posttoday

สองวัย ใจเดียว สไตล์ไหมไทย

07 มิถุนายน 2557

มรดกของประเทศไทยที่มีมูลค่าและประเมินไม่ได้ คือ “ผ้าไหมไทย” ที่มีเอกลักษณ์

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

มรดกของประเทศไทยที่มีมูลค่าและประเมินไม่ได้ คือ “ผ้าไหมไทย” ที่มีเอกลักษณ์การย้อม การทอ และการวาดลวดลายสุดวิจิตร และแต่ละพื้นที่ของประเทศก็มีเอกลักษณ์การทอ การย้อม และการวาดลวดลาย แตกต่างกัน สืบทอดการทอผ้าไหมไทยมาจากรุ่นบรรพบุรุษจนถึงรุ่นปัจจุบัน การสวมใส่ผ้าไหมปัจจุบันไม่ได้จำกัดวงอยู่แค่ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้สูงวัยเพียงเท่านั้น คนรุ่นใหม่ก็หันมาใส่ผ้าไหมไทย แม้จะยังมีไม่สูงมากนักก็ตาม

โสดเน้นผสานลวดลายสมัยใหม่

แสงระวี สิงหวิบูลย์ รักษาการผู้จัดการสายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตศิลป์ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. ในฐานะคนทำงานและชื่นชอบใส่ผ้าไหมไทย ว่า เมื่อได้เข้ามาทำงานที่ ศ.ศ.ป.ได้สัมผัสและใกล้ชิดกับผ้าไหมไทย จึงรู้เลยว่า ผ้าไหมไทยมีคุณค่ามาก มีเอกลักษณ์ จึงเลือกซื้อผ้าไหมไทยมาตัดเป็นชุดทำงาน โดยใส่ชุดผ้าไหมไทยไปทำงานแทบทุกวัน และหากวันใดไม่ใส่ชุดผ้าไหมจะรู้สึกแปลกๆ หรืออาจต้องมีเครื่องประดับที่มาจากผ้าไหมมาใส่แทน เช่น ผ้าพันคอ เป็นต้น

ผ้าไหมที่นิยมเลือกซื้อมาตัดชุด ได้แก่ “ภูแล่นไหมแต้มหมี่” จาก อ.ชนบท จ.ขอนแก่น โดยเป็นกลุ่มผลิตผ้าไหมที่มีการเพนต์สีบนเส้นใยผ้าไหมก่อนการทอ ซึ่งมีศิลปินมาร่วมเพนต์สีและลวดลายบนผ้าไหม จึงได้ผ้าไหมมัดหมี่ลวดลายงามตาแบบประยุกต์ที่มีเรื่องราวของผ้าและลายของผ้าที่มีความทันสมัยมาก

นอกจากนี้ มีเส้นลายทั้งเรขาคณิต ลวดลายแบบวงกลม เป็นต้น เห็นแล้วจึงรู้ว่าเป็นผ้าไหมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมทั้งยังมีการย้อมสีผ้าไหมแบบธรรมชาติ จึงนิยมเลือกซื้อผ้าไหมดังกล่าวมาตัดเป็นชุด ที่จะมีการเลือกแบบของชุดมาตัดเอง ราคาผ้าไหมดังกล่าวไม่สูงนัก เฉลี่ยมีราคาที่ 800-1,000 บาทต่อเมตร

สองวัย ใจเดียว สไตล์ไหมไทย

 

ขณะเดียวกัน หากไม่ใช้การสั่งตัด จะมีแบรนด์เสื้อผ้าในใจที่นิยมเลือกซื้อ คือ “Noriko” แบรนด์ไทยที่นำผ้าไหมมาตัดเป็นชุดแบบสมัยใหม่ และมีการออกแบบแปลกใหม่ มีสาขาอยู่ในศูนย์การค้าสยามพารากอน ถือว่าโดยเฉลี่ยแล้วในแต่ละเดือนจะเลือกซื้อชุดจากผ้าไหม หรือตัดชุดผ้าไหมประมาณ 12 ชุดต่อเดือน และชุดทำงานประมาณ 70% ก็เป็นชุดผ้าไหม

“อยากบอกว่าความรู้สึกที่ได้ใส่ชุดผ้าไหม รู้สึกดีมาก เพราะผ้าไหมไทยมีคุณค่า สามารถใส่ได้ในทุกเทศกาล หรืองานต่างๆ ไม่ได้ให้ความรู้สึกเชย เพราะผ้าไหมไทยมีการออกแบบและประยุกต์ใหม่สวยงามมาก และหากเวลาไปทำงานไม่ได้ใส่ชุดผ้าไหมจะรู้สึกแปลกมาก” แสงระสี กล่าว

อยากให้คนไทยคิดว่า การใส่ผ้าไหมไทย ก็แสดงถึงความเป็นไทยและอยากให้คนไทยหรือคนรุ่นใหม่หันมาสนใจใส่ผ้าไหมไทยเพิ่มมากขึ้น เพราะแสดงถึงเอกลักษณ์ของชาติไทย เพราะผ้าไหมก็คือประเทศไทยนั้นเอง

สองวัย ใจเดียว สไตล์ไหมไทย

 

