สวนผึ้งไม่มีแกะ แต่มี Green
สวนผึ้งกำลังวิ่งหนีตัวเอง จากที่เป็นอำเภอรวมสถานที่ท่องเที่ยวมนุษย์สร้าง ตอนนี้มันกำลังหนีจุดเดิมมายังมุมใหม่
โดย...กาญจน์ อายุ
สวนผึ้งกำลังวิ่งหนีตัวเอง จากที่เป็นอำเภอรวมสถานที่ท่องเที่ยวมนุษย์สร้าง ตอนนี้มันกำลังหนีจุดเดิมมายังมุมใหม่เรียกว่า ตัวตน หรือสิ่งที่มีอยู่แล้วอย่าง ธรรมชาติ ที่ทุกคนมองข้ามไป
ขณะที่จังหวัดอื่นกำลังอยู่ในช่วงขาลงหรือกรีนซีซั่น แต่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี กลับเพิ่งเปิดฤดูท่องเที่ยวในเดือน มิ.ย. ชูจุดขายกิจกรรมหน้าฝน หรือ Adventure in Green Season ซึ่งนักท่องเที่ยวจะเห็นสวนผึ้งสวยงามที่สุดในฤดูนี้
เรื่องนี้ไม่มีแกะ
สวนผึ้งเป็นจุดกำเนิดของแกะ ใครมาสวนผึ้งก็จะมาให้อาหารแกะ ถ่ายรูปกับแกะ เกาะแกะน้องแกะที่เชื่องชินกับคน แต่เคยสังเกตไหมว่าธรรมชาติรอบฟาร์มสวยงามแค่ไหน
สวนผึ้งเป็นอำเภอที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาตะนาวศรีทำให้ไม่ว่ามองไปทางใดก็จะเห็นแนวสีเขียวเข้มกั้นพรมแดนระหว่างไทย-เมียนมา และทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวบนยอดเขาที่น่าไปพิชิต หน้าฝนเช่นนี้ช่างท้าทายสาวกโฟร์วีลที่อาจต้องใช้วินซ์กันบ้างในเส้นทางขึ้นเขากระโจม ยอดเขาที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยที่สุดในสวนผึ้ง และชมทะเลหมอกสุดอลังการ การขึ้นเขากระโจมต้องใช้รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบยกสูงเท่านั้น เพราะหนทางยังเป็นดินลูกรัง ลาดชัน เละ และลื่น ถือเป็นยอดเขาท้าความสามารถของนักขับที่ไม่แนะนำสำหรับคนไม่มีประสบการณ์ตะลุยโคลนขึ้นดอย
ลดความยากลงมาต้องไปพิชิตที่ ห้วยคอกหมู รุ่นน้องเขากระโจมที่ใช้แค่รถกระบะก็ขึ้นได้แล้ว เส้นทางเป็นทางดินแต่ถูกเกลี่ยหน้าเรียบ มีผ่านแม่น้ำเส้นเล็กๆ และมีช่วงชันไม่กี่จุด ซึ่งห้วยคอกหมูดูได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก ถ้าตอนเช้าพระอาทิตย์จะขึ้นทางประเทศไทย มองเห็นสวนผึ้งทั้งเมืองที่บางส่วนมีหมอกปกคลุม แต่ถ้าเป็นตอนเย็นจะชมพระอาทิตย์ตกทางฝั่งเมียนมา เป็นพื้นที่ป่าสุดลูกหูลูกตาซึ่งบรรยากาศตรงข้ามกับประเทศไทย
