posttoday

พาหัวใจ ไปตกหลุมรัก 3 เมืองเล็กๆ ในอังกฤษ

12 กรกฎาคม 2558

การเดินทางทำให้เกิดการเรียนรู้ และบางครั้งการต้องการที่จะเรียนรู้ก็ชักนำให้เกิดการเดินทาง

โดย...สมแขก ภาพ มัทนา เจริญวงศ์

การเดินทางทำให้เกิดการเรียนรู้ และบางครั้งการต้องการที่จะเรียนรู้ก็ชักนำให้เกิดการเดินทาง เช่นเดียวกับเส้นทางของ มัทนา เจริญวงศ์ อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ครั้งหนึ่งเธอเดินทางเพื่อไปศึกษาภาษาเพิ่มเติมที่เมืองแคนเทอร์เบอรี (Canterbury) ประเทศอังกฤษ และที่เมืองมรดกโลกและศูนย์กลางการจาริกแสวงบุญแห่งนี้เองที่พาเธอไปตกหลุมรักเมืองเล็กๆ อีก 3 เมือง ซึ่งซุกตัวในอ้อมกอดของทะเล ภูเขา และความเก่าที่แสนโรแมนติก

สูดกลิ่นโรแมนติกที่ไรย์

จุดหมายแรกของการเดินทางคือ ไรย์ (Rye) ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ เงียบสงบ แต่แฝงกลิ่นอายโรแมนติก ให้อารมณ์ย้อนยุคนิดๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเที่ยวชิลๆ ไรย์อยู่ในซัสเซกส์ เคาน์ตี้ (East Sussex County) ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ตัวเมืองมีแม่น้ำไหลผ่าน 3 สาย คือ Rother, Tillingham และ Brede

พาหัวใจ ไปตกหลุมรัก 3 เมืองเล็กๆ ในอังกฤษ

 

“ด้วยความที่ทะเลโอบล้อมเมืองเกือบจะโดยรอบ ทำให้เป็นเมืองท่าที่สำคัญทั้งทางการค้าและทางทหารมาตั้งแต่ยุคกลาง โดยในยามศึกสงคราม ชาวเมืองมีหน้าที่จัดส่งเรือสำหรับใช้ในการรบให้แก่กษัตริย์ นอกจากนี้ ในศตวรรษที่ 18-19 ไรย์ยังเป็นที่ซ่องสุมของแก๊งอาชญากรที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่าง “Hawkhurst Gang” ที่ใช้ The Mermaid Inn และ The Olde Bell Inn เป็นที่พักอาศัยและเก็บสมบัติที่ปล้นมา โดยตึกสองแห่งนี้มีทางลับเชื่อมต่อกัน ว่ากันว่าแม้แก๊ง Hawkhurst จะเคยพักอยู่ที่นี่ แต่ The Mermaid Inn สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยโรมัน คือ ในปี 1156 แล้ว ทุกวันนี้ตึกสองหลังนี้ก็ยังคงอยู่”

“ส่วนสถานที่อื่นๆ ที่ไม่ควรพลาดก็มีโบสถ์ St.Mary และ Ypres Tower ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงเมืองเก่า, Lamp House ซึ่งเคยเป็นบ้านนักเขียนนวนิยายชื่อดังหลายต่อหลายคน เช่น  Henry James (1843–1916), Rumer Godden (1907–1998) และ E.F. Benson (1867–1940) ปัจจุบัน Lamp House เป็นทรัพย์สินของ National Trust บนถนน Mermaid และ Watchbell ยังมีบ้านเก่าแก่สวยงามสไตล์ทิวดอร์อีกหลายหลัง รวมถึงย่านจัตุรัสโบสถ์เก่าก็ไม่ควรพลาดด้วย”

พาหัวใจ ไปตกหลุมรัก 3 เมืองเล็กๆ ในอังกฤษ

 

