ไปใช้ชีวิตคลีนๆ ที่ฤาษีเกษ
ออน-บุษราวรรณ เกิดสุวรรณ เจ้าหน้าที่การตลาดอาวุโส บริษัท บัตรกรุงไทย เป็นสาวรักสุขภาพ
โดย...อณุสรา ทองอุไร
ออน-บุษราวรรณ เกิดสุวรรณ เจ้าหน้าที่การตลาดอาวุโส บริษัท บัตรกรุงไทย เป็นสาวรักสุขภาพตัวยงเนื่องจากเธอหลงใหลการเล่นโยคะเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งเธอเล่นโยคะมาเกือบ 10 ปีแล้วเพราะรักจริงไรจริง เมื่อปีที่ผ่านมาเธอจึงได้เดินทางไปยังเมืองฤาษีเกษ เพื่อไปเรียนรู้ยังแหล่งเมืองต้นกำเนิดของเมืองโยคะชื่อดังที่ประเทศอินเดีย ซึ่งได้ไปเรียนกับสวามีนันดามหาราชจิ อายุ 106 ปี ซึ่งถือว่าเป็นกูรูด้านโยคะชื่อดังของเมืองนี้ ซึ่งสวามีท่านนี้ฝึกโยคะมาตั้งแต่อายุ 16 ปี และเดินทางไปสอนโยคะทั่วโลกมานานแล้ว
เธอไปเรียนโยคะกับสวามีท่านนี้มา 1 สัปดาห์เต็ม รวมทั้งเดินทางท่องเที่ยวทางเหนือของประเทศอินเดีย รวมเวลาประมาณ 10 วัน โดยมีครูโยคะชาวอินเดียที่สอนอยู่ที่ประเทศไทยเป็นคนชวนไป ซึ่งครูอามาล เป็นชาวฤาษีเกษและเป็นลูกศิษย์ของสวามีนันดามาตั้งแต่เด็กๆ
“นี่เป็นการเดินทางไปเมืองฤาษีเกษเป็นครั้งที่ 2 เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว เคยไปมาแล้วครั้งหนึ่งตอนนั้นมีงานโยคะเฟสติวัล ตอนนั้นไปแค่ 10 วัน เขาจัดงานใหญ่โตที่เมืองนี้ประมาณเดือน ม.ค.เกือบทุกปี มีแต่ชาวยุโรปกับอเมริกาไปกันเยอะ แล้วก็ญี่ปุ่น เกาหลี คนไทยน้อยมาก ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ไปเกือบ 2 วีก ก็สนุกประทับใจไม่เบื่อเลย ไม่แน่อีก 2-3 ปีข้างหน้าอาจจะไปอีกก็ได้” เธอกล่าวอย่างมีความสุข
ทริปการเดินทางของเธอครั้งนี้ นอกจากไปเรียนโยคะแล้วยังได้ไปเทรกกิ้ง (ปีนเขา) เบาๆ 2-3 วัน ที่สกีรีสอร์ทชื่อออรี่ ทางเหนือของอินเดีย ใกล้เทือกเขาหิมาลัย และนอกจากไปสกีแล้ว ตอนกลางวันแดดออกเราก็ได้รวมตัวกันฝึกโยคะท่ามกลางธรรมชาติ เพราะตอนเช้ากับเย็นจะหนาวมากเล่นไม่ไหว ต้องฝึกโยคะกันตอนเที่ยงๆ ท่ามกลางบรรยากาศ 5 ดาว ท่ามกลางหิมะ ขุนเขา และสายหมอกของเทือกเขาหิมาลัย แม่น้ำเป็นสีฟ้าใส ฟ้าก็ฉ่ำเป็นสีน้ำเงินสวย เป็นจุดเริ่มต้นของเทือกเขาหิมาลัย ทุกอย่างสวย สะอาดบริสุทธิ์ เป็นธรรมชาติแท้ๆ เราจะฝึกโยคะกันทุกวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง เพื่อเป็นการเรียกพลังจากธรรมชาติ
เธอบอกว่า เมืองฤาษีเกษนี้เป็นเมืองที่เธอประทับใจมาก อากาศเย็นเกือบทั้งปี เพราะอยู่ทางเหนือของอินเดียอากาศดี อาหารอร่อยแม้จะเป็นอาหารมังสวิรัติ แต่ก็รสชาติดี เพราะปรุงจากผักผลไม้สด ถือเป็นอาหารคลีน คือ ผ่านขั้นตอนการทำน้อย สะอาด ส่วนใหญ่จะเป็นผักออร์แกนิกด้วย
