posttoday

"นักกฎหมายมหาชน" เผย บ่อนกาสิโน นำเข้าสู่ระบบภาษี ไม่ขัดต่อยุทธศาสตร์ชาติ

22 มกราคม 2568

นักกฎหมายมหาชน เผย บ่อนกาสิโน นำเข้าสู่ระบบภาษี ไม่ขัดต่อยุทธศาสตร์ชาติ แต่ จะผ่านการพิจารณาสภาหรือไม่ คนละกรณีกัน

22 ม.ค.2568 สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…ในการประชุม ครม.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้ส่ง ร่างให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณา หลังจากนั้น เป็นขั้นตอนต่อไปเป็นการพิจารณาของสภา ซึ่งจะผ่านการพิจารณาสภาหรือไม่ ทำให้เกิดกระแสต่อต้านเป็นวงกว้าง 

 

 ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชนได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตามหลายฝ่ายได้สอบถามมาว่า โครงการของรัฐบามลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นสถานบันเทิงครบวงจร เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยมีบ่อนกาสิโนจำนวน 10 เปอร์เซนต์ ขัดต่อยุทธศาสตร์ชาติหรือไม่ ตนขออธิบายและให้ความรู้แก่ประชาชนว่า รัฐบาลจะขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะได้หรือไม่ ต้องพิจารณาก่อนว่า นโยบายสาธารณะที่ขับเคลื่อนนั้น รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตรได้แถลงไว้ต่อสภาหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 162 หรือไม่

 

หากย้อนกับไปตรวจสอบคำแถลงนโยบายของรัฐบาลปัจจุบันนี้ พบว่า แถลงนโยบายก่อนบริหารราชการแผ่นดิน ในวันที่ 12 กันยายน 2567 พบว่า รัฐบาลแพทองธารฯ ได้แถลงนโยบายไว้ เป็นนโยบายที่ 4 ที่ว่า รัฐบาลจะสร้างรายได้ใหม่ของรัฐ ด้วยการนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษี (Informal Economy) และเศรษฐกิจใต้ดิน (Underground Economy) เข้าสู่ระบบภาษี ที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่าร้อยละ 50 ของ GDP เพื่อนำไปจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุข และสาธารณูปโภค รวมทั้งอุดหนุนค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานของประชาชน พร้อมทั้ง จะปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน  

หากพิจารณาตารางแสดงความสอดคล้องระหว่างนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรีกับหน้าที่ของรัฐและแนวนโยบายแห่งรัฐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งจะต้องไม่ขัดกัน 

 

 หากพิจารณายุทธศาสตร์ชาติ ในหมวดด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ข้อ 3 แผ่นที่ 50 พบว่า การสร้างความหลากหลายด้านท่องเที่ยว โดยรักษาการเป็นจุดมุ่งหมายปลายทองที่สำคัญของการท่องเที่ยวระดับโลก ที่ดึงนักท่องเที่ยวทุกระดับและเพิ่มสัดส่วนของสัดส่วนของนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูง โดยรัฐบาลระบุในเนื้อหาที่แถลงนโยบายไม่ขัดต่อยุทธศาสตร์ชาติ ที่ว่า กรณีส่งเสริมอุตสาหกรรมรีรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destinations) ดังนั้น รัฐบาลนี้ สามารถขับเคลื่อนร่าง พรบ.ฉบับนี้ หากทำให้กาสิโนให้ถูกกฎหมาย แต่จะผ่านการพิจารณาสภาหรือไม่ คนละขั้นตอนกัน 

 

หาก ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ....เป็นการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจนอกระบบภาษี (Informal Economy) และเศรษฐกิจใต้ดิน (Underground Economy) เข้าสู่ระบบภาษี กระตุ้นระบบเศรษฐกิจ คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่าร้อยละ 50 ของ GDP เพื่อนำไปจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุข และสาธารณูปโภค รวมทั้งอุดหนุนค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานของประชาชน แต่จะต้องวางกรอบป้องกันไว้ล่วงหน้า 

