posttoday

ไต้หวัน…เสน่ห์วัฒนธรรมตะวันออก

24 ตุลาคม 2558

ไต้หวัน เป็นหนึ่งในดินแดนที่มีความรุ่มรวยทางวัฒนธรรม เห็นได้จากประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน

โดย...ทีมงานโลก 360 องศา [email protected]

ไต้หวัน เป็นหนึ่งในดินแดนที่มีความรุ่มรวยทางวัฒนธรรม เห็นได้จากประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ และศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละท้องถิ่น จากสาเหตุดังกล่าวทำให้ไต้หวันจึงเป็นหนึ่งในปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นแนวคิดที่ถูกนำไปประยุกต์กับการท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ เช่น การไปพักแบบโฮมสเตย์ เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชน การชมการแสดงทางวัฒนธรรม และการเที่ยวชมหมู่บ้านชนเผ่า เป็นต้น ซึ่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมกำลังได้รับความนิยมและความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ

ด้วยเหตุนี้เอง ไต้หวันได้หันมาให้ความสำคัญและส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยใช้ต้นทุนทางวัฒนธรรมของแต่ละชุมชน แต่ละพื้นที่ มาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยการนำเอาศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตชุมชน และภูมิปัญญาท้องถิ่น มาสร้างเงินตราให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไต้หวัน และหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของไต้หวัน คือ หมู่บ้านวัฒนธรรมเก้าชนเผ่า หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Formosan Aboriginal culture village ที่เมืองหน่านโถว

ไต้หวัน…เสน่ห์วัฒนธรรมตะวันออก หมู่บ้านวัฒนธรรมเก้าชนเผ่า เป็นสถานที่ที่จัดแสดงเรื่องราวของชนเผ่าดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บนเกาะไต้หวัน

 

หมู่บ้านวัฒนธรรมเก้าชนเผ่า เป็นสถานที่ที่จัดแสดงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวพื้นเมืองดั้งเดิมบนเกาะไต้หวัน ซึ่งในทุกๆ วัน จะมีการจัดการแสดงวัฒนธรรมของชนพื้นเมือง เช่น การเต้นรำ การร้องเพลง และการจำลองพิธีการแต่งงานแบบดั้งเดิม มากไปกว่านั้น ยังมีหมู่บ้านจำลองของชนเผ่าต่างๆ รวมถึงร้านขายของที่ระลึกของชนเผ่าต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้อและเลือกชมตามใจชอบ

ในการเดินทางมาชมวัฒนธรรมดั้งเดิมของไต้หวันนั้น นอกจากจะทำให้เราเรียนรู้และเข้าใจวัฒนธรรมนั้นๆ มากขึ้นแล้ว “เรา” ยังมีส่วนในการส่งเสริมและสนับสนุนให้วัฒนธรรมเหล่านั้นยังคงอยู่ต่อไปอีกด้วย

จากเมืองหน่านโถว ทางตอนกลางของเกาะไต้หวัน ทีมงานโลก 360 องศา เดินทางขึ้นเหนือ เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์การขุดทอง ที่เขต Ruifang เมืองนิวไทเป ซึ่งระหว่างทางนั้นก็ได้มีโอกาสชื่นชมกับอีกหนึ่งสถานที่ที่สวยงามของไต้หวัน นั่นก็คือ “น้ำตกธารทอง” ซึ่งเป็นน้ำตกสีเหลืองทอง เนื่องจากมีสินแร่และสารเคมีอยู่ใต้พื้นดินเป็นจำนวนมาก จึงทำให้น้ำที่ไหลออกมามีสารเคมีปะปนอยู่ด้วย ดังนั้นไม่ควรเอามือหรือร่างกายสัมผัสกับน้ำ  ชมเพื่อความสวยงามเท่านั้น 

ไต้หวัน…เสน่ห์วัฒนธรรมตะวันออก ทองคำแท่งบริสุทธิ์ที่มีน้ำหนักมากถึง 220 กิโลกรัม ที่พิพิธภัณฑ์ทองคำ

 

ในอดีตนั้นพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเหมืองแร่ทองคำที่สำคัญของไต้หวัน ที่ดำเนินการโดยชาวญี่ปุ่น เมื่อครั้งที่ญี่ปุ่นเคยเข้ามาปกครองไต้หวัน ซึ่งมีนักโทษและเชลยศึกสงครามจำนวนมากถูกเกณฑ์มาเป็นแรงงานเหมืองแร่ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1987 อุตสาหกรรมเหมืองแร่ของที่นี่ประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก จนในที่สุดก็ต้องปิดกิจการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หลังจากนั้นพื้นที่บริเวณนี้ก็กลายเป็นที่รกร้างเปล่าประโยชน์ ชาวบ้านที่เคยอาศัยอยู่ต่างพากันอพยพย้ายออกกันไปหลายครัวเรือน จนเกือบจะกลายเป็นเมืองร้าง