นักท่องเที่ยวสามารถนอนกางเต็นท์บนลานสนามหญ้าที่มีสมญานามว่า ลานเช็กอิน (เพราะเป็นจุดเดียวบนเขาที่มีสัญญาณโทรศัพท์) ด้านบนมีห้องน้ำและร้านค้าบริการ โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวจะมีนักท่องเที่ยวมาจับจองเต็มพื้นที่
อานุภาพของเม็ดฝนทำให้เกิดทะเลหมอกยามเช้าโดยที่ไม่ต้องรอหน้าหนาว เพราะสวนผึ้งมีพื้นที่ป่าเขาและแม่น้ำไหลผ่านทำให้ไอน้ำลอยตัว และจับกลุ่มกันเป็นม่านหมอกปกคลุม อาจจะสู้หน้าหนาวไม่ได้น่าจะเป็นความหนาวเย็นที่ช่วงนั้นอุณหภูมิจะต่ำเหลือแค่เลขตัวเดียว หนาวสั่นไม่แพ้ยอดดอยทางภาคเหนือ
เรื่องนี้มีแก่ง
แม่น้ำเข็กขึ้นชื่อเรื่องล่องแก่งกลางกระแสน้ำเชี่ยวกราก แต่แม่น้ำภาชีใน อ.สวนผึ้ง ขึ้นชื่อเรื่องเกาะแก่งและความแคบของลำน้ำ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมที่นี่จึงไม่ใช้เรือยาง แต่ใช้คายักในการล่องแก่ง
หลายคนคงได้ยินว่าแม่น้ำภาชีไหลจากใต้ขึ้นเหนือ แต่คงไม่ทราบว่ามันเป็นจุดกำเนิดกิจกรรมล่องแก่งในสวนผึ้ง กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่รู้และคิดไม่ถึงว่าสวนผึ้งจะมีทั้งๆ ที่บริษัทล่องแก่งเปลี่ยนคายักมาแล้วไม่รู้กี่รุ่น
ฤดูล่องแก่งจะเปิดเฉพาะหน้าฝนเท่านั้น ตอนนี้จึงเหมาะนักที่จะผจญภัย โดยคายัก 1 ลำนั่งได้ 2 คน แต่ละครั้งจะไปเป็นกลุ่ม จำนวนลำแล้วแต่คณะ โดยจะมีเจ้าหน้าที่พายนำหน้าและปิดท้ายเพื่อช่วยเหลือดูแล เส้นทางล่องแก่งมีระยะทางยาว 5 กม. ผ่าน 9 แก่ง ซึ่งตามปกติจะใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง ถ้าวันใดน้ำแรงจะยิ่งท้าทายเพราะคนพายต้องเผชิญทั้งกระแสน้ำและเกาะแก่งถี่ยิบเสมือนเส้นขึ้นปายที่มีโค้งให้เลี้ยวทุก 10 วินาที
ระดับความยากจะขึ้นอยู่กับกระแสน้ำในแต่ละวัน คะเนได้จากปริมาณน้ำฝนที่หากเทลงมามาก นับไปอีก 24 ชม. น้ำจะไหล่บ่าลงเขาสู่แม่น้ำภาชี เหล่าฝีพายเก่งกล้าก็รอเวลาไปมันส์ได้เลย
เรื่องนี้มีแกร่ง
สนามเขียวปิดปรับปรุงแต่เส้นทางสีเขียวในสวนผึ้งต้อนรับเสมอ กลุ่มสวนผึ้งไบค์ในนามชมรมไอเลิฟสวนผึ้งแนะนำเส้นทางปั่น 5 เส้นระยะทางตั้งแต่ 17-50 กม. ได้แก่ เส้นทางชมหมู่บ้านกะเหรี่ยง ชมฝายน้ำล้น และไต่เนินเล็กๆ ขนานไปกับลำน้ำและภูเขา ระยะทาง 17 กม. เส้นทางอุโมงค์ต้นไม้ ผ่านพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ กราบพระนอน แวะบ้านหอมเทียน โดยตลอดเส้นทางจะร่มรื่นด้วยต้นไม้และผ่านเนินชันอยู่หลายจุด ระยะทาง 30 กม.
