะนักแสดงและพิธีกร ตอนนี้เธอมีอีก 2 บทบาทใหม่ที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือบทบาทของการเป็นคุณแม่มือใหม่ของน้องฮาร์เปอร์ ลูกชายวัย 2 ขวบ ที่เกิดจากสามีสุดหล่อ ฮิวโก้จุลจักร จักรพงษ์ และอีกบทบาทล่าสุดก็คือ การเป็นเจ้าของคลินิกความงามและผิวพรรณลาลาน่าคลีนิค ที่เพิ่งเปิดได้ไม่ถึงปี ทั้งสองบทบาทนี้มีความสำคัญไม่แพ้กัน และมีความเหมือนกันก็คือต้องปลุกปั้นให้เติบโตแข็งแรงไปพร้อมกัน เธอจึงละลดงานอื่นๆ เหลือเพียงงานที่คลินิกกับหน้าที่แม่เท่านั้น

โชคดีที่เธอเป็นเจ้าของธุรกิจเอง จึงสามารถจัดสรรเวลามาดูแลเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง และทำงานไปพร้อมๆ กันได้อย่างสมดุล เธอเล่าว่า ตอนนี้ลูกชายยังไม่เข้าโรงเรียน เธอจึงต้องให้เวลากับลูกอย่างเต็มที่ เพราะช่วงนี้ถือเป็นช่วงเวลาทองของเธอกับลูกที่จะได้อยู่ด้วยกันมากๆ อย่างมีคุณค่า เพราะถ้าลูกโตไปโรงเรียนเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ก็น้อยลง ลูกก็ติดเธอ เธอก็ติดลูก

ดังนั้น ช่วงนี้เธอจะใช้เวลาทำงานอยู่ที่บ้านมากหน่อย จะเข้าที่คลินิกวันเว้นวันหรือเมื่อมีงานด่วน บางทีก็เอาลูกไปที่ทำงานด้วย แต่ถ้าไม่ไปทำงาน เธอจะทำงานอยู่ที่บ้าน (วังจักรพงษ์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา) โดยมุมที่เธอจะมานั่งทำงานบ่อยๆ ก็คือที่ศาลา 8 เหลี่ยมแห่งนี้ เพราะศาลาตั้งอยู่กลางสวน มีต้นไม้ร่มรื่น มีลมพัดเย็นเอื่อยๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงเช้าๆ กับตอนเย็น

“เวลาทำงานมานั่งในศาลานี้แล้วรู้สึกผ่อนคลาย ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ บรรยากาศมันไม่ทำให้เรารู้สึกกดดัน ไม่ชอบนั่งทำงานในบ้านในห้องแอร์ ชอบมานั่งตรงนี้แล้วคิดอะไรไปเรื่อยๆ บางทีลูกก็มานั่งเล่นหรือวิ่งเล่นอยู่แถวนี้ นั่งแล้วเพลินเวลาผ่านไปไม่รู้ตัวเลย คิดว่านั่งแป๊บเดียว อ้าวจะมืดแล้ว ด้วยความที่ต้นไม้เยอะมันช่วยกรองเสียงได้ ไม่ค่อยได้ยินเสียงรถจากถนน หรือเสียงเรือจากแม่น้ำเจ้าพระยา มันเงียบเลยทำให้มีสมาธิทำงานได้ลื่นไหล ได้เนื้องานดีมาก” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ศาลาไม้สัก 8 เหลี่ยมนี้ เป็นศาลาเก่าแก่ตั้งแต่สมัยรุ่นคุณตาของคุณแม่ (ม.ร.ว.นริศรา จักรพงษ์) ศาลานี้เดิมตั้งอยู่ที่บ้านพักตากอากาศที่หัวหิน แต่ไม่ค่อยได้ใช้งาน คุณแม่ท่านรักและผูกพันกับศาลานี้มาก ท่านเลยรื้อถอนเอามาไว้ที่วังนี้ ซ่อมแซมปรับปรุงให้ดูใหม่น่าใช้ เวลาที่คุณแม่และฮิวโก้อยู่เมืองไทย เวลาวันหยุดเราจะมานั่งเล่นกันที่นี่ กับที่ศาลาริมน้ำถือเป็นสองมุมโปรดของครอบครัวนั่งจิบชากาแฟกันไปไม่รีบร้อน ใช้ชีวิตช้าๆ สบายๆ”

ฮาน่า บอกว่า ที่ศาลาริมน้ำเธอก็ชอบ โดยเฉพาะตอนเย็นๆ จะลมพัดแรงชื่นใจดีมาก แต่เวลาสามีไม่อยู่จะไม่ค่อยไปนั่งทำงานที่นั่น เดี๋ยวลูกตามไปเขายังเล็ก กลัวนั่งทำงานเพลินเขาวิ่งเล่นแล้วตกน้ำ เลยสั่งห้ามไม่ให้ไปวิ่งเล่นแถวนั้น “ฮาน่าก็ต้องไม่ไปด้วย ถ้าเราไปเขาก็จะชอบตามไป ช่วงนี้เลยนั่งทำงานที่ศาลานี้ที่เดียวไปก่อน”

เธอบอกว่า หากได้นั่งทำงานในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ก็จะช่วยให้ทำงานได้อย่างมีความสุข คิดงานได้ดี เห็นต้นไม้เขียวๆ มีบ่อปลาเล็กๆ อยู่ข้างๆ เห็นแล้วปลอดโปร่งสบายใจหายเหนื่อยไม่ต้องรีบร้อน บางทีนั่งทำงานแต่ในห้องแอร์ ในตึกมันก็รู้สึกเบื่อบ้าง อึดอัดบ้าง ก็ต้องหาที่เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

“มาอยู่ที่นี่เวลาไปทำงานที่คลินิกใกล้กับเอเชียทีค ฮาน่าก็นั่งเรือไป มีคนขับเรือของวังไปส่งแค่ 10 นาทีก็ถึงแล้ว นั่งเรือไปลมเย็นๆ ไม่มีมลพิษ ชีวิตลงตัวมาก” เธอกล่าวอย่างมีความสุข