เหยี่ยวเหนียว...ส่อจิก‘นักรบ’ดับ

เช้าวันจันทร์ที่ 2 ก.พ.นี้ตามเวลาไทย เราก็จะได้รู้แล้วว่า ใครจะคว้าแชมป์ “ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 49” พร้อมชูถ้วย “วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี่” ซึ่งไม่เพียงเป็นที่สนใจเฝ้าติดตามของบรรดาอเมริกันชนในศึกคนชนคนยอดฮิตนี้เท่านั้น แต่ลุกลามไปทั่วโลก และแน่นอนไม่เว้นแม้แต่แฟนกีฬาในเมืองไทยบ้านเรา

ศึกอเมริกันฟุตบอลเอ็นเอฟแอลล่าสุดนี้ ถือได้ว่าเป็นคู่ชิงศึกซูเปอร์โบว์ลที่สมน้ำสมเนื้อกันอย่างมาก โดยจะเป็นการพบกันระหว่างแชมป์เก่า “เหยี่ยวทะเล” ซีแอตเติล ซีฮอว์กส์ แชมป์สายเอ็นเอฟซี กับ “นักรบกู้ชาติ” นิวอิงแลนด์ เพเทรียตส์ แชมป์สายเอเอฟซี โดยคราวนี้ไปใช้สังเวียนยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ฟีนิกซ์ สเตเดียม ที่แอริโซนา, สหรัฐ

ปัจจัยสำคัญสู่แชมป์

ทั้ง 2 ทีมต่างมีดีสูสีกัน เป็นการเจอกันแบบถูกที่ถูกเวลาอย่างมาก เพราะเป็นการเจอกันของทีมที่ดีที่สุดจากทั้ง 2 สาย จนยากที่ใครจะกล้าฟันธง ทีมนักรบ นำทัพโดย ทอม เบรดี ยอดควอเตอร์แบ็กตลอดกาล โดยมี บิล บิลิชิก เป็นเฮดโค้ช ส่วนทีมเหยี่ยวมี รัสเซล วิลสัน เป็นจอมทัพ และ พีท แคร์โรล รับหน้าที่เฮดโค้ช

 

เพเทรียตส์ แชมป์ 3 สมัย ขึ้นชื่อเรื่องเกมบุกทะลุทะลวง โดยเบรดีเจ้าของแหวนแชมป์ 3 วง เป็นควอเตอร์แบ็กคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงศึกซูเปอร์โบว์ลถึง 6 ครั้ง (จากการเข้าชิง 8 ครั้งของทีมนักรบ) และตอนนี้ยังมี ร็อบ กรอนคาวสกี ปีกในวัย 25 ปี ที่สามารถฟื้นตัวจากปัญหาเจ็บเข่า (เล่นได้แค่ 7 นัด ในปี 2013) แล้วเล่นได้เข้ากับเบรดีอย่างลงตัวมาก โดยรับลูกได้ถึง 82 ครั้ง จาก 15 นัด ในฤดูกาลปกติ ทำระยะรวม 1,124 หลา และ 12 ทัชดาวน์

นอกจากนี้ กรอนคาวสกี ยังมีจุดเด่น คือ สามารถสลับเล่นได้ทั้งตำแหน่งปีกในและปีกนอก เพิ่มความหลากหลายให้เกมบุก จนยากที่จะคาดเดา และหากแนวรับคู่แข่งพลาดเมื่อไหร่ กรอนคาวสกีมีสิทธิพาบอลหลุดไปจ่อเอนด์โซน หรือทำทัชดาวน์เลยทีเดียว

 

ขณะที่ซีฮอว์กส์แกร่งเรื่องเกมรับสุดปึ้ก โดยมีสถิติการันตีได้ นั่นคือ เฉลี่ยต่อเกมนั้นจะปล่อยให้คู่แข่งทำระยะได้เพียง 202 หลา ทำแต้มแค่ 6.5 คะแนน และเข้าไปแซ็กควอเตอร์แบ็กคู่แข่งได้ถึง 24 ครั้งอีกด้วย แถมวิลสันที่ทั้งจ่ายบอลขว้างบอลให้เพื่อน ยังสามารถวิ่งทำระยะเองได้ดี โดยเป็นเจ้าของสถิติควอเตอร์แบ็กทำระยะมากที่สุดในฤดูกาลปกติ (849 หลา) ที่สำคัญ เกมบุกของทีมเหยี่ยวทะเลก็ไม่ได้ขี้เหร่แม้แต่น้อย ไม่เช่นนั้นคงไม่กวาดชัยชนะ 6 นัดสุดท้ายฤดูกาลปกติ โดยทำคะแนนรวม 6 นัดดังกล่าว ทิ้งห่างคู่แข่งสุดกู่ 134-39 แต้ม ซึ่งคงต้องยกเครดิตให้ มาร์ชอว์น ลินซ์ ซึ่งจัดเป็นตัววิ่งที่ดีที่สุดของลีกเอ็นเอฟแอลในยุคปัจจุบัน เพราะด้วยสายตาในการอ่านเกมแนวรับคู่แข่งขั้นเทพ บวกกับความเร็วและพลิ้ว สามารถสลัดหนีการเข้าแท็กได้อย่างยอดเยี่ยม

