เตรียมพร้อมสู่เวิลด์คัพ

โดย...น้ากอล์ฟ

เหลืออีกเพียง 32 วัน มหกรรมฟุตบอลโลก 2014 ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศบราซิล ก็จะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ หลังจากรอคอยกันมานานแสนนานถึง 4 ปี โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 มิ.ย.-13 ก.ค.นี้

เกร็ดน่ารู้สู่เวิลด์คัพ

สำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้ ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 20 และเป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี ที่ฟุตบอลโลกกลับมาจัดขึ้นที่บราซิลอีกครั้ง หลังจากเคยจัดเมื่อปี ค.ศ. 1950 โดยแชมป์โลก 5 สมัย ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันครั้งนี้โดยทันที หลังชาติคู่แข่งที่มีสิทธิอย่าง อาร์เจนตินา และ โคลัมเบีย ถอนตัวจากการคัดเลือกไป ซึ่งนอกจากจะกลับมาจัดที่บราซิลแล้ว ยังเป็นการจัดที่ทวีปอเมริกาใต้

หลังครั้งล่าสุดจัดขึ้นที่อาร์เจนตินา ปี ค.ศ. 1978 ขณะที่ฟุตบอลโลกครั้งแรกก็จัดที่ทวีปอเมริกาใต้เช่นกัน โดยจัดขึ้นที่ประเทศอุรุกวัย ในปี ค.ศ. 1930 ซึ่งเวลานั้นเป็นการแข่งขันโดยไม่มีการคัดเลือกทีมเข้าเล่นแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ ทีม “จอมโหด” เจ้าภาพยังคว้าแชมป์โลกเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์อีกด้วย

เซปป์ แบลตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ยืนยัน ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล จะเป็นฟุตบอลโลกที่ดีที่สุดตั้งแต่เคยจัดขึ้นมา

“ประเทศบราซิลนั้น คือบ้านของฟุตบอล และประชาชนทั่วประเทศนั้น ก็หลงใหลในกีฬาชนิดนี้อย่างเต็มที่” แบลตเตอร์ กล่าว

คอนเซปต์แดนแซมบ้า

การแข่งขันครั้งนี้จะใช้สโลแกน “All in One Rhythm” ซึ่งมีความหมายว่า ทุกสิ่งทุกอย่างสอดคล้องกันเป็นหนึ่งเดียว เพราะเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ไม่ว่าสไตล์การเล่นแบบไหนจากทั่วทุกมุมโลก ก็จะหลอมรวมกันเป็นจังหวะของเกมลูกหนัง

ขณะที่ เฌโรม วาล์คเก เลขานุการสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ เผยถึงแนวคิดสโลแกนดังกล่าว ว่าเหมือนเป็นการเชิญชวนผู้มาเยือนให้สนุกกับช่วงเวลาและสร้างความภาคภูมิใจไปพร้อมๆ กับชาติเจ้าภาพ เพราะทีมแซมบ้าได้รับการยอมรับว่ามีการเล่นที่สวยงาม เกมรุกตื่นตาตื่นใจ ไม่เป็นสองรองใครในโลกนี้

“สำหรับ ‘จังหวะ’ ตามความคิดหลัก เป็นการรวมกันของแฟนบอลบราซิลและชาติต่างๆ ที่จะเต็มไปด้วยสีสัน รวมถึงความมีชีวิตชีวา กำหนดให้จังหวะบราซิเลียนหลากหลายมากยิ่งขึ้น” วาล์คเก เผย

โลโก้ของการแข่งขันในครั้งนี้มีชื่อว่า “Inspiration” หมายถึง แรงบันดาลใจ โดยนี้มีลักษณะเป็นรูปมือ 3 มือ คือ สีเขียว และ เหลือง ซึ่งเป็นสีประจำชาติบราซิล ประกอบกันเป็นถ้วยฟีฟ่า เวิลด์ คัพ พร้อมกับมีตัวเลข 2014 สีแดง อยู่ตรงกลางโลโก้ ส่วนแมสคอต จะใช้ตัวนิ่มที่เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในบราซิล ชื่อว่า ฟูเลโก เป็นสัญลักษณ์ในการแข่งขันครั้งนี้ โดยชื่อดังกล่าวได้รับการโหวตถึง 48% ของผู้ที่ร่วมโหวตทั้งหมดจำนวน 1.7 ล้านคนเลยทีเดียว

