เพลงรัก ของนักแต่เพลง
เชื่อไหมว่า เราทุกคนต่างมีช่วงเวลาของชีวิตที่หมุนเวียนเปลี่ยนผันกันไป เพลงรักมากมายบนโลกใบนี้จึงไหลเวียนเปลี่ยนผ่านเข้ามา เพื่อทำให้เรา “รู้สึก...อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน”
โดย... ตุลย์ จตุรภัทร
เชื่อไหมว่า เราทุกคนต่างมีช่วงเวลาของชีวิตที่หมุนเวียนเปลี่ยนผันกันไป เพลงรักมากมายบนโลกใบนี้จึงไหลเวียนเปลี่ยนผ่านเข้ามา เพื่อทำให้เรา “รู้สึก...อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน” ได้เสมอ ยิ่งวันนี้เป็นวันแห่งความรัก คนโสดอาจฟังเพลงรักแล้วแสลงหู เลยเปลี่ยนไปฟังเพลงแนวๆ รักตัวเองให้เป็น หรือซื้อกุหลาบให้ตัวเองดีกว่า ส่วนคนที่มีแฟนแล้ว แน่นอนว่า คงกำลังอินอยู่กับเพลงรักที่ซึ้งที่สุดในสามโลก ส่วนคนที่กำลังจะเลิกกัน เพลงแนวๆ อยู่ห่างกันสักพัก หรือโปรดจงตัดสินใจ หรือตัดใจให้เด็ดขาด น่าจะเป็นเพลงที่เอามาฟังแล้วได้คิดตามได้เป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะอย่างไร เพลงรักจะเกิดขึ้นได้ ย่อมต้องมาจากคนแต่งเนื้อร้อง หรือทำนอง ผมเลยถือโอกาสในวันแห่งความรักวันนี้ จับเข่าคุยกับนักแต่งเพลง เพื่อถามถึงแง่มุมคนทำเพลงว่าเพลงรักของเขา มันสะท้อนให้เราได้เห็นอะไรบ้าง
“ผมเชื่อในเรื่องพลังของบทเพลงว่ามันมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของคนได้อย่างมากมายมหาศาล เวลาที่เราเหงา เศร้า หรือมีความสุข เวลาที่เราได้ฟังเพลง เพลงมันสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราได้โดยที่เราไม่รู้ตัว”
ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์
หนึ่ง-ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์ นักแต่งเนื้อร้อง และผู้บริหารค่ายเพลง แชนเดอเลียร์ มิวสิค ผู้ซึ่งแต่งเนื้อร้องสำหรับเพลงประกอบละครที่ฮอตและฮิตอยู่มากมาย ทั้งในขณะนี้และที่ผ่านมา ได้บอกเล่าถึงพลังของบทเพลงให้เราฟัง เขายังเผยอีกว่า เพลงสามารถเปลี่ยนอารมณ์ของคนได้โดยทันที โดยไม่ต้องถามเหตุผลว่าเพราะอะไร
“แค่เพลงมันลอยมาตามลม แล้วดันไปสะกิดใจเรา หรือไปสะกิดแผลที่ในใจเรา มันก็ทำให้เราทั้งเศร้าและสุขได้ หรือบางเพลง พอฟังแล้วอาจทำให้เราคิดตาม จนสามารถเยียวยาหัวใจเราได้ ณ ขณะนั้น เหมือนเพลงโปรดของผม คือ ฤดูที่แตกต่าง ที่พอฟังปุ๊บ รู้สึกได้เลยว่ามันจริง พอมันจริง มันเลยเข้าไปนั่งอยู่กลางใจเราได้ง่าย และยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้ เห็นไหมว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันไม่มีเหตุผลมารองรับใดๆ ได้เลย มันเป็นเรื่องของอารมณ์ล้วนๆ”
สำหรับณรงค์วิทย์ เขาเผยว่า ในฐานะคนแต่งเนื้อร้อง อารมณ์เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เป็นวัตถุดิบชั้นดีที่ทำให้เขาสามารถเขียนเนื้อร้องออกมาได้ตรงใจคนฟัง อย่างเพลงของตัวเองที่ชอบมากที่สุด คงจะเป็นเพลง รักตัวเองให้เป็น เพลงนี้เหมาะกับคนโสดที่กำลังว้าเหว่ และแสลงใจกับวันวาเลนไทน์มากถึงมากที่สุด
“ผมอยากบอกว่า วันวาเลนไทน์มันก็เป็นแค่วันวันเดียว เดี๋ยวมันก็ผ่านพ้นไป”
ณัฐ ศักดาทร
