Time for Taiwan
ชานมไข่มุก, สี่หนุ่มหล่อ F4 และสินค้าไอทีอิเล็กทรอนิกส์ นั่นคือสิ่งที่หลายๆ คนต่างรู้จักเมื่อเอ่ยถึงเกาะไต้หวัน แต่จริงๆ แล้ว “ไต้หวัน” มีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าสามสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น จะเป็นอย่างไรนั้น ร่วมค้นหาและเปิดประสบการณ์ไปด้วยกันกับโลก 360 องศา
ชานมไข่มุก, สี่หนุ่มหล่อ F4 และสินค้าไอทีอิเล็กทรอนิกส์ นั่นคือสิ่งที่หลายๆ คนต่างรู้จักเมื่อเอ่ยถึงเกาะไต้หวัน แต่จริงๆ แล้ว “ไต้หวัน” มีอะไรที่น่าสนใจมากกว่าสามสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น จะเป็นอย่างไรนั้น ร่วมค้นหาและเปิดประสบการณ์ไปด้วยกันกับโลก 360 องศา
ไต้หวันเป็นเกาะเล็กๆ รูปทรงคล้ายมันเทศ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีชาวพื้นเมืองอาศัยอยู่ก่อนที่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่จะอพยพมาตั้งถิ่นฐานในช่วงศตวรรษที่ 15 จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1517 มีนักเดินเรือชาวโปรตุเกสแล่นเรือมายังเกาะนี้ และตั้งชื่อว่าเกาะฟอร์โมซา ซึ่งมีความหมายว่า “เกาะที่สวยงาม” ด้วยความงดงามและร่ำรวยไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติบนเกาะนี้ จึงทำให้ที่นี่มีหลายชนชาติเข้ามายึดครองเป็นระยะเวลานานหลายร้อยปี
เมื่อปี ค.ศ. 1624 ชาวดัตช์ได้เข้ามายึดครองที่นี่ โดยตั้งบ้านเรือนอยู่ที่เมืองไถหนานในช่วงระยะเวลาหนึ่ง อีกสองปีถัดมา กองทัพเรือสเปนได้ยกกำลังเข้ามาบุกรุกแย่งเกาะฟอร์โมซาไปครอบครอง จึงเป็นเหตุให้ชาวสเปนและชาวดัตช์ต้องทำสงครามกันอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนในที่สุดชาวดัตช์ก็ต่อสู้แย่งชิงเอาเกาะแห่งนี้กลับคืนมาได้ และในช่วงปี ค.ศ. 1660 กษัตริย์จีนแห่งราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิงเริ่มเข้ามามีบทบาทบนเกาะฟอร์โมซา ในที่สุดชาวจีนจึงขับไล่ชาวดัตช์ออกไป และผนวกเอาเกาะฟอร์โมซาเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของมณฑลฝูเจี้ยน ต่อมาในปี ค.ศ. 1895 ญี่ปุ่นได้ใช้กำลังยึดครองเกาะฟอร์โมซาเป็นเวลากว่า 50 ปี ซึ่งญี่ปุ่นก็ได้นำเอาประเพณีวัฒนธรรมมาเผยแพร่ยังเกาะแห่งนี้ด้วย ทั้งภาษา การศึกษา และอาหารการกิน เป็นต้น
หลังจากญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นจึงได้ยกคืนเกาะไต้หวันให้แก่จีน และเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีชัยชนะเหนือพรรคก๊กมินตั๋งในปี ค.ศ. 1949 ดังนั้น กลุ่มพรรคก๊กมินตั๋ง นำโดยนายพลเจียงไคเช็ก ได้พาชาวจีนเป็นจำนวนมากอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่เกาะไต้หวันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมีกรุงไทเปเป็นเมืองหลวง ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เป็นภูเขาถึง 1 ใน 3 ของเกาะ และส่วนที่เหลือเป็นพื้นราบ จึงทำให้กรุงไทเปแทรกตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โอบล้อมไปด้วยภูเขาและเนินเขาสูงต่ำลดหลั่นกันไปกลมกลืนกับอาคารบ้านเรือน มีจำนวนประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 2.7 ล้านคน ซึ่งใช้ภาษาจีนกลางเป็นภาษาราชการเพื่อการติดต่อสื่อสาร มากไปกว่านั้น กรุงไทเปยังเป็นศูนย์กลางด้านต่างๆ ที่สำคัญทั้งการเมือง การค้าการลงทุน อุตสาหกรรม เทคโนโลยี การศึกษาและวัฒนธรรม นอกจากนี้ กรุงไทเปยังเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงเฉกเช่นเดียวกับเมืองหลวงของประเทศอื่นๆ และนับได้ว่ากรุงไทเปเป็นเมืองหลวงที่มีการเจริญเติบโตรวดเร็วมาก โดยจะเห็นได้ว่าทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยตึกสูง และอาคารอันทันสมัย ด้วยความที่กรุงไทเปมีขนาดใกล้เคียงกับเกาะสิงคโปร์ และมีระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยครอบคลุมทั่วเกาะ ทำให้สามารถเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในไทเปนั้น ส่วนใหญ่จึงเป็นวัดวาอาราม พิพิธภัณฑ์ และงานจัดแสดงศิลปะต่างๆ