ที่มาตั๋ว 32 ใบ

จำนวนทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้มีทั้งหมด 32 ทีม แบ่งเป็นทีมจากทวีปยุโรป 13 ทีม ทวีปอเมริกาใต้ 6 ทีม ทวีปแอฟริกา 5 ทีม ทวีปเอเชีย และทวีปอเมริกาและโซนคอนคาเคฟ 4 ทีม โดยใช้ 12 สนาม จาก 12 เมือง และมีการแข่งขันทั้งสิ้น 64 นัด ซึ่งเมืองที่ได้รับเป็นเจ้าภาพประกอบไปด้วย เซาเปาโล, รีโอเดจาเนโร, บราซิเลีย, ซัลวาดอร์, เรซีเฟ, ปอรตูอาเลเกร, นาทัล, มานาอัส, ฟอร์ตาเลซา, กูรีตีบา, กูยาบา และเบโลโอรีซอนตี

นัดเปิดสนามจะเป็นเกมระหว่างเจ้าภาพ บราซิล พบกับ โครเอเชีย ทีมจากทวีปยุโรป ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ จะเตะกันที่สนามโครินเธียนส์ อารีนา เมืองเซาเปาโล ส่วนนัดชิงชนะเลิศจะเตะที่สนามมาราคาน่า เมืองรีโอเดจาเนโร เมืองหลวงเก่าของบราซิล ในวันที่ 13 ก.ค. ซึ่งจะเป็นสนามที่มีความจุมากที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้ คือ 76,935 คน

สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้สำหรับฟุตบอลโลก ก็คือ เจ้าลูกฟุตบอล นั่นเอง ซึ่งลูกฟุตบอลที่จะใช้แข่งขันในครั้งนี้มีชื่อเรียกกันว่า บราซูกา ซึ่งคำดังกล่าวไม่ได้มาจากขีปนาวุธ แต่มาจากการโหวตของแฟนบอลกว่า 77.8% โดยมีความหมายถึงวิถีชีวิตที่น่าภูมิใจของชาวบราซิเลียน และเป็นสิ่งที่จะทำให้โชคดีทุกอย่าง แล้วยังสะท้อนถึงความคลั่งไคล้ในเกมลูกหนังของชาวแซมบ้าที่มีให้ขุนพล เซเลเซา ของเขาอีกด้วย โดยที่อาดิดาส บริษัทผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์กีฬาชื่อดังของเยอรมนี ยังคงเป็นผู้ผลิตฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขันครั้งนี้เช่นเดิม

เทคโนโลยีใหม่ไฉไลกว่าเดิม

นอกจากนี้ สิ่งที่เพิ่มขึ้นจากการแข่งครั้งก่อนๆ ก็คือ เทคโนโลยีโกลไลน์ ที่ฟีฟ่าได้เพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยการตัดสินของผู้ตัดสิน โดยการที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะแจ้งเตือนผู้ตัดสินว่าลูกบอลข้ามผ่านเส้นประตูแล้วหรือไม่ เทคโนโลยีนี้จะแจ้งเตือนว่าลูกฟุตบอลข้ามผ่านเส้นไปแล้วอย่างชัดเจน และข้อมูลนี้จะแจ้งเตือนผู้ตัดสิน ซึ่งก่อนหน้านี้มีปัญหาต่างๆ นานาที่ผู้ตัดสินไม่ให้ลูกที่ผ่านข้ามเส้นไปแล้วเป็นประตู