จากคนแต่งเนื้อร้อง มาที่คนแต่งทำนองเพลงกันบ้างดีกว่า ผมมีโอกาสได้ทักทาย ณัฐ ศักดาทร ที่ตึกแกรมมี่ในบ่ายวันหนึ่ง ซึ่งเขากำลังง่วนอยู่กับการโปรโมทเพลงใหม่ล่าสุด รักเธอคนเดียว (One Love)
“ผมเชื่อในเรื่องเมโลดี้สามารถเล่าเรื่องราวที่อยู่ภายในใจของเราได้ แม้ไม่มีถ้อยคำอยู่ในนั้น แต่ท่วงทำนองของมันคือภาษาสากลที่งดงามที่สุด และสามารถสื่อสารให้กับคนฟังได้เป็นอย่างดี ผมคิดว่ามันคืองานศิลปะชิ้นหนึ่งครับ เพราะฉะนั้นเวลาที่ผมรู้สึกอะไรอยู่ ณ ขณะนั้น ผมมักฮัมออกมาเป็นทำนอง พอรู้สึกกับการฮัมทำนองนั้นมากๆ เข้า มันจะกลายเป็นเมโลดี้ของเพลงๆ หนึ่ง ซึ่งท้ายที่สุด เมื่อมันเจอเนื้อร้องที่ถูกที่ถูกเวลา มันจะกลายเป็นเพลงที่เพราะและสื่อความหมายได้อย่างสมบูรณ์”
สำหรับเพลงรักของณัฐ ที่สมบูรณ์ทั้งเนื้อร้องและทำนอง ที่เข้าไปนั่งอยู่กลางดวงใจของเขาตลอดมา และจะตลอดไป เขาเผยว่า มันคือเพลง ทางเดินแห่งรัก และหากันจนเจอ
“ตอนนี้ผมยังไม่มีแฟน แต่เมื่อไหร่ที่ได้ฟังสองเพลงนี้ โลกมันสว่างขึ้นมาทันทีครับ และมันก็ทำให้เรามีความหวัง แม้ว่าชีวิตแทบจะหมดหวังกับการเดินทางตามหาใครสักคนที่เรารักเขาและเขารักเราอย่างแท้จริงจนพบเจอ”
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่อง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว เลิฟยู้ คงจำฉากที่พระเอกนางเอกไปงานอีเวนต์งานหนึ่ง ซึ่งวงดนตรีวงหนึ่งกำลังถ่ายทอดบทเพลง Walk you home และพอพระเอกนางเอกได้ฟัง ต่างก็ช่วยกันแปลความหมายของเพลงนั้น และต่างกำลังค่อยๆ เผยความรู้สึกอันแท้จริงของตัวเองผ่านบทเพลงออกมา
วี-วิโอเลต วอเทียร์
เชื่อไหมว่า คนที่แต่งเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษของเพลงนี้ ก็คือนักร้องสาวจากรายการเดอะ วอยซ์ ซีซั่น 2 นั่นคือ วี-วิโอเลต วอเทียร์ ที่ตอนนี้กำลังซุ่มทำเพลงของตัวเอง โดยเธอเป็นคนแต่งเนื้อร้องเอง ด้วยความเชื่อที่ว่า เพลงที่มาจากความรู้สึกของตัวเอง กลั่นออกมาเป็นถ้อยคำที่มาจากตัวเอง มันคือสิ่งที่สวยงามที่สุด
“วีเชื่อว่า เพลงมันช่วยทำให้เราสามารถมองโลกไปอีกด้านได้ อย่างครั้งหนึ่ง วีอยู่ในช่วงอกหัก แล้วพอได้ฟัง เพลง Mean ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ เพลงมันพูดถึงการที่คนคนหนึ่งทำให้จิตใจของเราบอบช้ำ แต่เราสามารถก้าวออกไปจากสภาพนั้นได้ และสร้างความเชื่อให้กับเราได้ว่า เราจะมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม และดีกว่าคนใจดำที่ทำร้ายจิตใจเราคนนั้นอีกด้วย เห็นไหมว่า เพลงมันมีอิทธิพลกับเราได้มากมายมหาศาล และทำให้เราก้าวข้ามผ่านปัญหาไปได้”
ยิ่งในวันแห่งความรักวันนี้ ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง เธออยากเป็นตัวแทนบอกอะไรบางอย่างให้กับผู้หญิงอีกหลายๆ คนที่ชอบยึดมั่นวันแห่งความรักมากจนเกินพอดี เธอบอกว่าวันแห่งความรัก มันคือวันที่เราไม่จำเป็นต้องแสดงออกเฉพาะกับคนรักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เราสามารถแสดงออกกับเพื่อน กับพ่อแม่ กับพี่น้องกับสัตว์เลี้ยง กับคุณครู กับเจ้านายได้ สามารถร้องเพลงดีๆ ให้เขาฟังได้ หรือมอบบทเพลงดีๆ ให้กับเขาเหล่านี้ได้
“ความรักในมุมมองของวี คือจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลที่ไม่มีขอบเขตสิ้นสุดค่ะ”
