กุ๊กกู๋ จุดลงตัวในคืนหนาว

โดย...ลีโอ เคน

ค่ำหนึ่งในคืนหนาว อากาศแสนสบายขนาดนี้ใครจะให้หนีไปไหนไกล รีบทำงานอย่างว่องแล้วหาที่ท่องราตรีกันดีกว่าครับ

ค่ำนี้เราไม่ปรารถนาสิ่งใด ขอแค่ได้ลิ้มลองเครื่องดื่มแก้วโปรดในบรรยากาศแสนสบาย ถ้ามีโซนเอาต์ดอร์นั่งเย้ยลมหนาวที่นานๆ จะผ่านมาสักทีให้ชุ่มใจเป็นพอ และที่นี่ล่ะคือจุดหมายปลายทางที่ตอบสนองเราอย่างครบรส

กุ๊กกู๋ (Kuk Kuuk) ร้านยากินิกุแห่งใหม่ ซ่อนตัวอยู่ในซอยข้างผับนั่งเล่น ไม่ไกลเกินจะไขว่คว้า ที่สำคัญที่นี่ยังตกแต่งอย่างสนุกสนาน และยังใหม่ซิงเพราะเพิ่งจะเปิดเอาใจได้ไม่ถึง 3 เดือนเลยครับ

ความสนุกเริ่มต้นเพียงสัมผัสแรกเมื่อก้าวเท้าเข้าสู่ในร้าน ทุกมุมมองแสดงถึงความสนุกสนาน ผสานความน่ารักของเจ้าของร้าน โดยไม่หลงลืมความสบายๆ ซึ่งล้วนมาจากแรงบันดาลใจวัยเด็กของตัวเจ้าของร้านเองที่คิดจะเปิดร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย ด้วยเหตุผลที่ว่ายามตื่นมาตอนเช้าได้มานั่งดูการ์ตูนพร้อมกับกินอาหารที่มีคุณพ่อคุณแม่นั่งกินอยู่ด้วยกัน

 

ร้านนี้ยังสะท้อนความสนุกครั้งเยาว์ของเจ้าของร้าน เพราะมีบรรดาตัวการ์ตูนในยุคประมาณทศวรรษที่ 50-60 ของญี่ปุ่น จัดวางอยู่ตามมุมต่างๆ ผสานกับลังเบียร์ที่แปลงมาเป็นที่นั่งแสนเก๋ ยังมีขวดสาเก โทรศัพท์เรโทร และโปสเตอร์อื่นๆ ที่ล้วนแต่มีความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งด้านในนี้จะเน้นอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น

ความสนุกขยับขึ้นสู่ช่วงวัยรุ่นเมื่อเดินไปโซนเอาต์ดอร์ที่อยู่ด้านข้าง ประดับประดาเสมือนได้นั่งชิลที่สวนหลังบ้าน แอบเท่ด้วยการใช้ตัวโครงสร้างของเวสป้ามาเป็นที่นั่งแสนชิล หลังคาก็โปร่งโล่งสบาย รับลมหนาวกันอย่างอิ่มเอม

ความสุขเริ่มออกสตาร์ทด้วยเสียงเพลงจากวงดนตรีเล่นสดที่หมุนเวียนเปลี่ยนมาเอาใจทุกค่ำคืน ทั้งแจ๊ซ อะคูสติก และอีกหลากหลายแล้วแต่จะเรียกหา วันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 2 วง

ใกล้กันนั้นยังเป็นบาร์เครื่องดื่มขนาดใหญ่ที่คอยคุณเรียกหา ค่ำนี้ขอย้อมดีกรีเบาๆ ด้วย คารุมะ ที่มีส่วนผสมของวอดก้า เสาวรส ตะไคร้ ออกรสเปรี้ยวอมหวาน

หนักขึ้นมานิด ซามูไร บาร์เทนเดอร์บอกว่าแก้วนี้เหมาะกับชายชาตรี เพราะมีส่วนผสมอันหนักหน่วงที่ผสานความเป็นญี่ปุ่นเอาไว้อย่างลงตัว จะตอบรับหนุ่มๆ ที่ชอบของหนักได้อย่างสบาย หรือจะเรียกหาวิสกี้ บรั่นดี หรือพรายฟองแห่งเบียร์ก็มีไว้เอาใจทุกระดับ

เตือนว่า...อย่าเคลิ้มจนลืมสั่งเมนูมาเสริมทัพกันนะครับ อาหารบริเวณด้านนอกจะเน้นเป็นอาหารไทย ยุโรป สไตล์ฟิวชั่น รสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ แต่เสิร์ฟมาแบบสไตล์ญี่ปุ่นด้วยพอร์ตชั่นกำลังพอดี พอคำ

เมนูแรกค่ำนี้ผมสั่งลาบเป็ดกรอบ นำเป็ดไปตุ๋น จากนั้นก็นำไปอบ ต่อด้วยการทอดอีกที คิดดูเถอะว่ามันจะนุ่มสักปานใด

 

ต่อกันด้วย ซีฟู้ดผัดโอริโอ้ ขนทัพมาทั้งปลาหมึก กุ้งสดๆ ที่นำมาผัดกับกระเทียม มะกอกดำ ใบโหระพา ปรุงรสคล้ายผัดขี้เมาแต่ไม่เผ็ดโดดเท่า คนชอบทะเลคงติดใจแน่เพราะสัมผัสได้ถึงความหวานของปลาหมึก และกุ้ง

ชอบเนื้อต้องนี่เลย สเต๊กเนื้อวางุจิ้มแจ่ว เนื้อวัวสายพันธุ์วางุจากออสเตรเลีย หั่นเป็นลูกเต๋าแล้วหมักเครื่องเทศสูตรลับของทางร้าน จากนั้นนำไปกริลบนกระทะ ราดด้วยน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บ เบรกความจัดจ้านด้วยผักสลัด มัดใจเสียอยู่หมัดทีเดียวครับ

ค่ำคืนหนาวกลับไม่รู้สึกเหงาเลยสักนิด ด้วยบรรยากาศ นานาเครื่องดื่ม อาหาร ผสานกับดนตรีมีแนว ใครยังเหงาอยู่ก็บร้าแล้วล่ะ อิอิ

กุ๊กกู๋ เปิดต้อนรับท่านอยู่ที่ สุขุมวิท 63 (เอกมัย) หลังผับนั่งเล่น เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 18.00-01.00 น. หาไม่เจอโทรไปนะครับ 09-4446-6269