แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ‘น้องหมา’ ตัวแทนสี่ขาที่โดนทิ้ง
“เจ้าตูบ” เพื่อนแสนดี สุดแสนซื่อสัตย์ ที่มนุษย์นิยมเลี้ยงเป็นเพื่อน โดยเฉพาะในปัจจุบัน
โดย...ดวงใจ จิตต์มงคล
“เจ้าตูบ” เพื่อนแสนดี สุดแสนซื่อสัตย์ ที่มนุษย์นิยมเลี้ยงเป็นเพื่อน โดยเฉพาะในปัจจุบันจากแนวโน้มครอบครัวไทยมีขนาดเล็กลง เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ “น้องหมา” ถูกยกระดับขึ้นชั้นเป็นสมาชิกในครอบครัวไปด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มครอบครัวสมัยใหม่ที่ยังไม่มีบุตร และหันมานิยมเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ ที่พร้อมควักกระเป๋าจ่ายเพื่อดูแลสมาชิกสี่ขากันเต็มที่ โดยคาดว่ามีจำนวนสุนัขเลี้ยงไม่ต่ำกว่า 3 ล้านตัวในบ้านเรา
‘เบลล่า’ จากหมาวัดสู่ทูตสี่ขา
นอกจาก “โลกสวย” ของสุนัข ที่นิยมเลี้ยงเป็นเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวกันมากขึ้นแล้ว ทว่าอีกในอีกมุมหนึ่งยังมีเจ้าสี่ขาจำนวนไม่น้อยที่ถูกเจ้าของนำไปปล่อยทิ้งตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในวัดแหล่งรวมสารพัดสุนัขหลายพันธุ์ที่บอบช้ำทั้งทางกายจากความพิการ รวมถึงทางใจที่เจ้าของเคยให้ความรัก การดูแลเป็นอย่างดี ก่อนจะไม่เหลียวแลและถูกทอดทิ้งในที่สุด
กฤษณะพงศ์ อัครวัฒน์สุขกุล อาสาสมัครผู้ดูแลกลุ่ม โครงการ “เพื่อนกัน_ไม่ทิ้ง(น้องหมา)กัน” ที่ใช้ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กเพจ www.facebook.com/thailandpoordog เชื่อมต่อกับทุกคนที่มีแนวคิด “จิตอาสา” ที่ต้องการช่วยเหลือเจ้าตูบที่โดนทิ้ง ด้วยการหาที่อยู่ให้ โดยปัจจุบันเพจนี้มีจำนวนผู้กดไลค์เกือบ 5 หมื่นรายแล้ว พร้อมกับมี “เบลล่า” สุนัขสีน้ำตาลสลับขาวเพศเมียหน้ารับแขก ดำรงตำแหน่งแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ตัวแทนน้องหมาในโครงการ
ที่มาของ “เบลล่า” ก่อนจะเป็นทูตในโครงการนี้ เกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนก่อน โดยมี “น้องพิม” จิตอาสาโครงการ ไปพบเจ้าเบลล่าที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ซึ่งมีชีวิตรอดมาได้โดยอาศัยข้าวรอใส่บาตรของพระที่วัด ที่นอกจากจะมีเบลล่าแล้วยังมีหมาอื่นๆ อีกรวมแล้ว 5 ชีวิต ซึ่งในตอนแรกที่เจอเบลล่า ก็ตั้งใจที่จะหาบ้านให้อยู่ แต่ด้วยสุขภาพของเบลล่าที่ไม่แข็งแรงและมีปัญหาเรื่องปอดและหัวใจทำให้ตัดสินใจดูแลเอง