เส้นทางไล่ตะวันที่นิยมปั่นในเวลาเย็น ลักษณะเส้นทางไม่มีเนินแต่จะเจอกับกระแสลมแรงเมื่อผ่านทุ่งนาสองข้างทาง เส้นอ้อมกอดแห่งขุนเขา ผ่านรีสอร์ท ร้านอาหารชื่อดัง อ่างเก็บน้ำ และข้ามเนินวัดใจหรือเนินอู่หลงที่เรียกกล้ามขาได้มากทีเดียว มีระยะทาง 33 กม. และเส้นเจ้าภูเขา ผ่านต้นผึ้งโบราณที่ว่ากันว่าเป็นจุดเริ่มต้นของชื่อ อ.สวนผึ้ง กราบพระที่สำนักสงฆ์ห้วยคลุม และไปพิชิตเนินเจ้าภูเขาหรือที่นักปั่นเรียกว่า เนินไส้แตก ก่อนจะปั่นฉิวลงเขาไปร้านอาหารและบ้านหอมเทียน ระยะทางทั้งสิ้น 50 กม. ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไกลและยากที่สุดแต่กลับได้รับความนิยมสูงสุด
สวนผึ้งเป็นเมืองปั่นต้องห้าม...พลาด อย่างที่ชมรมไอเลิฟสวนผึ้งขนานนามไว้โดยไม่มีข้อปฏิเสธ ล่าสุดเพิ่งมีการแข่งขันจักรยานครั้งยิ่งใหญ่ชื่อว่าแอลอาร์ที เซนจูรี่ แชมเปียนชิพส์ สวนผึ้ง บนเส้นทางปั่นระยะไกล 100 กม. มีนักปั่นเข้าร่วมกว่า 1,200 คน ซึ่งถือว่าเป็นการโปรโมทสวนผึ้งครั้งใหญ่โดยที่นักปั่นได้สัมผัสเองว่าที่นี่มีดีอย่างไร
เรื่องนี้มีเสียว
ชมรมไอเลิฟสวนผึ้งมีสมาชิกเป็นผู้ประกอบการใน อ.สวนผึ้ง กำลังร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยผลักดันให้สวนผึ้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวผจญภัยแบบรักษ์ธรรมชาติ ถ้าว่ากันตามตรง จ.นครนายก ขายประเด็นนี้มานานโขแล้ว และนักท่องเที่ยวก็มักคิดถึงนครนายกเสมอเมื่อพูดถึงกิจกรรมแอดเวนเจอร์
สวนผึ้งจึงกำลังบอกว่า ที่นี่เป็นทางเลือกใหม่ของกิจกรรมแนวนี้โดยเฉพาะที่บ้านผางาม ประกอบด้วยหน้าผาจำลองความสูง 10 ม. มีระดับความยาก 4 ระดับจึงเล่นได้ทั้งมือใหม่และนักปีน ในบริเวณเดียวกันยังมีฐานผจญภัยในที่สูงที่เรียกว่า บิ๊กโฟร์ (Big 4) เหมาะอย่างยิ่งในการจัดทีมบิวดิ้งเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะและนักท่องเที่ยวที่มากันเป็นครอบครัว เพราะไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถเล่นบิ๊กโฟว์ได้เพียงแค่ใจกล้าพอ
นอกจากนี้ บ้านผางามมีรถยูทีวี หรือรถเอทีวีรุ่นบิ๊กไบค์ เป็นรถสะเทินน้ำสะเทินบก เปิดประทุนให้คนนั่งสัมผัสธรรมชาติ และลุยได้ทุกเส้นทางซึ่งเส้นที่บ้านผางามกำหนดไว้คือ ไปตามหาต้นผึ้งโบราณอันเป็นที่มาของชื่ออำเภอ ยูทีวีถือเป็นของเล่นใหม่ของขาลุยที่สามารถไปทุกที่แม้ไม่มีทาง
อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวฝน เพราะฤดูกาลนี้จะมอบความสนุกแบบชุ่มฉ่ำและทำให้ดื่มด่ำความชอุ่มของธรรมชาติ ลองมองหน้าฝนในมุมใหม่และค้นหาสวนผึ้งอย่างที่มันเป็น แล้วจะเห็นหัวใจของการท่องเที่ยวที่ไม่เห็นแก่ตัวเองแต่เห็นใจและเคารพธรรมชาติ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานราชบุรี เปิดขายบัตร “นักท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย @ ราชบุรี” ในราคา 100 บ. สามารถนำไปเป็นส่วนลดมากถึง 50% ในสถานที่ท่องเที่ยว 12 แห่งในราชบุรี ตั้งแต่วันนี้ถึงปี 2559 ติดต่อซื้อบัตรได้ที่ ททท. เพชรบุรี โทร. 032-471-005-6 ซื้อวันเดย์ทริปขึ้นเขากระโจมและห้วยคอกหมู ได้ที่ผึ้งป่าพาเที่ยว โทร. 08-6885-5087 ซื้อทริปพายคายักล่องแก่ง ได้ที่ทัศนาคายัค โทร. 08-9033-8868 ซื้อแพ็กเกจกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่บ้าน ผางาม โทร. 08-2965-4998 สอบถามเส้นทางจักรยานได้ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ ไอเลิฟสวนผึ้ง โทร. 09-2371-7799
