ศิวาพร แสงทอง ในแง่งามของสาววนศาสตร์
ในวันที่ลมเย็นโชยผ่านหน้า ท่ามกลางบรรยากาศของหนุ่มสาวนิสิตน้องใหม่
โดย...พงศ์ธร พริบไหว ภาพ กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร
ในวันที่ลมเย็นโชยผ่านหน้า ท่ามกลางบรรยากาศของหนุ่มสาวนิสิตน้องใหม่ สาวน้อยหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินเด่นมาแต่ไกล ในมือของเธอกำลังหอบหิ้วแฟ้มที่มีตัวอักษรติดตัวเบ้อเร่อว่าวนศาสตร์ เมื่อเจอกันสีหน้าเธอดูเหนื่อย แต่ก็ยังยิ้มทักทายแบบเป็นกันเองเมื่อสบตา ซึ่งในวันนี้สาววัย 18 ปี มีนัดพูดคุยกับเราถึงเรื่องราวของเธอ
“หนูวางทิ้งไว้ไม่ได้เลยค่ะ ตลอด 1 ปี ต้องถือแฟ้มแบบนี้ทุกวันจนกว่าจะได้รับรุ่น คือถ้ารุ่นพี่มาไม่เห็นถืออยู่หนูโดนรับน้อง...” เธอบ่นๆ พรางหัวเราะเมื่อช่างภาพบอกให้วางแฟ้มวนศาสตร์ลงเพื่อแชะภาพสวยๆ สาวน้อยอิดออดอยู่นานทั้งไม่กล้าฝืนวินัย โชคยังดีที่เพื่อนในคณะเดินผ่านมา เธอถึงฝากแฟ้มเพื่อนได้สักระยะ เราจึงได้ถ่ายรูปกัน นั่นคือความประทับใจแรกที่มีต่อเธอ ในรอยยิ้มหวานๆ เธอมีความมุ่งมั่นซ่อนอยู่
ศิวาพร แสงทอง หรือน้องปริ๊น สาวจากคณะวนศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีเยื่อและกระดาษ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เธอเองเป็นสาวฮอตมากๆ เพราะมีคนกดติดตามในเฟซบุ๊กเป็นหมื่นๆ ตั้งแต่เรียนอยู่สวนกุหลาบวิทยาลัย วันนี้เธอพอมีเวลาว่างจากการรับน้อง สาวฮอตอย่างเธอจึงแบ่งเวลามาพูดคุยกันได้ ถึงรู้ว่านอกจากความสวยใสที่ทำให้หนุ่มๆ หลงรักแล้ว เธอเองยังเป็นคนที่ใส่ใจในเรื่องธรรมชาติรักษ์โลกอีกด้วย เพราะเธอเลือกเรียนคณะวนศาสตร์ที่น้อยคนนักจะรู้จัก ซึ่งในแต่ละปีๆ หนึ่ง มีนิสิตจบจากคณะวนศาสตร์เพียง 200 กว่าคน นั้นอาจเพราะความหินของการเรียนที่เน้นเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติ หากไม่มีใจรักจริง คงยากที่จะเรียนจบ ซึ่งสาวน้อยคนนี้มีมากกว่านั้นเสียด้วย
“คุณพ่อก็มีส่วนให้อยากเรียนคณะนี้นะคะ เพราะคุณพ่อปริ๊นจบจากคณะวนศาสตร์มาก่อน แล้วพ่อก็มีหน้าที่คืนพื้นที่สีเขียวให้กับแผ่นดิน แล้วทำให้ตอนเด็กๆ มีโอกาสได้ไปดูคุณพ่อทำงาน ไปที่หน่วยของคุณพ่อใน จ.ตาก ก็รู้สึกประทับใจในสายงานด้านนี้มาก เพราะได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และอีกอย่างคือระบบสังคมที่นี่ค่ะ เพราะคุณพ่อหนูจบมาหลายปีมากๆ แต่ก็ยังติดต่อกับเพื่อนได้ทั้งรุ่น มีการทริปรุ่นกันทุกปี หนูก็มีโอกาสไปด้วยหลายครั้ง ก็ทำให้รู้สึกได้ถึงความสามัคคีของเพื่อนพ้อง ความรักกันในรุ่น”
ไม่น่าแปลกที่เธอจะเดินตามไอดอลอย่างพ่อ แต่ด้วยความที่ถูกบ่มเพราะในโลกของนักอนุรักษ์ในสายงานป่าไม้ วิธีการและการลงมือทำต่างหากที่ทำให้เธอเลือกเรียนคณะวนศาสตร์ ซึ่งในปัจจุบันคณะดังกล่าวก็แยกไปได้อีกหลายสาขา โดยล้วนอยู่ในเบ้าหลอมเดียวกัน นั่นคือปลูกฝังความรักษ์โลก