ปัจจุบัน กฤษณะพงศ์มีสุนัขที่ถูกทอดทิ้งในความดูแลจำนวน 4 ตัว คือ เบลล่า ราตรี กู๊ดดี้ และมูมู่ ซึ่งยังไม่นับรวมตัวอื่นๆ ในโครงการกว่า 30 ตัว ด้วยปัจจุบันกฤษณะพงศ์ต้องทำงานในฐานะฝ่ายบริหารในธุรกิจด้านโลจิสติกส์พร้อมกัน ทำให้ไม่สามารถดูแลได้เพียงคนเดียวไหว และเห็นว่าควรมีโครงการลักษณะดังกล่าวขึ้นมาเพื่อแบ่งปันให้จิตอาสาอื่นๆ ที่สนใจเข้ามามีส่วนร่วมดูแล โดยใช้วิธีประมูลสินค้าผ่านเว็บไซต์หรือขายของเพื่อหารายได้เข้ามาใช้จ่ายในโครงการ
ดังนั้น “เบลล่า” จึงได้กลายมาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ในโครงการไปโดยปริยาย ที่จะมีกลุ่มคนจิตอาสาที่รักสัตว์ โดยเฉพาะสุนัขรู้จักเบลล่าเป็นอย่างดี เพื่อเป็นตัวแทนให้กับเจ้าตูบทั้งหลาย ทั้งสุนัขที่ถูกทอดทิ้ง หมาวัด หรือแม้แต่หมาพเนจร ซึ่งโครงการนี้จะเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนข่าวสารเกี่ยวกับสุนัขที่ถูกทอดทิ้ง รวมถึงแชร์เคสต่างๆ เพื่อหาผู้ใจบุญมารับเลี้ยงต่อไป
นอกจากจะดำรงตำแหน่งแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ ล่าสุดทางโครงการยังเตรียมขยายความป๊อปปูลาร์ของเบลล่าไปยังกลุ่มแฟนคลับ ด้วยการพัฒนาสติกเกอร์แสดงอารมณ์ของเบลล่าในแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อหารายได้เข้ามาสนับสนุนโครงการให้อยู่ได้ด้วยต่อไปในอนาคต ซึ่งเตรียมเปิดให้ดาวน์โหลดอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
กฤษณะพงศ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า จากการสำรวจพบว่า 60% ของสุนัขที่ถูกทอดทิ้งนั้นมาจากปัจจัยหลัก คือ เจ้าของขาดความรู้ความเข้าใจในสายพันธุ์สุนัขที่นำมาเลี้ยง ด้วยสุนัขที่โดนทิ้งบางตัวก็มีราคาหลักหลายหมื่นบาท และที่สำคัญขาดความรับผิดชอบ โดยเฉพาะกระแสการซื้อสุนัขมอบให้คนรักเป็นของขวัญ แต่เมื่อเลิกกันก็มักจะเลิกกันทั้งคนทั้งหมา
‘เจ้านวล’ สุนัขเจ้าถิ่นอิมแพ็ค
เช่นเดียวกับ “เจ้านวล” สุนัขพันธุ์ทางสีน้ำตาลเพศเมีย อายุไม่แน่ชัด ที่พลัดหลงเข้ามาอาศัยอยู่ในมุมตึกแห่งหนึ่งในศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี มานานร่วม 4-5 ปี ที่ปัจจุบันไม่หนีไปไหน ด้วยมีคนในย่านนี้รวมถึงพนักงานในอิมแพ็คหลายคนที่รักสุนัขและให้ความเอ็นดูเจ้านวลเป็นอย่างดีจนได้รับตำแหน่งแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ “Adopt Me Project” โครงการ 1 บาท เพื่อเจ้าตูบที่หิวโหย
พรพรรณ บุลเนอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ บอกเล่าที่มาโครงการ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคม หรือซีเอสอาร์ ว่าปัจจุบันนอกจากคนจะนิยมเลี้ยงสุนัขมาเป็นทั้งเพื่อนและสมาชิกในบ้านมากขึ้นแล้ว ขณะเดียวกันก็มีสุนัขจำนวนไม่น้อยที่ถูกทอดทิ้งในสังคม เช่นเดียวกับเจ้านวลที่พลัดหลงมาอยู่ในบริเวณนี้
