‘วิสูตร แสงอรุณเลิศ’ ฟรีแลนเซอร์มือทอง
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล ภาพ วิศิษฐ แถมเงิน
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล ภาพ วิศิษฐ แถมเงิน
นอนเกือบเช้า ตื่นสายโด่ง เที่ยงว่ายน้ำ บ่ายไม่มีธุระปะปังก็ไปเดินเล่นตามห้างฯ รอรับลูกตอนเย็น กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว ดึกดื่นค่อยเริ่มทำงาน
นี่คือชีวิตที่น่าอิจฉาของ บอยวิสูตร แสงอรุณเลิศ เจ้าของผลงานหนังสือเบสเซลเลอร์ “งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า” สำนักพิมพ์ Stock2morrow หนังสืออ่านง่าย อ่านสนุก เขียนขึ้นจากประสบการณ์จริง เมื่อเจ้าตัวโบกมือลาตำแหน่งมนุษย์เงินเดือน ผันตัวมาเป็นคนทำงานอิสระ หรือที่เรียกอย่างเท่ๆ ว่า ฟรีแลนซ์ อาชีพที่ไม่ต้องตอกบัตร แต่ก็สามารถรวยได้
“ผมเรียนจบวิศวะ จุฬาฯ เรียนเก่งแต่ดันชอบเล่นดนตรี พอเรียนจบ เพื่อนเดินเข้าไซต์ก่อสร้างกัน ผมผ่าไปเป็นนักแต่งเพลงอยู่ที่แกรมมี่” เขายิ้มยียวน
“ยุคนั้นวงการเพลงกำลังเฟื่องฟู งานของผมคงเป็นงานที่มีความสุขที่สุดในโลก เข้าบริษัทแค่อาทิตย์ละสองวัน เข้าบ่ายด้วย ถ้าติดธุระก็ไม่ต้องเข้าก็ได้ ไม่มีใครว่าอะไร แถมรายได้ดีอีกต่างหาก ใช้ชีวิตแบบนั้นอยู่ได้ 10 ปี แล้ววงการเพลงก็ล่มสลาย นักแต่งเพลงทยอยกันตกงาน รวมทั้งตัวผมด้วย”
นั่นทำให้วิสูตรต้องไปลิ้มรสชาติของชีวิตมนุษย์เงินเดือนเป็นครั้งแรก เขาสมัครเป็นครีเอทีฟรายการวิทยุ The Radio 99.5 ก่อนจับพลัดจับผลูไปเป็นบรรณาธิการนิตยสาร MiX รวมระยะเวลานานถึง 6 ปีเต็ม
แม้งานสนุก แต่รูปแบบการทำงานกลับไม่อิสระเสรีดั่งใจคิด
“สิ่งที่ผมคิดว่าเป็นจุดด้อยของงานประจำคือ หนึ่ง งานประจำเสนอความมั่นคงให้เรา และความมั่นคงจะทำให้เราอยู่กับที่ ไม่คิดอะไรใหม่ เป็นธรรมดาที่มนุษย์ต้องการความปลอดภัยและมั่นคงในชีวิต แต่มันจะยากมากที่เราจะทำอะไรท้าทายให้กับชีวิต ถ้าเรารู้สึกสบายดีและมั่นคงอยู่แล้ว สอง งานประจำให้เราสัญญาว่าต้องเอาเวลาวันละ 8 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลาบนท้องถนน) ไปแลกกับค่าจ้าง นั่นเท่ากับตัดโอกาสใหม่ๆ ในชีวิตเราไปเยอะมาก เราจะเอาเวลาที่ไหนไปเจอสิ่งใหม่ๆ คนใหม่ๆ โอกาสใหม่ๆ ในเมื่อวันหนึ่งก็หมดไปกับงานประจำไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง”
ปัจจุบัน วิสูตรสะดวกใจที่จะกรอกคำว่า “รับจ้างทำหนังสือ” ไว้ตรงช่องอาชีพมากกว่า ซึ่งในเวลานี้เขาเป็นฟรีแลนซ์ที่ถือว่างานชุกที่สุดคนหนึ่งในแวดวงพ็อกเกตบุ๊กเลยก็ว่าได้
“ถึงจะมีอาชีพรับจ้างเป็นบรรณาธิการต้นฉบับ ทำนิตยสาร แต่งเพลง แต่ตลอดการทำงานทุกชิ้น ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นลูกจ้าง ผมคิดเสมอว่าผมกำลัง work with (ทำงานกับ) ไม่ใช่ work for (ทำงานให้กับ) ผมคิดว่าผมกำลังทำงาน ‘ร่วม’ กับคนนั้นๆ หรือบริษัทนั้นๆ การคิดแบบนี้เองที่ทำให้ผมรู้สึกว่างานทุกงานเป็นงานของผมอย่างแท้จริง”