สังคมไต้หวันเป็นสังคมที่ประกอบขึ้นด้วยชาวจีนหลากหลายเชื้อสาย เช่น ชาวจีนแคะ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากมณฑลกวางตุ้ง และชาวจีนฝูเจี้ยน หรือเรียกว่าจีนฮกเกี้ยน ซึ่งอพยพมาจากชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลฝูเจี้ยน โดยชาวจีนทั้งสองกลุ่มนี้รวมกันแล้วคิดเป็นประมาณ 85 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งหมด มากไปกว่านั้น ชาวไต้หวันยังมีความเชื่อและศรัทธาในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถืออย่างเคร่งครัด นับเป็นภาพที่ตรงกันข้ามกับความก้าวหน้าทางธุรกิจการค้าของเกาะไต้หวัน ยิ่งมากไปกว่านั้นศาสนาสำคัญที่ชาวไต้หวันนับถือจะเป็นศานาพุทธนิกายมหายาน ลัทธิเต๋า และลัทธิขงจื้อ ปัจจุบันชาวไต้หวันยังคงทำพิธีกรรมทางศาสนาตามขนบธรรมเนียมประเพณีเก่าแก่ และยังให้ความสำคัญกับวันสำคัญทางศาสนาด้วยการยึดถือและปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา รวมทั้งจัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างยิ่งใหญ่
ดังนั้น วัดจึงกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไต้หวัน โดยเฉพาะวัดหลงซาน ซึ่งเป็นวัดที่ชาวไต้หวันนั้นเลื่อมใสและศรัทธามาก เนื่องจากเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวัน ตั้งอยู่ในเขตชุมชนประวัติศาสตร์หวั่นหัว (Wanhua) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1738 โดยผู้อพยพชาวจีนฝูเจี้ยน เพื่ออุทิศให้กับเทพธิดาแห่งความเมตตา หรือที่เรียกว่าพระโพธิสัตว์กวนอิม มนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งของวัดหลงซาน หาใช่เพียงตัวอาคารหรือวิหาร แต่คือวิถีชีวิตของผู้คนที่มากราบไหว้ เครื่องเซ่นไหว้ที่วางอยู่บนโต๊ะหมู่บูชา กลิ่นธูป ควันเทียน และเสียงสวดมนต์ที่ไม่เคยจางหาย สิ่งเหล่านี้บ่งบอกได้อย่างชัดเจนถึงความเชื่อและความศรัทธาของชาวไต้หวันได้เป็นอย่างดี
ถ้าหากพูดถึงแหล่งช็อปปิ้งและของกินอร่อยๆ นักท่องเที่ยวจะต้องไม่พลาดการมาเที่ยวที่ “ย่านซีเหมินติง” ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านวัยรุ่น และเป็นศูนย์รวมความบันเทิงที่มีสินค้าข้าวของเครื่องใช้หลากหลาย ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้าแฟชั่น ของกิน ของฝาก ของที่ระลึก มีให้เลือกสรรอย่างครบครัน ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์จะเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว และยังเป็นแหล่งนัดพบปะสังสรรค์ของวัยรุ่นไทเปเปรียบเสมือนย่านสยามสแควร์ของกรุงเทพฯ หรือย่านชิบูย่าของญี่ปุ่น ซึ่งคนท้องถิ่นบอกกับเราว่าที่นี่ยิ่งดึกจะยิ่งครึกครื้นและมีสีสันมากเลยทีเดียว หากย้อนกลับไปในสมัยญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน “ย่านซีเหมินติง” เป็นเขตที่พักอาศัยของชาวญี่ปุ่นที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาพำนักอยู่ที่นี่ ดังนั้น ชาวญี่ปุ่นจึงสร้างสถานบันเทิงขึ้นบนพื้นที่ย่านนี้ โดยการจำลองแบบมาจากย่านชิจูกุของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสมัยก่อนย่านนี้จะเป็นศูนย์รวมของโรงภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งต่อมามีศูนย์การค้าขนาดใหญ่เข้ามาเปิดให้บริการ ดังนั้น ซีเหมินติงจึงเป็นศูนย์รวมการค้าและความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในไต้หวัน
ช่วงเวลานี้ ไต้หวันกำลังจะเป็นอีกหนึ่งปลายทางแห่งการท่องเที่ยวยอดนิยม ที่รอคอยให้คุณมาร่วมค้นหา และประสบการณ์จากการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม อีกทั้งความมีน้ำใจ และมิตรไมตรีของชาวไต้หวันที่พร้อมจะหยิบยื่นให้กับผู้มาเยือนเสมอมา ดังนั้น ไต้หวันจึงเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกสำหรับการมาเที่ยวได้ไม่น่ายาก
ถ้าอยากจะมาสัมผัสประสบการณ์ไต้หวันแบบพวกเรานั้น ก็สะดวกสบายง่ายๆ เพราะปัจจุบันมีหลายสายการบินที่บินตรงจากกรุงเทพฯ มายังไทเป หรือสายการบินราคาประหยัด อย่าง Tigerair ราคาไม่แพง สามารถติดตามรายละเอียดและสำรองที่นั่งได้ที่ www.tigerair.com ส่วนข้อมูลและสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในไต้หวันนั้น สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวไต้หวัน www.taiwan.net