เกษียณเน้นสวมใส่สบาย คงเอกลักษณ์ไทย

พิมพาพรรณ ชาญศิลป์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. เล่าว่า ชื่นชอบการใส่ผ้าไทยและผ้าไหมไทยมาก จึงสวมใส่ผ้าไหมไทยเป็นประจำ โดยการเลือกซื้อชุดผ้าไหมมาใส่ทำงาน เริ่มตั้งแต่ปี 2526 หลังจากทำงานมาประมาณ 8 ปีแล้ว ช่วงปีนั้นเกิดกระแสร้านผ้าไหมแบรนด์ดังของไทย “จิม ทอมป์สัน” ลดราคา จึงไปเลือกซื้อชุดผ้าไหม แต่ส่วนตัวก็ชอบผ้าไหมตั้งแต่เริ่มทำงานแล้ว เพราะผ้าไหมใส่แล้วสบาย ถือเป็นวัฒนธรรมของประเทศไทย ส่วนในวันทำงานก็จะใส่ผ้าไหมทุกวัน หรืออาจจะเปลี่ยนไปใส่ชุดผ้าไทยชนิดอื่น เช่น ผ้าฝ้าย เป็นต้น

ส่วนผ้าไหมที่นิยมใส่ จะเลือกผ้าไหมที่มีการพิมพ์ลายหรือใส่ลายไว้ ผ้าไหมมัดหมี่ ผ้ากาบบัว ผ้าลายลูกแก้ว โดยแต่ละพื้นที่จะมีรูปแบบการทอและมีลักษณะเด่นเฉพาะตัว ถือว่าทุกพื้นที่ก็มีความงดงาม มีเรื่องราวความเป็นมาเป็นไป วิธีการทอ การผลิต การย้อม หรือวาดลวดลายในรูปแบบของแต่ละท้องถิ่นอยู่แล้ว ดังนั้น การเลือกซื้อผ้าไหมจึงอยู่ที่ความชอบของแต่ละคน

ทั้งนี้ จะนิยมเลือกซื้อผ้าไหมมาตัดชุดในแบบต่างๆ โดยความถี่ที่ตัดชุดผ้าไหมนั้นนับจำนวนไม่ได้ หากเจอผ้าไหมชิ้นไหนถูกใจ หรือเจอสีผ้าไหมที่ชื่นชอบ ก็จะเลือกซื้อผ้าไหมมาตัดในร้านประจำ

การที่มีนโยบายให้พนักงาน ศ.ศ.ป.ใส่ชุดผ้าไหมหรือผ้าไทยมาทำงานทุกวันจันทร์นั้น เพราะองค์กรของ ศ.ศ.ป.ก็ดูแลเรื่องผ้าไทยและผ้าไหมอยู่แล้ว ทำให้พนักงานพร้อมใจที่จะใส่ผ้าไทยในวันจันทร์

ข้อแนะนำการเลือกใส่ผ้าไหมมีหลายแบบให้เลือก การเลือกเครื่องแต่งกายที่ใช้ผ้าไหม จึงต้องเลือกดูความหนาของผ้า เพราะมีทั้งผ้าไหม 1 เส้น 2 เส้น 3 เส้น และ 4 เส้น ที่นำมาทอ หากมีเส้น 4 เส้น ผ้าทอจะหนามากสุด หากใช้ผ้าไหม 1 เส้น ผ้าทอจะบาง โดยส่วนใหญ่การเลือกซื้อชุดมาใส่ จึงนิยมผ้าไหมจำนวน 2 เส้น มาทอเป็นชุด เพราะจะมีความหนาปานกลาง และตัดเป็นชุดต่างๆ ได้ดี สวมใส่แล้วไม่ร้อนและมีความอ่อนนุ่มของผ้า

ที่สำคัญการเลือกใส่ผ้าไหมในช่วงหน้าร้อน สามารถเลือกใส่ได้ตามปกติ และใส่แล้วไม่ร้อน เพราะผ้าไหมมีการระบายอากาศที่ดี หรือเลือกชุดจากผ้าไหม 1 เส้น ทำให้ผ้ามีความบางยิ่งใส่สบายในหน้าร้อน ส่วนการดูแลผ้าไหมก็สามารถนำไปซักมือได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องซักแห้งที่มีราคาสูง แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่เมื่อนำไปซักมือแล้ว ปล่อยให้ผ้าไหมที่เริ่มมีความชื้นเหลืออยู่เล็กน้อย ควรนำไปรีดทันที เพราะจะทำให้ชุดผ้าไหมขึ้นรูปได้ตามเดิม

พิมพาพรรณ กล่าวปิดท้ายว่า อยากให้คนรุ่นใหม่หรือคนทำงาน มองผ้าไหมไทยในรูปแบบใหม่ เพราะผ้าไหมมีการปรับรูปแบบ ออกแบบสุดทันสมัย ใส่แล้วสวยงาม รู้สึกสบาย ที่สำคัญผ้าไหมคือวัฒนธรรมของประเทศไทย ที่ทุกคนต้องรักษาให้คงอยู่กับประเทศไทยต่อไป ผ้าไทยก็ต้องมีความเหมาะสมกับคนไทยมากที่สุดอยู่แล้ว