“เดิมทีนวลเป็นสุนัขกลัวคน ไม่กล้าเข้าใกล้คน แต่พอมาอยู่ที่นี่ไปนานๆ เริ่มคุ้นเคย พร้อมกับที่บริษัทเองก็เริ่มจัดระเบียบพื้นที่เพื่อไม่ให้มีคนนำสุนัขมาปล่อยเช่นกัน และเห็นว่าเจ้านวลน่าจะเป็นตัวแทน หรือแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ได้ดี เพื่อรณรงค์ไม่ให้เจ้าของนำสุนัขเลี้ยงมาปล่อยทิ้ง หรือหาผู้มีจิตอาสานำสุนัขที่โดนทิ้งไปรับดูแลต่อไป” พรพรรณกล่าวถึงที่มาโครงการ ซึ่งเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
พรพรรณ เล่าว่า โดยส่วนตัวแล้วอยากเห็นคนให้ความสนใจหรือหันมาดูแลสุนัขจรจัดกันมากขึ้น ซึ่งหากครอบครัวหรือบ้านไหนที่มีกำลังมากเหลือเพียงพอ ก็สามารถติดต่อเพื่อขอไปดูแลสุนัขที่ถูกทอดทิ้งตามสถานที่จิตอาสาต่างๆ ได้ด้วย ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีสถานดูแลสัตว์จรจัดหรือพิการไม่ต่ำกว่า 30 แห่งในกรุงเทพฯ
โครงการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงเพื่อประสานความร่วมมือระหว่างผู้มีจิตอาสาและสถานที่ดูแลสัตว์ต่างๆ โดยมีเจ้านวลเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ที่คนในย่านเมืองทองและโลกออนไลน์รู้จักเป็นอย่างดี
5 สายพันธุ์ตูบมาแรง
วนิดา บุษกรนันท์ นายกสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากแนวโน้มสังคมไทยที่มีการเลี้ยงสุนัขมากขึ้นตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา จากไลฟ์สไตล์หรือค่านิยมของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะครอบครัวสมัยใหม่จะหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยง เพื่อสอนเด็กให้อ่อนโยนและรับผิดชอบต่อสัตว์ ทำให้การเลี้ยงสุนัขเป็นทางเลือกที่ดี โดยแนวโน้มความนิยมพันธุ์สุนัขของคนไทย 5 อันดับแรกในปี 2557 ได้แก่ ชิวาวา ปอมเมอเรเนียน ไซบีเรียนฮัสกี้ ชิห์สุ และโกลเด้นรีทรีฟเวอร์
แนวโน้มดังกล่าวยังส่งอานิสงส์ไปยังธุรกิจบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงในไทย มีการขยายตัวตามขึ้นไปด้วย โดย สิริญาพัทธ์ เทียนรุ่งศรี นายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทย ระบุว่าอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงใน ปี 2557 นี้ คาดมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 10% และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีธุรกิจบริการด้านสัตว์เลี้ยงต่างๆ อย่างเพ็ตช็อป หรือร้านเสริมสวย คลินิก สำหรับสัตว์เลี้ยง ฯลฯ ที่ปัจจุบันคาดมีเพ็ตช็อปราว 2,000 ร้านกระจายทั่วประเทศ และมีประชากรสัตว์เลี้ยงทุกประเภท อาทิ สุนัขและแมว รวมกันไม่ต่ำกว่า 6 ล้านตัว หรือคิดตามสัดส่วน10% ของจำนวนประชากรของประเทศ ซึ่งทำให้มีการจับจ่ายซื้อสินค้าเพื่อดูแลเพิ่มขึ้นตามไปด้วย หรือไม่ต่ำกว่า 10% ของรายได้ต่อครัวเรือน
สำหรับแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในไทยปีนี้ กลุ่มแมวเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นกว่าก่อน ปัจจุบันมีสัดส่วนราว 30% แต่สุนัขก็ยังครองสัดส่วนมากที่สุดกว่า 50-60%
นอกจากนั้นจะเป็นกลุ่มสัตว์เล็กๆ อย่างกระต่าย แพรรี่ ด็อก และสัตว์ปีก หรือสัตว์เลี้ยงแปลกหายาก ฯลฯ ทำให้แนวโน้มธุรกิจบริการด้านสัตว์เลี้ยงจะเติบโตสูงขึ้นตามไปด้วย เช่น บริการ โรงแรม รับฝากเลี้ยงสัตว์เลี้ยง สระว่ายน้ำสุนัข หรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ขนมสูตรใหม่ๆ เป็นต้น
โปรไฟล์ ‘เซเลบ มะหมา 4 ขา’
1.น้องหมาสู้ชีวิต ‘เบลล่า’
สายพันธุ์พิตบูล หมาวัดที่ถูกทิ้ง เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว ภูมิแพ้ แล้วก็มีร่างกายแคระ
น้องเบลล่าเป็นขวัญใจทุกคนที่รักหมาจรจัด เพราะหวังให้เบลล่าเป็นตัวแทนของ(หมา)เด็กไร้บ้านมาขอโอกาสกับคนที่รักน้องหมา ขอที่เล็กๆ ในบ้านให้ดูแลเค้า
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/thailandpoordog
2.‘นวล’ ตัวแทนมะหมาเร่ร่อน
เจ้านวล สุนัขเพศเมีย เจ้าถิ่นย่านเมืองทองธานี พร้อมตำแหน่งแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ โครงการ 1 บาท เพื่อเจ้าตูบที่หิวโหย ให้คนรักสุนัขได้มีส่วนร่วมในการเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูจิตใจสุนัขที่ขาดโอกาสในการถูกเลี้ยงดู ผ่านการช่วยเหลือองค์กรที่ดูแลสุนัขพิการ และจรจัดทั่วไป โดยแต่ละปีจะรวบรวมเงินที่ได้รับบริจาคทั้งหมดนำไปซื้ออาหาร ยา และอุปกรณ์อื่นๆ นำไปมอบให้กับมูลนิธิ หน่วยงาน บุคคลต่างๆ ตามวัตถุประสงค์
3.‘มัชเฌ’ กับภารกิจเรียกรอยยิ้ม
มัชเฌ สี่ขาพันธุ์ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์สีดำ อายุ 4 ปี ที่มาพร้อมกับหน้าที่ “Guide in Maeklong” เพื่อเรียกรอยยิ้มจากผู้คน ด้วยความแสนรู้ ฉลาด ชอบเดินคาบตะกร้าช่วยเจ้าของจ่ายตลาด และช่วยหลวงพ่อบิณฑบาตในตอนเช้าด้วยการคาบกระป๋อง ใครไปตลาดแม่กลอง (สมุทรสงคราม) ต้องการไกด์น่ารักๆ อย่าลืมแวะหาเจ้ามัชเฌ ถามคนแถวนั้นรู้จักเซเลบมะหมากันทุกคน หรือเว็บไซต์ www.facebook.com/musche
4.พี่เม้ง ขาใหญ่ร้าน Coffee Puppy
“เม้ง” หรือฉายา เม้งเขี้ยวยาว น้องหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียน เพศผู้ เจ้าถิ่นที่คอยดูแลความเรียบร้อยประจำร้าน Coffee Puppy ร้านกาแฟ เครื่องดื่ม และอาหาร สำหรับผู้ที่ต้องการนำสุนัขเข้ามาใช้บริการ เพราะไม่ได้มีเพียงแค่อาหารและเครื่องดื่มของคนเท่านั้น แต่ร้านนี้ยังมีเมนูสำหรับเจ้าตูบด้วย ใครว่างแวะมาหาพี่เม้งได้ พิกัดถนนแจ้งวัฒนะ หรือติดตามที่ www.facebook.com/coffeepuppy