อย่างเช่นกรณี การแข่งขันครั้งที่ผ่านมาที่ประเทศแอฟริกาใต้ ในเกมรอบสอง เกมระหว่างทีมชาติเยอรมนี กับ ทีมชาติอังกฤษ โดยที่ผู้กำกับเส้นตัดสินผิดพลาดจากลูกยิงของ แฟรงก์ แลมพาร์ด ที่ยิงเข้าประตูไปแล้วแต่กลับไม่ได้ประตู ในนาทีที่ 39 ซึ่งขณะนั้นเยอรมนีนำอังกฤษอยู่ 2-1 ก่อนจบเกมอินทรีเหล็กจะเอาชนะสิงโตคำรามไปได้ 4-1 ผ่านเข้ารอบต่อไป โดยความผิดพลาดในครั้งนี้ทำให้เทคโนโลยีดังกล่าวจะถูกใช้เป็นครั้งแรกในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย

“มันเป็นเรื่องดีมากที่จะนำเทคโนโลยีมาช่วยผู้ตัดสิน หลายประตูที่ถูกปฏิเสธจากผู้ตัดสิน บางครั้งมันก็เป็นเรื่องยากที่จะสามารถมองเห็นเหตุการณ์หรือตัดสินใจในระยะเวลาเพียงเสี้ยววินาที เราจึงจำเป็นต้องพึ่งเทคโนโลยีแล้ว ซึ่งมันควรจะมีการนำมาใช้ตั้งนานแล้ว” แลมพาร์ด กล่าว

ทั้งนี้ ฟีฟ่าได้ทำการทดลองใช้เทคโนโลยีโกลไลน์มาแล้วในศึกฟุตบอล คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ 2013 ที่จัดขึ้นที่บราซิล ช่วงกลางปีที่ผ่านมา และผลที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยการแข่งขันดังกล่าวยิงประตูกันไปได้ถึง 68 ประตู และระบบเองก็ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าทั้ง 68 จะไม่มีลูกปัญหาที่ต้องถกเถียงกันเลยก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ปัญหาของแฟนบอลชาวไทยสำหรับการรับชมฟุตบอลโลกในครั้งนี้ก็คือ ปัญหาจอดำ ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะได้ดูทางฟรีทีวีครบ 64 แมตช์ได้หรือไม่ เหมือนครั้งฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2012 หลังบริษัท อาร์เอส ผู้ได้รับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ยังคงยืนยันที่จะถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกผ่านทางฟรีทีวีเพียง 22 แมตช์ และหากจะรับชมครบทั้ง 64 แมตช์ ต้องซื้อกล่องเท่านั้น

ดูแลสุขภาพด้วยล่ะ

ขณะเดียวกัน การแข่งขันถูกจัดขึ้นในทวีปอเมริกาใต้ จึงเป็นอีกปัญหาที่น่าปวดหัวสำหรับแฟนบอลชาวไทย เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ของบราซิลมีที่ตั้งห่างจากประเทศไทยมาก ทำให้เวลาในการดูฟุตบอลไม่เอื้ออำนวย โดยเวลาที่ใช้ในการแข่งขันตามเวลาประเทศไทย มีดังนี้ 23.00 น., 02.00 น., 03.00 น. และ 05.00 น. ซึ่งเวลาแข่งขันในตี 3 และตี 5 จะเป็นสิ่งที่น่าปวดหัวที่สุด เพราะช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาพักผ่อน พอการแข่งขันจบลง ก็ต้องออกไปเรียนหรือทำงาน โดยที่ไม่มีเวลาให้พักผ่อนเลย ดังนั้น แฟนบอลควรเตรียมตัวเพื่อไม่ให้กระทบต่อการเรียนหรือการทำงานในวันถัดไป

ส่วนแฟนบอลที่อยากไปสัมผัสบรรยากาศถึงขอบสนาม ซึ่งฟุตบอลโลกครั้งนี้ บริษัท เวิลด์ แพลนเน็ต ก็คว้าลิขสิทธิ์จำหน่ายทัวร์พร้อมตั๋วชมฟุตบอลโลกอย่างเป็นทางการ ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “Official Hospitality 2014 FIFA WORLD CUP BRAZIL” โดยราคาอยู่ที่ประมาณ 5-8 แสนบาทเลยทีเดียว