ด้วยกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์ ความสวยงามของอาคารสถาปัตยกรรม ทำให้ไรย์กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย จนกลายเป็นที่มาของรายได้หลักของชาวเมืองที่มีไม่ถึงหมื่นคน นอกจากโรงแรม เกสต์เฮาส์ บีแอนด์บี ร้านชา และร้านอาหารจะเรียงรายตามสองฝั่งถนนสายหลักในเมืองแล้ว ใครที่ชอบแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ไรย์ก็มีแหล่งดูนกริมทะเลให้เดินเที่ยว ถ่ายรูปเช่นเดียวกัน

การเดินทางไปไรย์ในวันนี้แสนสะดวกสบาย เพราะมีรถไฟสาย “Marshlink” ที่วิ่งระหว่างเมืองเฮสติ้ง (Hastings) กับเมืองแอชฟอร์ด (Ashford) หรือจะนั่งรถไฟที่วิ่งจากไบรท์ตัน (Brighton) มาลงที่สถานีแอชฟอร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล ก็ได้ ขบวนนี้จะออกทุกชั่วโมง แต่ถ้าใครมาจากลอนดอน มีรถไฟด่วน High-speed Class 395 จากสถานี St Pancras ลอนดอนวิ่งมาถึงแอชฟอร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล เช่นกัน สถานีนี้คนค่อนข้างเยอะ เพราะเชื่อมต่อกับบริการยูโรสตาร์จึงมีรถไฟไปปารีส ประเทศฝรั่งเศส อีกด้วย

พาหัวใจ ไปตกหลุมรัก 3 เมืองเล็กๆ ในอังกฤษ

 

ประจันหน้ากับฝรั่งเศสที่โดเวอร์

โดเวอร์ (Dover) เป็นเมืองและท่าเรือหลักของเคนต์ เคาน์ตี้ (Kent County) เมืองนี้ตั้งประจันหน้ากับแผ่นดินฝรั่งเศสมีช่องแคบโดเวอร์คั่น ช่องแคบโดเวอร์เป็นส่วนที่แคบที่สุดของ English Channel และตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองแคนเทอร์เบอรีที่พักหลักของเรา

“ที่เที่ยวสำคัญของเมืองนี้มีปราสาทโดเวอร์ (Dover Castle) เป็นปราสาทยุคกลาง สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่บนที่สูงริมทะเลใกล้อ่าวโดเวอร์ ปราสาทแห่งนี้จึงเป็นด่านแรกที่สำคัญในการป้องกันอังกฤษจากการรุกรานของศัตรูมาตั้งแต่อดีต และเป็นปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในอิงแลนด์ (England) ปัจจุบันมีการจำลองสภาพความเป็นอยู่ในอดีตให้นักท่องเที่ยวได้ชมอย่างใกล้ชิด

พาหัวใจ ไปตกหลุมรัก 3 เมืองเล็กๆ ในอังกฤษ

 

“และจุดหมายต่อมา คือ ไวท์คลิฟฟ์ (White Cliff) เป็นหน้าผาหินชอล์กสีขาวอันโด่งดัง ไวท์คลิฟ์มีความสูงประมาณ 110 เมตร ตลอดความกว้างของหน้าผามีทางเดินเท้าลัดเลาะให้เดินลงไปถึงชายหาดทะเลด้านล่างได้ นักท่องเที่ยวควรสวมรองเท้าผ้าใบเพราะเดินค่อนข้างไกล และหลายจุดไม่มีรั้วกั้น”

ไวท์คลิฟ์มีชื่อเสียงทั้งในความน่าทึ่งของรูปพรรณสัณฐานที่เป็นหน้าผาสีขาวทอดยาวล้อมเมืองโดเวอร์ และยังเป็นสิ่งแรกที่นักเดินทางจากทวีปยุโรปแลเห็นจากเรือ ขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่นักเดินทางจากอังกฤษได้เห็น เมื่อมองกลับมาที่แผ่นดินอังกฤษ นอกจากนี้ นักโบราณคดียังค้นพบหลักฐานยืนยันว่าโดเวอร์เป็นจุดที่ใช้เข้าออกจากอังกฤษมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเมืองโดเวอร์นี้มีอายุเก่าแก่มากย้อนไปถึงยุคหินเลยทีเดียว

