พระราชวังต้องห้ามสีม่วง
จื่อจิ้นเฉิง เมื่อแปลตามตัวอักษรภาษาจีน จะได้ความหมายว่า “เมืองต้องห้ามสีม่วง”
โดย...ภัทรชัย ปรีชาพานิช
จื่อจิ้นเฉิง เมื่อแปลตามตัวอักษรภาษาจีน จะได้ความหมายว่า “เมืองต้องห้ามสีม่วง” นี่คือหน้าแรกของเสิร์ชเอนจิ้นชื่อดังบอกข้อมูลเบื้องต้นไว้ พระราชวังต้องห้าม หรืออีกหลายชื่อ เช่น กู้กง จื่อจิ้นเฉิง พระราชวังต้องห้ามสีม่วง หรือสีเลือดหมู เพราะสีดังกล่าวจะมาจากสีอิฐของอาคารภายในแห่งนี้
บนลานกว้างขนาดใหญ่ของจัตุรัสเทียนอันเหมิน อาคารขนาดใหญ่วางตัวอย่างรโหฐานซ้ายขวาประกอบไปด้วยอาคารของหน่วยงานราชการจีน ศาลาประชาคม อนุสรณ์ของท่านเหมาเจ๋อตุง พ้นกำแพงสูงเข้าไปจะเป็นพระราชวังดังกล่าวที่ไม่มีผู้ใดเคยก้าวผ่านเข้าไปข้างใน ไม่มีคำว่าเล็กสำหรับชนชาติจีนในการก่อสร้างอะไรต่อมิอะไร อิฐที่นำมาใช้ในการก่อสร้างมีความยาวมากถึง 10 เมตรลองคำนวณตามหลักคณิตศาสตร์จะพบว่า ต้องใช้อิฐจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างอาคารทั้ง 800 หลัง บนพื้นที่ 7.2 แสนตารางเมตร เพื่อให้ได้ห้องหับถึง 9,999 ห้อง ในการว่าราชการในอดีตของราชวงศ์จีน พระราชวังต้องห้ามหรือ พิพิธภัณฑ์พระราชวัง เป็นพระราชวังหลวงตั้งแต่สมัยกลางราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง ที่มาของชื่อพระราชวังต้องห้ามไม่ได้ซับซ้อนนอกจากการถูกจำกัดเฉพาะขุนนาง ขันที นางสนม ข้าหลวง และองค์จักรพรรดิ รวมทั้งราชวงศ์
ยูเนสโกได้รับรองที่แห่งนี้ไว้เมื่อปี 2530 ให้เป็นมรดกโลก ยอมรับกับความอลังการของที่แห่งนี้สมกับมรดกโลก เสียงค่อนขอดของใครบางคนบอกว่า หากเดินให้ทั่วอย่างละเอียดภายในพระราชวังต้องห้ามอาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 2 เดือน สำหรับผมเพียง 2 ชั่วโมงที่เดินชื่นชม ก็คุ้มแล้วครับกับพระราชวังแห่งนี้