เอาเป็นว่า เกมรับของใครจะหยุด 2 ปีกตัวเก่งนี้ได้ ก็น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญในการครองแชมป์คราวนี้ หากซีฮอว์กส์หยุดสุดยอดไทด์เอนด์อย่างกรอนคาวสกี ที่สูง 6 ฟุต 7 นิ้วได้ การลุ้นชูถ้วยวินซ์ ลอมบาร์ดี หนที่ 2 ก็ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับเพเทรียตส์ ถ้าสามารถสกัดลินซ์ ที่แข็งแกร่งพร้อมทะลวงทุกพื้นที่ในสนามอยู่ ก็รอเฮกวาดแชมป์สมัยที่ 4 ได้เลย

 

สำหรับเรื่องเฮดโค้ชนั้น ก็มีส่วนกับเกมแน่นอน แต่ระหว่าง “โค้ชจอมเก๋า” บิลิชิก (เพเทรียตส์) กับ แคร์โรล (ซีฮอว์กส์) ในช่วงนี้นั้น ถือว่ามีกึ๋นด้วยกันทั้งคู่ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันมากนัก และเชื่อว่าทั้งเบรดีและวิลสัน หากเจอช่วงเวลาที่คับขัน จอมทัพทั้งสองต่างสามารถทำบิ๊กเพลย์ได้ตลอดเวลา หลังประกบคู่ทั้งควอเตอร์แบ็ก ปีกตัวเก่ง และเฮดโค้ชแล้ว ยังไงก็ยังเดาไม่ออกอยู่ดีว่าใครจะคว้าแชมป์

ตัวแปรสุดท้าย...ทีเด็ดฮอว์กส์

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ฮอว์กส์มี แต่เพเทรียตส์ไม่มี นั่นคือ ตัวคุมปีกสมองเพชรอย่าง ริชาร์ด เชอร์แมน ที่มีทั้งความเร็วและความหนักหน่วง พร้อมประกบติดพวกปีกความเร็วสูงทุกคน

หมอนี่สามารถอ่านเกมและคาดเดาทางบอลได้อย่างยอดเยี่ยม โดยยืนยันได้ด้วยสถิติซีซั่นปกติ ซึ่งมีบอลถูกขว้างมาทางเชอร์แมน 10 ครั้ง เขาปล่อยให้ขว้างสำเร็จได้เพียง 4 ครั้งเท่านั้น รวมระยะแค่ 56 หลา และไม่เสียทัชดาวน์แม้แต่ครั้งเดียว จนกลายเป็นที่น่าเกรงขามหรือฝันร้ายของควอเตอร์แบ็ก-ปีกนอกคู่แข่งในศึกคนชนคน

 

ดังนั้น จึงต้องมาคอยดูกันว่าเบรดีจะป๊อดไม่กล้าขว้างไปทางด้านที่เชอร์แมนยืนคุมอยู่อะป่าว โดยอาจจะเปลี่ยนแผนใช้การเล่นสั้นด้วยปีกตัวใหญ่ๆ หรือไม่ก็สลับกันตามความเหมาะสม เพื่อหวังให้แนวรับฮอว์กส์สับสน เชื่อว่าด้วยการที่ทีมเหยี่ยวมีความหลากหลายมากกว่า และทีมนักรบมีผลงานเกมรับไม่ค่อยดีนัก (อันดับ 19) เมื่อต้องเจอเกมวิ่งของทั้งลินช์กับวิลสันสลับกัน จะเอาไหวเหรอ

จากผลงานในล่าสุดในการชิงแชมป์สายนั้น แม้เพเทรียตส์โชว์ฟอร์มดุถล่ม “เกือกม้า” อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ยับเยินถึง 45-7 ขณะที่ฮอว์กส์ ไล่เจ๊า “เนยแข็ง” กรีนเบย์ แพ็กเกอร์ส หืดจับ แล้วต่อเวลาเฉือนชนะ 28-22 (เสมอ 22-22) แต่ก็ไม่ได้บ่งชี้ว่า ใครจะเหนือกว่าใคร เพราะมันเป็นเพียงอดีต ทุกอย่างต้องมาตัดสินกันในศึกซูเปอร์โบว์ลครั้งนี้เท่านั้น ทั้งนี้ตรงกับบริษัทรับพนันถูกกฎหมายที่ลาสเวกัส ซึ่งให้ทีมเหยี่ยวเหนือกว่าเล็กน้อย

ฟันธง...ฮอว์กส์ ชนะ เพเทรียตส์ 30-27