พาหัวใจ ไปตกหลุมรัก 3 เมืองเล็กๆ ในอังกฤษ

 

การเดินทางจากแคนเทอร์เบอรีไปโดเวอร์ไปโดยนั่งรถบัส ขึ้นที่ City Centre ใช้เวลาประมาณ 40 กว่านาทีก็ถึงปราสาทโดเวอร์แล้ว

รับลมทะเลที่วิสทะเบิล

Whitstable (วิสทะเบิล) อีกเมืองน่ารักเป็นเมืองชายฝั่งทะเลทางเหนือของเคนต์ เคาน์ตี้ อยู่ห่างจากแคนเทอร์เบอรีเพียง 8 กิโลเมตร (5 ไมล์) เดินทางโดยรถบัสจาก City Centre ของแคนเทอร์เบอรีอีกเช่นกัน นั่งรถมาไม่นาน ตึกรามบ้านช่องถูกแทนที่ด้วยไร่ผลไม้ ฟาร์มปศุสัตว์ รีสอร์ทเล็กๆ เริ่มปรากฏตัวให้เห็นประปราย กระทั่งรถเริ่มเข้าเขตเมืองวิสทะเบิล เราจะเห็นร้านค้าต่างๆ มากมาย ที่พลาดไม่ได้คือร้านอาหาร ที่มีเมนูเด็ดเป็น “หอยนางรม” หอยนางรมของเมืองนี้ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องความสดอร่อย

พาหัวใจ ไปตกหลุมรัก 3 เมืองเล็กๆ ในอังกฤษ

 

“มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์บ่งชี้ว่า ชาวเมืองจับหอยนางรมกันมาตั้งแต่สมัยโรมัน เมื่อเป็นเมืองที่เศรษฐกิจเติบโตขึ้นจากอุตสาหกรรมหอยนางรม ชาวเมืองจึงจัดเทศกาลหอยนางรมขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อเฉลิมฉลอง ถ้าใครมาตอนเทศกาลคิวจะยาวเป็นพิเศษ เพราะคนมากันเยอะจริงๆ”

เมื่อเดินพ้นถนน Harbour มาจะเจอท่าเรือ เรือใหญ่น้อยจอดอยู่มากมาย วิสทะเบิลมีรายได้หลักจากการทำประมงและอุตสาหกรรมเกี่ยวกับปลา ในวันที่อากาศดี ริมฝั่งทะเลจะมีตลาดนัดขายของ ตั้งแต่ของชิ้นเล็กๆ อย่างเครื่องประดับทำมือ ตุ๊กตา ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า ภาพวาด ไปจนถึงเครื่องเรือนสไตล์วินเทจ

พาหัวใจ ไปตกหลุมรัก 3 เมืองเล็กๆ ในอังกฤษ

 

“ถัดจากตลาดนัดเราสามารถเดินชมทะเลได้ตลอดความยาวของถนนสายเล็กที่ทอดยาวขนานชายฝั่ง เคบินไม้หลังน้อยสารพัดสีเรียงรายหันหน้าเข้าหาฝั่ง บังกะโล
สีลูกกวาดเหล่านี้ ราคาให้เช่าอยู่ที่ 20 ปอนด์/คืน แต่บางหลังกำหนดขั้นต่ำว่าต้องเช่า 2 คืน หลังบังกะโลเป็นเนินหญ้า หันหน้าเข้าหาทะเล มีเก้าอี้ให้นั่งชมวิวได้เต็มที่”

ถ้ามีโอกาสเดินทางไปอังกฤษ เมืองเล็กๆ และเงียบสงบน่ารัก และมีเรื่องราวมากมายเหล่านี้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความหมายระหว่างทาง เชื่อสิ! คุณจะได้แรงบันดาลใจกลับบ้านมาเพียบทีเดียว...

พาหัวใจ ไปตกหลุมรัก 3 เมืองเล็กๆ ในอังกฤษ

 

พาหัวใจ ไปตกหลุมรัก 3 เมืองเล็กๆ ในอังกฤษ