เป็นเอกด้วยคุณค่า ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA
ศ.ศิลป์ พีระศรี เคยกล่าวไว้ว่า ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น คำกล่าวนั้นไม่เคยผิดแปลกจากความหมาย
โดย...พงศ์ พริบไหว
ศ.ศิลป์ พีระศรี เคยกล่าวไว้ว่า ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น คำกล่าวนั้นไม่เคยผิดแปลกจากความหมาย ศิลปินมากมายหลายท่านดับสลายแต่ผลงานของพวกเขายังอยู่ และผลงานเหล่านั้นล้วนมีพลังบางสิ่งซ่อนอยู่เสมอ แต่แน่นอนที่สุดแม้จะทิ้งพลัง หรือแรงผลักอะไรไว้มากมายขนาดไหน คงไร้ความหมายหากคนรุ่นต่อรุ่นไม่เคยได้ชื่นชมผลงานเหล่านั้น น่ายินดีที่ประเทศไทยเรามีนักสะสมศิลปะอย่าง พี่ใหญ่บุญชัย เบญจรงคกุล ผู้ซึ่งเห็นควรว่ามนุษย์เราควรได้ยลและชื่นชมสิ่งนั้น จึงก่อเกิดเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA (Museum of Contemporary Art)
ครั้งหนึ่งพี่ใหญ่เคยกล่าวให้นักเรียนศิลปะฟังในการตัดสินรางวัลศิลปะ แม้เรื่องเล่าจากพี่ใหญ่จะยาวและน่าจับความมาเล่าให้หมด แต่เล่าๆ ว่าชอบประโยคที่แกบอกไว้ว่า ตัวเขาเองสร้างที่นี่ขึ้นมา นัยหนึ่งคืออยากให้ที่นี่เป็นพื้นที่ของศิลปินหน้าใหม่เด็กนักเรียนนักศึกษา ให้พวกเขาได้มีโอกาสแสดงผลงานตามแต่โอกาส แต่สิ่งสำคัญที่ก่อให้เกิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย คือ ตัวพี่ใหญ่เองมีเจตจำนงอย่างแรงกล้าเพื่อสร้างเฉลิมพระเกียรติและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้ทรงมีพระอัจฉริยภาพด้านศิลปะ และเพื่อเชิดชูเกียรติของบิดาแห่งศิลปะไทยร่วมสมัย ศ.ศิลป์ พีระศรี ผู้วางฐานรากศิลปะที่มั่นคงและแข็งแรงไว้บนผืนแผ่นดินไทย
มาว่ากันด้วยเรื่องของพิพิธภัณฑ์กันต่อ สถานที่แห่งนี้คือพื้นที่รวบรวมศิลปะร่วมสมัยตามยุคต่างๆ ของเมืองไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ และความเป็นสังคมไทย โดยผสมผสานเทคนิคที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝั่งตะวันตก และแบ่งพื้นที่กว่าครึ่งเพื่อแสดงงานสะสมศิลปะของพี่ใหญ่ที่มีผลงานมากกว่า 1,000 ชิ้น กับระยะเวลากว่า 30 กว่าปีที่เริ่มเก็บงานศิลปะ ซึ่งมาจากความชอบและรสนิยมส่วนตัว มีความหลากหลายเชิงมิติคิด และวิธีการทำงานศิลปะแบบเป็นเอกของศิลปินทั่วโลก ซึ่งนอกจากเราจะได้ชื่นชมผลงานที่กล่าวมาการมาที่นี่ก็เสมือนเป็นการผ่อนพักอารมณ์ในเมืองหลวงได้เป็นอย่างดี
เริ่มตั้งแต่เมื่อเข้ามาเราจะเห็นร้านค้าของที่ระลึกและร้านกาแฟเบเกอรี่สไตล์โฮมเมดคอยท่าให้บริการกันก่อนขึ้นไปชื่นชมผลงานศิลปะที่มีทั้งหมดถึง 5 ชั้น บริเวณนี้ถือเป็นอีกหนึ่งมุมที่มีบรรยากาศสบายๆ มองเห็นสวนเขียวริมน้ำจะได้นั่งมองประติมากรรมดอกบัวลอยที่ลอยอยู่กลางน้ำของศิลปินนามอุโฆษ นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ เมื่อนั่งทานอะไรอิ่มท้องก็เตรียมตัวขึ้นไปชื่นชมศิลปะกันได้เลย หากจะเดินชมทุกมุมบอกเลยว่าต้องมีเวลาไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง ในการเดินเที่ยวชมงานนี้ค่อยละเลียดเสพผลงานศิลปะกันไปเพลินๆ ครับ