แม้ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร จะลับลวงพรางโดยรัฐบาลจะอ้างกับพี่น้องคนไทยว่า เป็น “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" (Entertainment Complex) โดยมีบ่อนกาสิโนจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์สัดส่วนน้อยก็ตาม 

 

หากพิจารณาในมิติทางกฎหมาย กระบวนการตรากฎหมาย โดยรัฐบาลได้เสนอเป็นร่างพระราชบัญญัติ ไม่ได้ตราเป็นพระราชกำหนด อธิบายได้ว่า ร่าง พรบ.ฉบับนี้ จะต้องผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาตามขั้นตอน หลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธรรมนูญ ให้พี่น้องประชาชน เทียบเคียงกับ ร่างพรบ.ประชามติ จะได้เห็นภาพ ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ จะผ่านการพิจารณาของสภาหรือไม่ คนละขั้นตอนกัน เพราะมีตัวแปร คือ ไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ การมีบ่อนกาสิโนที่ถูกกฎหมาย ย่อมเป็นการสร้างแรงจูงใจส่งเสริมให้แก่ประชาชนเล่นการพนันในระดับเพิ่มขึ้นหรือไม่ อย่างไร เป็นการสร้างปัญหาสังคมเพิ่มขึ้น อาชญากรรมเพิ่มขึ้น กระทบต่อสถาบันครอบครัว จะเห็นได้ จากกระแสสังคมต่อต้านร่าง พรบ.ฉบับนี้อย่างร้อนแรง 

 

หากพิจารณาถึงเนื้อหาร่างกฎหมายฉบับนี้ ห้ามมิให้มีการพนันออนไลน์ (ห้ามเชื่อมต่อระบบเพื่อให้บุคคลที่อยู่ภายนอกกาสิโนเข้าเล่นหรือเข้าพนันได้) และ ห้ามเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเกี่ยวกับกาสิโน เว้นแต่จะเป็นไปตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารประกาศกำหนด หากร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่าน แม้มีข้อห้ามพนันออนไลน์ แต่ปัจจุบัน กลุ่มทุนเทาลักลอบเปิดให้เล่นการพนันออนไลน์มีจำนวนมาก หากมีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย จะทำให้ไทยเป็นแหล่งฟอกเงินข้ามชาติ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลปัจจุบัน หากร่างบ่อนกาสิโนนี้ผ่าน ย่อมส่งผลให้ลักลอบจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์เพิ่มขึ้น แม้ พรบ.การพนันฯและความผิดฐานฟอกเงิน ยังเป็นความผิดและกฎหมายยังไม่ยกเลิกก็ตาม

 

หากพิจารณาในแง่เศรษฐกิจ แม้จะเป็นการนำเงินนอกระบบ เข้าสู่ระบบ คาดว่าจะมีมูลค่าสูงกว่าร้อยละ 50 ของ GDP เพื่อนำไปจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุข และสาธารณูปโภค รวมทั้งอุดหนุนค่าใช้จ่ายขั้นพื้นฐานของประชาชน แต่ในมิติทางเศรษฐศาสตร์ การพนันไม่ก่อให้เป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ก่อให้เกิดผลผลิต การส่งเสริมให้มีบ่อนกาสิโนเท่ากับเป็นการสนับสนุนให้กลุ่มทุนดูดทรัพย์จากภาครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยและชนชั้นล่างของสังคม อาจเป็นการซ้ำเติมปัญหาสังคมที่มีอยู่แล้วให้เพิ่มมากขึ้นหรือไม่อย่างไร ซึ่งประเทศไทยเป็นระบบเศรษฐกิจแบบผสมแต่ค่อนข้างไปทางทุนนิยม เอกชนมีบทบาทในการผลิตมากกว่ารัฐบาล ซึ่งจะเทียบเคียงระบบเศรษฐกิจของประเทศสิงคโปร์ที่จัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บ่อนกาสิโนไม่ได้เพราะบริบท วัฒนธรรม ประเพณีต่างกัน แม้ประเทศเพื่อนบ้านจะมีบ่อนกาสิโน ล้อมรอบประเทศไทย แต่ถามว่า มีประเทศไหน รวยเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนอยู่ดีกินดีหรือไม่