เขาย้ำว่าไม่มีงานไหนที่ดีที่สุด ทุกงานมีดีด้อยต่างกัน ทั้งงานประจำและงานอิสระ
“มีเด็กรุ่นใหม่มาถามว่าเรียนจบแล้วควรทำงานประจำมั้ย ผมก็มักจะตอบไปว่า ควร เพราะการทำงานประจำจะสอนให้เราเรียนรู้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นความรับผิดชอบในหน้าที่ การทำงานเป็นทีม การรับคำสั่งจากเจ้านาย หรือการได้เรียนรู้การทำธุรกิจโดยไม่ต้องใช้เงินเราเอง แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมว่าเราไม่ควรทำงานประจำทั้งชีวิต
มีวาระแห่งชาติอยู่ 3 เรื่องที่คนยังไม่ค่อยพูดถึง แต่ผมสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงและเราน่าจะรู้เท่าทัน หนึ่ง เดี๋ยวนี้พนักงานเกือบทุกคนต้องมีงานที่สอง เพราะงานประจำเริ่มทำเงินไม่พอค่าใช้จ่ายแล้ว เราจึงได้เห็นพนักงานรับงานนอก ขับแท็กซี่หลังเลิกงาน ขายประกัน ทำเครือข่าย ขายของในอีเบย์ และอีกมากมาย
สอง เด็กรุ่นใหม่เริ่มไม่อยากทำงานประจำ เขาอยากเป็นเจ้าของธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง หรือไม่ก็เล่นหุ้น การหาพนักงานประจำที่ดีและอยู่ทน จึงเริ่มเป็นเรื่องยากสำหรับเจ้าของบริษัท และสาม บริษัทรุ่นใหม่ๆ เองก็เริ่มไม่อยากจ้างพนักงานประจำ เพราะไม่อยากแบกรับสวัสดิการ ค่าฝึกอบรมต่างๆ การ Outsource งานจึงเกิดขึ้น วันนี้อาจจะแค่ในประเทศ แต่ไม่นานคนไทยจะได้เห็นการ Outsource งานข้ามประเทศ คู่แข่งเราจะไม่ใช่คนในประเทศอีกต่อไป”
ฟรีแลนซ์มืออาชีพ แนะนำด้วยความปรารถดีว่าไม่ว่าวันนี้จะเป็นลูกจ้างหรือเจ้าของบริษัท การปรับตัวจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ กระแสจ้างงานไม่ประจำ (Outsource) มันมาแน่ๆ
ถ้าเราไม่เปลี่ยน โลกก็จะบังคับให้เราเปลี่ยนเอง วันนี้พวกเราเตรียมตัวกันแล้วหรือยัง
วิสูตร แสงอรุณเลิศ วัย 38 เป็นชาวพิษณุโลก จบปริญญาตรีและโทที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่รักที่จะเป็นศิลปินมากกว่าวิศวกร
ทำงานสารพัด ตั้งแต่นักแต่งเพลง ตัวอย่างผลงานเพลง อาทิ จากคนรักเก่า (อ๊อฟ ปองศักดิ์) ปากไม่ตรงกับใจ (ชิน ชินวุฒิ) อาจจะเป็นเธอ (ก้อง สหรัถ) ตกหลุมรักเธอทุกวัน (เบิร์ด ธงไชย)
เคยเป็นครีเอทีฟสถานีวิทยุ The Radio 99.5 เคยเป็นบรรณาธิการนิตยสาร MiX
ปัจจุบันเป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์ Stock2morrow ผู้อยู่เบื้องหลังผลงานซูเปอร์เบสเซลเลอร์อย่างแกะรอยหยักสมอง (เวอร์ชันใหม่) คลินิกหุ้นมือใหม่ เล่นหุ้นสไตล์มนุษย์เงินเดือน Max’s Book แอพสู่ฝันพันล้าน จาก 1 ล้านเป็น 500 ล้าน ผมทำอย่างไร? และอีกหลายๆ เล่ม รวมถึงเป็นบรรณาธิการนิตยสารบันเทิงคดีด้วย
ติดตามความเคลื่อนไหวของนักเขียนคนนี้ได้ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/thisisboysthought