เมื่อเข้ามาเราจะเห็นอาคารพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัยโดดเด่นสะดุดตาด้วยสีขาว บนผนังตึกจะประดับด้วยช่องรูปทรงสามเหลี่ยมประดับตัวอาคารด้วยหินสลักลายก้านมะลิและหินฉลุที่เปิดรับแสงและสร้างบรรยากาศที่ต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา โดยชั้นแรกจะถูกใช้เป็นห้องนิทรรศการหมุนเวียน และห้องจัดแสดงนิทรรศการเชิดชูเกียรติ ศ.ศิลป์ พีระศรี ทั้งยังมีห้องนิทรรศการถาวรของศิลปินแห่งชาติสองท่าน คือ อ.ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ และ ศ.ชลูด นิ่มเสมอ เอาแค่ชั้นแรกเราก็ได้ยลผลงานของเอกบุรุษในถนนศิลปะถึงสามท่านแล้ว
มาต่อกันที่ชั้นถัดมาขึ้นบันไดเลื่อนกันแบบสะดวกสบาย หากมีผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ ทางพิพิธภัณฑ์ก็มีลิฟต์ไว้ให้บริการ โดยชั้นนี้จะจัดแสดงผลงานศิลปะที่หลากหลายในปัจเจกความคิด อาทิ ผลงานสื่อผสมของ กมล ทัศนาญชลี โดยผลงานส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับความเชื่อของคนไทยรวมไปถึงงานจิตรกรรมเชิงปรัชญา จากปลายนิ้วของ ปรีชา เถาทอง เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ธงชัย ศรีสุขประเสริฐ ฯลฯ ส่วนชั้นต่อมาจะเป็นศิลปะในเชิงความคิดฝันผลงานของศิลปินมีชื่อมากท่าน อาทิ ช่วง มูลพินิจ เริงศักดิ์ บุณยวาณิชย์กุล ประทีป คชบัว ฯลฯ
ชั้น 4 จัดแสดงผลงานที่ถือเป็นสุดยอดแห่งมหากาพย์ของจิตรกรรมไทยร่วมสมัย โดยมีผลงานของ ถวัลย์ ดัชนี ผู้ลาลับแต่กายสร้างทำ และศิลปินชั้นยอดที่หาชมได้ยาก อาทิ ทวี นันทขว้าง เฟื้อ หริพิทักษ์ จักรพันธุ์ โปษยกฤต ประกิต บัวบุศย์ ฯลฯ โดยชั้นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ผลงานจิตรกรรมขนาดสูง 7 เมตร จำนวน 3 ภาพในชุด “ไตรภูมิ” บอกเล่าการเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ในสังสารวัฏตามความเชื่อของไทยเรา ในส่วนของชั้นบนสุดจะเป็นการรวบรวมผลงานศิลปะร่วมสมัยจากหลากหลายศิลปินในประเทศ บางภาพเก่าเก็บมีอายุถึง 270 ปี ผลงานในยุครัชกาลที่ 5
สถานที่แห่งนี้สำหรับคนที่ชื่นชอบ หรือศึกษาศิลปะ ถือเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดแต่อย่างใด แต่สำหรับคนที่ไม่ได้ชื่นชอบเป็นส่วนตัวกับงานเชิงศิลปะ เชื่อเถอะว่าหากได้มาเพียงครั้ง สิ่งหนึ่งที่รู้สึกกลับไปเลยคือความรื่นรมย์ เพราะศิลปะอันดีงามสามารถช่วยเยียวยาอารมณ์ได้ดีเหลือเชื่อ พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย MOCA เปิดให้บริการวันอังคารอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) ส่วนค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 180 บาท นักเรียน 80 บาท พระภิกษุ สามเณรผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ไม่เสียค่าเข้าชม และหากต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ก็สามารถโทรมาสอบถามได้ที่ โทร 02-953-1005-7
ทั้งนี้ เปิดให้เข้าชมชมฟรีถึงสิ้นเดือน ก.ย. เพื่อให้เกียรติกับเอกบุรุษ “ถวัลย์ ดัชนี”