“คณะนี้มีที่เดียวในประเทศไทย แบ่งเป็นสามสาขา จะมีวนศาสตร์ทั่วไป สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางไม้ และสาขาเทคโนโลยีเยื่อและกระดาษ พอเข้ามาเรียนหนูเลยเลือกเรียนสาขาเทคโนโลยีเยื่อและกระดาษ ก็จะเรียนเหมือนวิศวะเลยค่ะ ค่อนข้างยาก เรียนหนัก เพราะต้องเรียนเกี่ยวกับเคมีเยอะมาก หนูเลือกสาขานี้ก็เพราะอยากนำผลิตภัณฑ์จากต้นไม้มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นเศษไม้ปลายไม้ ถือว่าเป็นการทำงานอีกรูปแบบหนึ่งในเชิงอนุรักษ์
“เป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่สามารถสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยอีกรูปแบบหนึ่ง คือเป็นการเรียนที่เกี่ยวกับอุสาหกรรมมากกว่า ไม่ค่อยเน้นไปทางเรื่องป่าไม้ แล้วพอจบไปเรียนสาขานี้มันค่อนข้างหลากหลาย คือสามารถต่อยอดได้หลากหลาย ส่วนใหญ่นิสิตที่จบจากคณะนี้จะทำงานรับราชการในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งแบ่งเป็นกรมป่าไม้ กรมอุทยาน และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง แต่สาขาที่หนูเลือกเรียนส่วนมากจะทำงานด้านอุสาหกรรมที่เกี่ยวกับผลผลิตทางไม้ หากอยากรับราชการก็ทำได้”
เนื่องจากเป็นคณะที่เก่าแก่กว่า 80 ปี ก่อตั้งมาก่อนที่จะมีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จึงเป็นอีกหนึ่งคณะที่มีความเป็นไปเป็นมายาวนานและเชื่อมโยงไปถึงการทำงานและทิศทางในเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติในเมืองไทย ซึ่งนั่นเองเป็นอีกเหตุผลให้สาวเจ้าอยากเรียนที่นี่ เพราะสามารถทำงานในเชิงอนุรักษ์ ถึงแม้จะไม่ได้ลุยป่าลุยเขา แต่ก็เป็นอีกแนวทางเชิงอนุรักษ์ที่สามารถนำทรัพยากรธรรมชาติที่เหลืออยู่ไม่มากแล้วในเมืองไทยมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“เรียนคณะนี้ใจต้องรักและร่างกายต้องพร้อม รวมถึงการเรียนด้วย เพราะหนักอยู่เหมือนกันค่ะ ต้องฟิตไปพร้อมๆ กันทั้งร่างกายและสมอง คือเรียนสาขานี้จะต้องขยันพอสมควร และจุดเด่นที่ปริ๊นเข้ามาแล้วเห็นเลยคือความสามัคคีของรุ่น คือเราต้องจำชื่อเพื่อนให้ได้ทุกคนในรุ่น ต้องรู้จักทุกคน ถ้าทำอะไรก็ต้องทำกันเป็นรุ่น ซึ่งคณะจะหลอมรวมเราให้เป็นรุ่นไปเอง คำว่ารุ่นมันไม่ได้เป็นแค่ตัวเลข มันแสดงถึงหลายๆ อย่าง คืออย่างหนูเพิ่งเข้าเรียนปี 1 ก็ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกเยอะ
แต่ตอนนี้ก็ต้องสู้กับเรื่องกิจกรรมให้ผ่านไปให้ได้ เพราะเยอะมาก” เธอยิ้มน่ารักๆ ให้หนึ่งทีหลังพูดจบประโยค
แม้อาจเล่าไม่ได้ถึงสิ่งที่จะเผชิญในวันข้างหน้าในเรื่องการเรียน แต่สาวหน้าหวานคนนี้ตอบตัวเองได้ว่า เธอฝันไว้เมื่อเรียนจบ เธออยากมีโรงงานเป็นของตัวเอง ทำธุรกิจรักษ์โลกที่ยังยืนและมั่นคง เรียกได้ว่าสวยทั้งหน้าตาและความคิดจริงๆ กับสาวน้อยแห่งคณะวนศาสตร์คนนี้