‘Be you real self’
The important thing isn’t what other people think youare ; it’s who you really are.
โดย...ดร.วรัญญา สะอาดเอี่ยม ริเท็นนิส
The important thing isn’t what other people think youare ; it’s who you really are.
ความชัดเจนที่แสดงออกมาทางบุคลิกภาพภายนอกที่ไม่ขัดแย้งกับความต้องการที่แท้จริงภายในของตนเอง การไม่ระบุสิ่งใดหรือตัดสินใครๆ อย่างฉาบฉวยเพียงมองแต่ภาพลักษณ์ ได้ยินเรื่องราวเพียงเศษเสี้ยวของเขาหรือเห็นการจั่วหัวเนื้อเรื่องที่เป็นเพียงเปลือกหนึ่งเสี้ยวจากภายนอก เพราะชีวิตจริงของคนทุกคนล้วนมีรายละเอียดอีกมากมาย
เมื่อเราไม่วุ่นอยู่แต่การทำความรู้จักผู้อื่นและอยากรู้แต่เพียงเรื่องราวของผู้อื่น เราจึงใช้เวลาที่มีค่ามหาศาลในการทำความรู้จักและรู้จริงเกี่ยวกับตัวจริงของตัวเราเอง โอกาสแห่งความเป็นจริงในการทำการสำรวจตนเองเพื่อนำความรู้จักตนเองในทุกครั้งนั้นสดใหม่ ที่นำไปสู่การทำความรู้จักตัวเราเองในเวอร์ชั่นใหม่ “Be your real self” ชีวิตของคนหนึ่งคนที่สร้างสรรค์ในการดำรงและค้นหาตัวตนที่ใช่ เข้าใจยอมรับเห็นคุณค่าแห่งธรรมชาติในตนเองที่เชื่อมโยงกับความจริง
แท้ที่จริงเป็นตัวเองที่ได้รับมาจากธรรมชาติเสมือนว่าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิด เป็นธรรมชาติในทางที่งดงามสร้างสรรค์เป็นเอกลักษณ์ทำคุณประโยชน์ที่ไม่ต้องแสแสร้ง ฝืนใจตนเองหรือสร้างภาพแสวงหาการยอมรับเพื่อหลอกตาผู้ใด ในการเป็นตัวเองที่แท้จริงที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นนี้ ผู้ที่มีความคิดปรารถนาที่ให้ความสำคัญกับจุดนี้เพราะเขาได้รู้ถึงซึ่งคุณค่าและศรัทธาในการเป็นตนเอง มีสายตาที่มองตัวเองตามโลกภายในที่เป็นจริงตามธรรมชาติ มีการเชื่อมโยงในคุณลักษณะโดยรวมที่ว่าเราคือใคร ซื่อสัตย์กับความต้องการของตนเองว่าเราต้องการอะไร ยืดหยุ่น ลด ละ ยอม ได้มากน้อยเพียงไหน และเราเกิดมาเป็นอะไรจริงๆ ที่ให้ทั้งคุณค่าตนและคุณค่าต่อคนอื่นในการดำรงชีวิตผู้ที่เป็นตัวเองและรู้จักตัวเองอย่างแท้จริงโดยปกตินอกจากเป็นคนคิดการณ์ไกล และกล้าหาญที่จะล้ำหน้าเกินสมัย
Be your real self คือ ไม่โกหกตัวเอง จึงเรียกได้เต็มปากว่าเมื่อไม่หลอกตัวเองจึงไม่ใช้ความคิด ความศรัทธาที่ได้มาจากการโกหกผู้อื่นเช่นกันเมื่อมองดูตัวอย่างผู้ที่มีชีวิตที่ชาญฉลาดคิดอย่างล้ำไกลและจริงใจ ในการเป็นตัวของตัวเองนั้น มักมีความเบิกบาน มีความสุข มีมิตรภาพที่จริงแท้ ที่เริ่มจากตัวเขาที่กล้าหาญมอบความจริงแท้ให้ใครต่อใครเพื่อชีวิตร่อนตะแกรงนำคนที่จริงใจกฎของแรงดึงดูดนำมาเป็นกลุ่มก้อนที่เข้าใจซึ่งกันและกันก่อน
ผู้เป็นตัวของตัวเองย่อมเรียนรู้ทำความรู้จักทั้งตัวเองและผู้อื่น ใช่เพียงรู้จักแต่เรื่องราวของใครๆ แต่มีสั่นรัวในใจตัดสินการกระทำ คำพูด บุคลิกภาพ เรื่องราวต่างๆ อยู่ข้างในเวลาได้เห็นผู้อื่นกล้าใช้ชีวิตและกล้าเป็นตัวเองของผู้อื่นส่วนลึกในใจมนุษย์โดยทั่วไป ล้วนอยากเข้าใจตนเองได้ชัดเจนและลึกซึ้ง อยากมีความสุขสำเร็จที่สำคัญคนทุกคนเกิดมาเราอยากมีพลังแห่งความกล้าใช้ชีวิตมีอิสระ และเป็นตัวของตัวเองที่แท้จริง
