ความรักสีกุหลาบ La Vie En Rose
บทเพลงอันเป็นสัญลักษณ์ของนักร้องผู้ยิ่งใหญ่แห่งฝรั่งเศส เอดิท เพียฟ
โดย...เดเซเร่
บทเพลงอันเป็นสัญลักษณ์ของนักร้องผู้ยิ่งใหญ่แห่งฝรั่งเศส เอดิท เพียฟ และยังเป็นเพลงสัญลักษณ์แห่งความรัก
เอดิทแต่งเพลง La Vie En Rose เมื่อปี 1945 ก่อนจะมาเป็นเพลงฮิตในปีถัดมา และออกมาในรูปแบบซิงเกิลถัดมาจากนั้นอีกหนึ่งปี
ชื่อเพลง La Vie En Rose หาใช่หมายถึงชีวิตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ หากหมายความว่า ชีวิต ณ ขณะที่ตกอยู่ในห้วงรัก ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นสีชมพู เอดิทเขียนเนื้อร้องด้วยตัวเอง ขณะที่ทำนองช่วยกันแต่งโดย มาร์เกอริต มอนโนต์ และหลุยส์ กลีเอลมิ (หรือที่รู้จักกันในชื่อ หลุยส์กี)
แรกเริ่มเดิมทีมีบันทึกว่า หลุยส์กีเป็นผู้เขียนเนื้อร้องและทำนองเพลงนี้แต่เพียงผู้เดียว เนื่องเพราะตอนนั้นฝีไม้ลายมือของเอดิทดูจะยังไม่เข้าตามาตรฐานสมาคมนักแต่งเพลงของฝรั่งเศส (ที่มีสิทธิให้ลิขสิทธิ์เพลงตามกฎหมาย) จึงใช้ชื่อของหลุยส์กีไปก่อน
คำว่า “Quand il me prend dans ses bras...” (“เมื่อเขาโอบกอดฉัน...”) เด้งเข้ามาในหัวของเอดิท เพียฟ ค่ำหนึ่งในปี 1944 ขณะที่เธอยืนอยู่เบื้องหน้าหนุ่มอเมริกันสุดหล่อ หลังจากนั้นคำอื่นๆ ก็พร่างพรูออกมาเป็นบทเพลงอมตะ แม้ว่าจะต้องมีการแก้ไขอยู่บ้าง หลังจากที่เธอนำเนื้อเพลงไปเสนอ มารียานน์ มิเชล ซึ่งปรับแก้คำว่า “Les Choses En Rose” (ทุกสิ่งเป็นสีชมพู) ให้เป็น “La Vie En Rose” (ชีวิตสีชมพู) โดยภายหลังมีการแต่งเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษ ผลงานของ แมค เดวิด
หะแรก เอดิทและทีมร่วมแต่งเพลงไม่นึกเลยว่า La Vie En Rose จะประสบความสำเร็จขนาดนี้ พวกเขาเห็นว่าเพลงดูหน่อมแน้มจะตาย ไม่สามารถนำไปเทียบรุ่นกับเพลงอื่นๆ ที่เคยแต่งเอาไว้ได้เลย ดังนั้น หลังจากทำเพลงนี้เสร็จตั้งแต่ปี 1945 เธอจึงดองเอาไว้ตามคำแนะนำของทีมงานที่ปรึกษา ทว่า ในที่สุดก็เปลี่ยนใจนำออกมาร้องครั้งแรกในคอนเสิร์ตของเธอในปี 1946
La Vie En Rose กลายเป็นเพลงโปรดของผู้ชมไปในทันที โดยไม่นานก็ดังเป็นพลุและสร้างชื่อของเอดิท เพียฟ ให้โด่งดังในระดับนานาชาติยิ่งกว่าเก่า ด้วยเนื้อเพลงที่เล่าเรื่องของการไม่เคยหมดหวังในความรัก ซึ่งนอกจากจะให้กำลังใจคนที่เคยอกหักรักคุดแล้ว ยังสามารถช่วยเยียวยาจิตใจผู้คนที่กำลังย่ำแย่ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย
ในปี 1947 โคลัมเบียเรคอร์ดส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท อีเอ็มไอ ออกซิงเกิลเพลงนี้มาในแผ่นเสียง 10 นิ้ว ซึ่งสมัยนั้นแผ่นไวนิลพัฒนาให้สามารถอัดเพลงลงอีกด้านหนึ่งได้ด้วย พวกเขาจึงใส่เพลง Un Refrain Courait Dans La Rue ไว้ที่บีไซด์ แผ่นซิงเกิลดังกล่าวได้การตอบรับอย่างอบอุ่นจากอเมริกันชนคนรักเพลงถึงล้านแผ่นด้วยกัน เช่นเดียวกับเมื่อไปวางตลาดที่อิตาลี ก็กวาดยอดขายถล่มทลายเป็นอันดับ 1 ในปี 1948 รวมทั้งปีถัดมาในบราซิล ที่ La Vie En Rose มียอดขายอยู่อันดับท็อปเทน
เอดิท เพียฟ ร้องเพลงนี้ประกอบภาพยนตร์ฝรั่งเศส Neuf Garcons, Un Coeur (1948) โดยอัลบั้มส่วนตัวของเธอที่บรรจุ La Vie En Rose เอาไว้อัลบั้มแรกคือ Chansons Parisiennes ที่ออกมาในปี 1950 ซึ่งแม้ว่าจะมีบทเพลงมากมายที่ได้การยอมรับว่าเป็นไม้เด็ดของนกกระจิบน้อยแห่งฝรั่งเศสผู้นี้ ไม่ว่าจะเป็น Milord หรือ Non, Je Ne Regrette Rien บรรจุอยู่ในอัลบั้มเดียวกัน แต่ La Vie En Rose ได้กลายเป็นเอกลักษณ์แสดงตัวตนของเอดิท เพียฟ ในสายตานักฟังเพลงทั่วโลกไปแล้ว
ภายหลัง เพลงนี้ยังได้รับรางวัล แกรมมี่ ฮอลล์ ออฟ เฟม (Grammy Hall of Fame Award) ในปี 1998 ด้วย
(ฟังเพลง http://youtube/0feNVUwQA8U)