ทานตะวันอ่อนอร่อยสาระดี

โดย...สืบสิน ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์ / เกศสุดา

เมื่อสัปดาห์ก่อนน้องที่ออฟฟิศนำต้นทานตะวันอ่อนมาให้ลิ้มลองรสชาติกันแบบสดๆ บอกได้คำเดียวว่าติดใจ เพราะทั้งกรอบและไม่มีกลิ่นเหม็นเขียวมากวนใจ แล้วพอเสิร์ชหาข้อมูล ยิ่งหลงรักเข้าไปใหญ่เพราะทั้งปลูกง่าย แถมยังดีต่อสุขภาพแบบเต็มๆ อีกด้วย

เหนืออื่นใดกำลังเป็นกระแสที่ฮือฮาไม่เบาทีเดียวสำหรับ “ทานตะวันอ่อน” หรือว่า “ทานตะวันงอก” ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะมีวางขาย ทั้งในซูเปอร์มาร์เก็ต ตลาดสด สู่การขายทางออนไลน์ รวมไปถึงร้านอาหารสุขภาพทั้งหลายก็จับไปใส่เป็นเมนูยอดฮิตไปเสียเฉิบ

พูดถึงทานตะวันนั้น ผู้คนรู้จักกันมานมนาน เริ่มจากดอกสีเหลืองอันใหญ่โตขานรับกับดวงตะวัน จึงเป็นที่มาของชื่อนามที่ใช้เรียกกัน โดยในตอนเช้าจะหันไปทางทิศตะวันออก และในช่วงเย็นจะหันตามแสงแดดไปทางทิศตะวันตก

 

ต้นทานตะวันนั้นมีถิ่นกำเนิดและเป็นพันธ์ไม้พื้นเมืองของสหรัฐ โดยเมื่อปี 2003 สหรัฐได้ทำการศึกษาทดลองผลในการลดไขมันของเมล็ดทานตะวัน พบว่าสามารถลดไขมันได้อย่างดีเยี่ยม

นอกจากดอกช่วยสร้างสีสันให้ชาวโลก ทั้งเมล็ด ทั้งใบ ยังมีประโยชน์ไม่ใช่น้อย แถมยังดีต่อสุขภาพอีกต่างหาก ล่าสุดทานตะวันอ่อนยังค่อยๆ ขยับมาสู่กลุ่มผู้รักสุขภาพ

ว่ากันว่าทานตะวันอ่อนนั้น มีรสหวานกรอบ ไม่เหม็นเขียว แถมยังปลูกง่าย สามารถนำมาใช้ทำเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นยำต้นอ่อนทานตะวัน สลัดต้นอ่อนทานตะวัน ผัดน้ำมันหอย แกงจืด แกงส้ม ใช้ใส่ในก๋วยเตี๋ยวแทนถั่วงอก หรือทำเป็นผักจิ้มน้ำพริกก็ยังได้

จากการศึกษาวิจัยพบว่า ต้นอ่อนของเมล็ดทานตะวันมีโปรตีนมากกว่าถั่วเหลือง มีวิตามินเอและวิตามินอีสูง จึงช่วยบำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ ช่วยในการชะลอวัย มีวิตามินบี 1 วิตามินบี 6 โอเมกา 3 โอเมกา 6 โอเมกา 9 ที่ช่วยบำรุงเซลล์สมองและช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และยังมีธาตุเหล็กสูง และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้อีกด้วยด้วยเหตุนี้ไงเล่าที่ทำให้หลายคนอยากรู้จักวิธีการปลูกทานตะวันอ่อนเอาไว้เพื่อกินในบ้าน แจกจ่ายกับเพื่อนฝูง และเริ่มก่อเป็นธุรกิจการเพาะปลูกทานตะวันอ่อนที่นับวันยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ  หนึ่ง-เกียรติภูมิ คือผู้หนึ่งที่หลงรักการเพาะทานตะวันอ่อนด้วยความบังเอิญ