อิสระในเบื้องต้นแห่งความเป็นมนุษย์จะได้ดั่งความต้องการดังที่อยู่ในหัวใจลึกๆ ให้ได้นั้น ต้องข้ามพ้นและเข้าใจความกลัวความมีตัวตนที่กลัวตัวเองจะแตกต่าง ซึ่งทำให้ต้องหลีกเลี่ยงความต้องการลึกๆ เพียงเพราะกลัวผู้อื่นมองตัวผิดปกติ เป็นแกะดำถูกแบ่งแยก จำกัด ถูกกดดันจากสังคมรอบข้างด้วยแนวความคิดจากสังคมกลุ่มใหญ่หรือความหวังดีกลัวไม่ทำตามคนที่รักและปรารถนาดีต่อเราในสิ่งที่เขาอยากให้เราเป็น กลัวเขาจะเสียใจหากเราทำตามส่วนลึกของหัวใจหรือเข้มแข็งกล้าหาญในการเป็นตัวของตัวเอง เช่น ผู้หญิงที่ใจจริงอยากไว้ผมสั้นแต่กลับไว้ผมยาวทั้งชีวิต เพียงคิดว่าผู้ชายส่วนมากชอบผู้หญิงผมยาวจึงเลือกที่เอาใจเขามากกว่าเลือกการเป็นตัวของตัวเอง หรือคนที่อยากสักลายเอกลักษณ์แสดงอารมณ์ทางศิลปะไว้บนร่างกาย แต่ทั้งชีวิตก็ไม่กล้าเพราะเกรงว่าคนอื่นจะมองคนมีรอยสักไปในทางเสียหาย ทั้งๆ ที่ความดีงามของมนุษย์นั้นขึ้นอยู่กับจิตใจไม่ใช่ใครมีรอยสักเมื่อไหร่ จะต้องเป็นอดีตหญิงชายที่เกเรเท่านั้น
สิ่งที่ลดการบงการเบื้องหลังให้ช่วยการตัดสินใจได้นั้น คือความเข้าใจชีวิตตามความเป็นจริงว่าโลกนี้แสนกว้างใหญ่ มนุษย์ทุกคนในโลกไม่ใช่คนที่จะเห็นพร้องต้องกัน คิดหรือชอบเหมือนเราทั้งหมด ความกล้าหาญที่อยู่บนโลกมนุษย์ใบนี้ด้วยการเคารพสิทธิในการเป็นตัวของตัวเอง การยกขึ้นมาเป็นตัวอย่าง เรื่องผมสั้นหรือผมยาว คนสักตามตัว หรือผู้ที่ใส่สูทสะอาดสะอ้าน แท้จริงไม่ได้บ่งบอกความจริงในตัวตนจากส่วนลึกที่มนุษย์ยังมีอีกหลากหลายมากมายที่อยู่ภายในภาพลักษณ์และการเลือกการปกปิดสิ่งที่อยู่ภายในใจของคนแต่ละคนนั้น
“Be you real self” หยุดเขินอายที่จะยอมรับความเป็นหนึ่งเดียวในตัวตนที่แท้จริงที่เราทุกคนล้วนเป็นประติมากรรมที่แตกต่างกันอย่างเป็นปัจเจกตามธรรมชาติ แม้อาจถูกประณาม หรือถูกไม่เข้าใจว่าความแตกต่างคือความติสต์แตก ดูล้ำเส้น เดินล้ำหน้า หรือถูกตัดสินว่าล้นจนเกินไปหรือไม่ เสียงสะท้อนต่างๆ เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลายตามประสบการณ์ความเชื่อ องค์ประกอบทางวัฒนธรรม ครอบครัว ความรู้และความรู้สึกส่วนตัวของผู้มองที่โดยธรรมดาและเป็นธรรมชาติมักมีต่างๆ กันไป มองดูมนุษย์มากมายให้ทั่วโลก มองไปที่ผู้ที่มีความเป็นตัวของตัวเองในทางที่ดีหรือมองครอบครัวของเด็กที่ผู้ใหญ่สนับสนุนให้เป็นตัวเอง
นอกจากเขารู้ว่าตนเองเกิดมาเพื่ออะไรเพราะกล้าแสวงหาทำความรู้จักตัวตนที่จริงแท้ของตนจริงๆ แล้วนั้น พวกเขามักเกิดมาเพื่อสร้างสีสันและสร้างผลงานเป็นของขวัญให้แก่โลก หากเปรียบคนหนึ่งคนที่มีใจเปิดกว้างในทางสร้างสรรค์ มักมีความต่างของทัศนคติ จากมุมมองอีกทางที่คับแคบที่กำหนดกั้น เช่น ชีวิตฉันยอมรับได้เพียงเท่านี้ หากดีต้องดีอยู่ในกรอบนี้ ใครทำสิ่งใดที่ตนไม่เข้าใจหรือออกนอกสถานะแห่งความเชื่อที่ “กล่อง” และ “กรอบ” กำหนดไว้มักสรุปง่ายๆ ว่าสิ่งที่ไม่คุ้นใจนั้นไม่เหมาะสมไม่สมเหตุสมผล ไม่สมควร ไม่บ้าก็เพี้ยน
แม้การรับรู้ที่เจ้าของชีวิตพึงได้อาจมากถึงการได้เปลี่ยนแปลงโลกของตนเอง และนำไปสู่การรู้ซึ้งถึงการช่วยเปลี่ยนแปลงในผู้คนอย่าเพียงมองผู้ที่เป็นตัวของตัวเองว่าเขาเพี้ยน สิ่งนั้นอาจเป็นเพียงมุมมองจากภายนอกที่เป็นความเข้าใจชีวิตใครๆ แบบผิวเผิน ชีวิตทุกคนมีทางเลือกสองทาง ทางแรกใส่หน้ากากใช้ชีวิตให้เสมือนจริง และอีกทางเป็นตัวของตัวเองและมีชีวิตกล้าใช้ชีวิตอย่างแท้จริง