“ไปอยู่อินเดียมา 10 กว่าวัน ไม่เบื่อเลย ชอบทุกเมืองที่ไป โดยเฉพาะที่เมืองฤาษีเกษ ประทับใจเป็นพิเศษ ถ้ามีโอกาสก็จะไปอีก จริงๆ อินเดียเป็นเมืองที่สวยและมีสีสันมาก แต่คนมักจะกลัวไม่ค่อยกล้าไปอินเดียกัน ถ้าเลือกไปหน้าหนาวอากาศก็จะดีเย็นสบาย มีหิมะลงให้เห็นด้วยตามเมืองยอดเขา ผ้า เครื่องประดับ ก็ราคาไม่แพงด้วย ถ้าเปิดใจสักนิด อินเดียถือว่าเป็นประเทศน่าเที่ยวมาก ทางเหนือก็แบบหนึ่ง ทางใต้ก็อีกแบบหนึ่ง แล้วได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ ไปที่นั่นเราก็ลองเข้าถึงวิถีชีวิตเขานะ ลองกินหมากบ้านเขาเคี้ยวๆ แล้วกลืนไม่คายออกมาเหมือนบ้านเรา ปูนเขาจะมีสีขาว ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เธอเล่าว่า เวลาไปเมืองฤาษีเกษ เหมือนไปทริปสุขภาพ คือได้ฝึกโยคะ ทำสมาธิ ได้ลองใช้ชีวิตแบบแนวอายุรเวชแบบชาวอินเดียดั้งเดิมจริงๆ ได้กินอาหารสุขภาพ ไม่มีเนื้อสัตว์ เน้นผักสด ผลไม้ กินอาหารแบบคลีนจริงๆ ตื่นเช้านอนเร็ว เมืองนี้ไม่มีชีวิตแบบกลางคืน 3-4 ทุ่ม เมืองก็เงียบแล้ว ไปไหนก็เดินๆๆๆ ได้ดูแลสุขภาพแบบแท้จริง เหมือนกับได้ไปฟื้นฟูสุขภาพอีกทางหนึ่ง
ไปครั้งที่แล้วเน้นเรื่องโยคะอย่างเดียว ส่วนครั้งที่สองนี้ได้ไปปีนเขาแบบเชิงๆ เขาด้านเทือกเขาหิมาลัยด้วย 2-3 วัน เป็นเบสแคมป์ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยฝึกเรื่องปีนเขามาก่อนก็ไม่ง่ายนะ เพราะถือว่าพวกเราเป็นพวกสมัครเล่น แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ทริปนี้เดินเยอะจริงๆ แต่อากาศหนาวมาก โชคดีเดินง่ายไม่ร้อน
นอกจากนี้ ในทริปนี้เรายังได้ไปร่วมงานแต่งงานน้องสาวของครูอามาล ที่เมืองฤาษีเกษนี้ด้วย เป็นพิธีแบบอินเดียแท้ๆ จัดงานกัน 3 วัน 3 คืน ได้เห็นพิธีการต่างๆ เยอะแยะมากมาย ได้ลองหัดนุ่งส่าหรี ได้ลองเฮนน่า (เพนต์มือสีดำเป็นลวดลายดอกไม้สวยหวาน)
ก่อนกลับ 2 วัน เราก็เข้าเมืองไปที่เมืองเดลี เพื่อไปเที่ยวทัชมาฮาล ไปป้อมอักราฟอร์ต ไปเดินตลาดจันปาท ที่คล้ายๆ จตุจักรบ้านเรา มีของพื้นเมือง ราคาไม่แพง เดินเล่นเพลินๆ ได้
การเดินทางไปอินเดียที่เมืองฤาษีเกษครั้งนี้ เริ่มด้วยการบินจากกรุงเทพฯ ด้วยสายการบินเจ็ทแอร์ ไปลงที่เดลี เมื่อถึงเดลีก็นั่งเครื่องบินภายในประเทศต่อไปที่เดรารูนประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วนั่งรถต่อจากเดรารูนไปอีก 1 ชั่วโมง ไปที่เมืองฤาษีเกษ
ตอนไปครั้งแรกนั้น บินเจ็ทแอร์ไปที่เดลี จากเดลีนั่งรถบัสต่อไปอีก 8-9 ชั่วโมง เพื่อไปฤาษีเกษมันเสียเวลา คราวนี้เลยขอต่อเครื่องบินในประเทศไป ก็ประหยัดเวลาไปเกือบวันนะ