อะตอม-ชนกันต์ รัตนอุดม
สำหรับคนที่กำลังอกหักผิดหวัง ลองมาฟังเพลง ปล่อย ของ ป๊อบ ปองกูล ดูสักหน่อยดีไหม หากฟังแล้ว ผมเชื่อแน่ว่า คุณจะต้องรู้สึกได้ทันทีมันเป็นเพลงที่เตือนสติเราได้ดีทีเดียวเชียว และมันก็เป็นเพลงที่ถูกแต่งเนื้อร้องและทำนองโดยนักร้องหน้าใหม่ใสกิ๊ง เจ้าของเพลงที่มีชื่อว่า Please (พลีส) เขาชื่อ อะตอม-ชนกันต์ รัตนอุดม ครับ
“เวลาที่ผมแต่งเพลง เนื้อร้องและทำนองมักจะมาพร้อมๆ กัน เริ่มจากการฮัมทำนองเพลงขึ้นมาก่อน แล้วเอามาลองเล่นกับกีตาร์ ส่วนเนื้อร้อง ผมมักได้แรงบันดาลใจมาจากหนังดีๆ ที่มีข้อความดีๆ อยู่ในนั้นครับ ผมชอบเอาข้อความมาคิดต่อยอดจนเป็นเนื้อเพลงออกมา”
ชนกันต์ เผยว่า เพลงรักดีๆ ทำให้คนตกหลุมรักกันมาไม่น้อยเลย “ผมเชื่อว่า เพลงรักก็เหมือนจดหมายรักที่เราใช้สื่อสารกับคนที่เราต้องการได้ แต่ส่วนตัวผมจะเขียนเพลงรักที่ไม่สมหวังซะมากกว่า (ยิ้ม) ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน อาจเพราะความเศร้ามันจับต้องและเข้าถึงได้ง่ายกว่าความสุข ถ้าถามว่าเพลงเศร้าเพลงอกหักให้อะไรกับชีวิตคน ผมว่ามันทำให้คนได้ปลดปล่อยอารมณ์ตรงนั้นออกมา คือย้ำให้เจ็บไปเลย เอาให้หนักไปเลย เพื่อทีหลังจากนั้นคุณจะแข็งแรงขึ้น แล้วก็ใช้ชีวิตได้ดีต่อไป”
ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ
ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ เจ้าของอัลบั้ม Music From Another Room และกำลังจะมีคอนเสิร์ตเดี่ยวในวันที่ 28 มี.ค.นี้ รวมทั้งการแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 ธ.ค.นี้อีกด้วย (สาวๆ ร้องว้ากันเป็นแถว)
ภพธร เผยว่า ในฐานะนักร้อง นักแต่งเพลง (ทั้งเนื้อร้อง ทำนอง และเรียบเรียง) มีมากมายหลายเพลงที่มีอิทธิพลกับชีวิตของเขาเหลือเกิน แต่แปลก ที่เพลงบรรเลงซึ่งอยู่ในกล่องดนตรี ที่คุณแม่ของเขาซื้อให้ตั้งแต่ตอนที่เขายังเป็นเด็ก กลับทำให้เขาจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้จนถึงทุกวันนี้ “ชื่อเพลงว่า Around the world in 80 days เป็นทำนองเพลง ที่เมื่อฟังทีไร จะทำให้ผมนึกถึงวันที่ผมงอแง ไม่สบาย ไม่ไปโรงเรียน แม่พาไปหาหมอ แม่พาไปซื้อของเล่น นึกถึงสิ่งที่แม่ทำให้กับเราทุกอย่าง ทั้งๆ ที่เพลงนี้ไม่มีเนื้อร้อง แต่แค่ทำนองเพลงก็มีอิทธิพลในแง่ของการทำให้เราได้ดึงความทรงจำเก่าๆ มาอยู่ในทุกๆ วันของชีวิตเราได้”
และหากนักแต่งเพลงคนนี้ (ผู้ที่ไม่โสดแล้ว) จะเลือกเพลงดีๆ สักเพลงให้กับคนพิเศษของเขา (ก็ว่าที่เจ้าสาวนั่นแหละ) เขาบอกว่า เพลง Don’t change คือเพลงที่เหมาะสมที่สุด
“เมื่อคนสองคนผ่านคืนวันด้วยกันมา จนมั่นใจว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันแล้วนะ เพลงนี้น่าจะสื่อความหมายที่ดีจากใจของเราได้ ประมาณว่า ต่อให้ร่างกายของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จะแก่ จะอ้วน จะไม่สวยเหมือนเดิม ตราบใดที่ความรักของเธอที่มีให้กัน ยังไม่เปลี่ยนแปลงไป ผมก็จะยังรักเธออย่างที่เธอเป็นจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต ผมคิดว่าเพลงนี้โรแมนติกและมีความจริงใจดีครับ”