“มันเริ่มจากครั้งหนึ่งไปเที่ยวที่เชียงใหม่ แล้วไปกินข้าวที่ร้านแห่งหนึ่ง ก็สั่งผัดแขนงหมูกรอบไป เด็กเสิร์ฟบอกว่าแขนงหมด เปลี่ยนเป็นทานตะวันอ่อนผัดได้มั้ย เราก็งงว่ามันกินได้ด้วยเหรอ แต่พอได้กินแล้วรู้สึกติดใจ เพราะมันไม่เหม็นเขียว พอกลับมาก็ศึกษาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ก็เจอขั้นตอนการเพาะปลูกที่ดูแล้วมันยุ่งยากซับซ้อน ก็เลิกคิดไป พอดีมีวันหนึ่งไปเที่ยวบ้านแฟนที่ลพบุรี ก็ไปเห็นต้นทานตะวันที่เขาปลูกอยู่หลังบ้านกับหลังเก็บเกี่ยว ก็จะมีบางดอกที่เป็นเมล็ดแล้วร่วงอยู่ตามพื้น ก็เลยลองเอามาปลูกดู ปรากฏว่าปลูกไม่ยากแฮะ ก็เลยกลับมาศึกษาข้อมูลอีกรอบ และเริ่มปลูกในรูปแบบของตัวเองครับ”

หนึ่งยังเล่าถึงขั้นตอนการปลูกให้ฟังอย่างสนุกสนานว่า เริ่มต้นจากนำเมล็ดทานตะวันแก่มาตากแดด 1 วัน จากนั้นก็นำมาห่อด้วยผ้าเปียกอีก 24 ชั่วโมง พออีกวันจะเห็นทานตะวันอ่อนออกเป็นตุ่มสีขาวเล็กๆ ก็ให้เตรียมดิน ขุยมะพร้าว แกลบดำ นำมาผสมจนเข้ากัน เขายังบอกอีกว่าเลือกดินที่ไม่ผสมปุ๋ยคอกนะครับ เพราะถ้าใช้ดินแบบนั้นจะนำมาซึ่งเชื้อรา

จากนั้นก็เทดินที่ผสมแล้วใส่กระบะ แล้วเอาเมล็ดที่บ่มไว้เทลงไป เกลี่ยให้ทั่วกระบะ แล้วเอากระบะมาซ้อนทับอีกที แล้วรดน้ำเช้า-เย็น หนุ่มอารมณ์ดียังบอกเหตุผลที่ต้องเอากระบะมาซ้อนอีกใบก็เพื่อให้รากยึดติดดินได้แน่นขึ้น และเป็นการชะลอการโตโดยทุกต้นต้องเท่ากัน ส่วนแสงที่เหมาะสมกับทานตะวันอ่อนนั้นคือแสงแดดรำไร อาจเพิ่มปุ๋ยด้วยการโรยด้วยแกลบดำเข้าช่วยก็ได้ หลังจากนั้นเพียง 7 วันทานตะวันอ่อนจะชูช่อเรียงกันสวยงามพร้อมจะเก็บมารับประทานกันได้แล้วละครับ

 

หนึ่งยังเล่าให้เราฟังอย่างเห็นภาพอีกด้วยว่า รู้สึกสนุกและมีความสุขมากขึ้น “ผมเคยทำงานประจำมาเกือบ 10 ปี เช้า-เย็นไปกลับ ไปกลับ ดูน่าเบื่อ แต่พอลองมาปลูกทานตะวันอ่อนแล้ว ทำให้เราได้กำดิน ขยำดินเล่น เหมือนสมัยเด็ก มันทำให้เรามีสมาธิ เหมือนเราวาดรูป ใจเราจะอยู่ที่พู่กัน แต่นี่เราอยู่กับทานตะวันอ่อน ผมแค่ปลูกที่ระเบียงบ้าน ความสนุกค่อยเพิ่มขึ้นทุกวัน จนตอนนี้ผมเริ่มที่จะส่งขายแล้วครับ ส่งขายให้เพื่อน ให้ร้านที่รู้จัก ยิ่งทำยิ่งมีความสุขและก็สนุกมากครับ”

ถึงวันนี้เขาเริ่มต้นจากแบรนด์เล็กๆ ที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ในนามว่า เกศสุดา ด้วยสโลแกนที่แฝงไว้ด้วยความสนุกสนานว่า อร่อยสาระดี ทานตะวันอ่อน สนใจข้อมูลหรือสั่งทานตะวันอ่อนมาลิ้มลองกันได้ที่โทร.  08-9629-6492

ลองลิ้มรสของทานตะวันอ่อนสักครั้ง แล้วคุณจะรับรู้ว่า อร่อยสาระดี นั้นมีอยู่จริง อิอิ