ดังนั้น ทางการไต้หวันเล็งเห็นความสำคัญและต้องการอนุรักษ์พื้นที่ทางประวัติศาสตร์แห่งนี้ จึงได้ซ่อมแซมปรับปรุงอาคารเก่าสไตล์ญี่ปุ่นและตัวเหมือง รวมถึงสร้างอาคารใหม่เพิ่มเติม เพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ทองคำในปี ค.ศ. 2004

พิพิธภัณฑ์ทองคำ เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในไต้หวัน ที่ใช้แนวคิด eco-museum หรือ นิเวศพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นแนวคิดพิพิธภัณฑ์ชุมชนรูปแบบใหม่ ที่ส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่นำเอาความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น มาพัฒนาชุมชน หรืออาจจะเรียกได้ว่า เป็น “พิพิธภัณฑ์ชุมชน” ที่บริหารจัดการโดยชุมชน เพื่อชุมชน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ที่นี่ถูกออกแบบให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งจะแบ่งออกเป็นสามชั้น ดังนี้ ชั้นแรก เป็นที่จัดแสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมาของการขุดทองคำ และเรื่องราวเกี่ยวกับทองคำที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตผู้คนในสมัยก่อน ส่วนบริเวณชั้นสอง เป็นที่จัดแสดงเครื่องประดับและงานฝีมือต่างๆ ที่ทำจากทองคำ อีกทั้งยังเป็นที่เก็บรักษาทองคำแท่งบริสุทธิ์ที่หนักถึง 220 กิโลกรัม ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสและถ่ายรูปได้ด้วย

ไต้หวัน…เสน่ห์วัฒนธรรมตะวันออก หุ่นกระบอกมือไต้หวัน อีกหนึ่งมรดกวัฒนธรรมไต้หวันที่นับวันจะหาชมได้ยาก

 

พิพิธภัณฑ์ทองคำจะมีลักษณะที่แตกต่างจากพิพิธภัณฑ์ทั่วๆ ไป เพราะที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ซึ่งเน้นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยการสัมผัส การเห็น และการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง อย่างเช่น การร่อนทอง นอกจากนี้ที่นี่ยังจัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเดินสำรวจเหมืองใต้ดินภายในอุโมงค์เปิ่นชาน หมายเลข 5 (Benshan) ซึ่งอุโมงค์นี้เคยเป็นเส้นทางการขนส่งสินแร่ทองคำในอดีต การมาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ทำให้เราได้เข้าใจและสัมผัสถึงชีวิตของกลุ่มคนงานเหมืองและเชลยศึก ซึ่งกว่าจะได้ทองคำแต่ละแท่ง แต่ละเส้นนั้น แลกมาด้วยหยาดเหงื่อ คราบน้ำตา และชีวิตของคนงานจำนวนมาก

จากพิพิธภัณฑ์ทองคำ ทีมงานโลก 360 องศา นั่งรถมาประมาณ 10 นาที เพื่อมาที่หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น ซึ่งเป็นหมู่บ้านโบราณเล็กๆ ติดทะเล ที่สร้างขึ้นตามแนวภูเขา สมัยก่อนหมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่รู้จักในนาม “หมู่บ้านเหมืองทอง” ที่เฟื่องฟูถึงขั้นได้ฉายาว่าเป็น “Little Shanghai” หรือ “Little Hong Kong” เลยทีเดียว จิ่วเฟิ่น แปลว่า “เก้าชุด” ตามประวัติเล่าว่า หมู่บ้านนี้มีครอบครัวอาศัยอยู่ด้วยกันเพียง 9 ครัวเรือน  ถ้าใครคนใดคนหนึ่งต้องเข้าไปซื้อของในเมือง จะต้องซื้อของทั้งหมดเก้าชุด ดังนั้นจึงเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านจิ่วเฟิ่นตราบจนทุกวันนี้

ด้วยความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมของบ้านเรือน ที่ตกแต่งด้วยโคมไฟสีแดงเกือบทุกบ้าน จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ Hayao Miyazaki ของสตูดิโอจิบิ นำไปสร้างภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่น เรื่อง “Spirited Away” ที่ในฉากตัวเอกของเรื่องได้เดินหลงทางเข้าไปในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยโคมไฟสีแดง หลังจากที่ภาพยนตร์ Spirited Away ได้รับรางวัลออสการ์ในปี ค.ศ. 2002 จึงทำให้หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่นกลายเป็นที่รู้จัก และนักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาเยี่ยมความน่ารักของที่นี่กันอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น

หลังจากที่เพลิดเพลินกับความสวยงามของหมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่นแล้ว โลก 360 องศา ขอพาคุณผู้อ่านไปสัมผัสอีกหนึ่งมรดกทางวัฒนธรรมไต้หวันที่นับวันจะหาชมได้ยาก นั่นก็คือ การแสดงหุ่นกระบอกไต้หวัน ที่โรงละคร See join Hand puppet กลางเมืองไทเป การแสดงหุ่นกระบอกเริ่มเป็นที่นิยมในศตวรรษที่ 17  เป็นศิลปะการแสดงที่เก่าแก่มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง โดยในสมัยนั้นมีการแสดงหุ่นกระบอกประเภทต่างๆ อย่างแพร่หลาย ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ หุ่นกระบอกมือ หุ่นกระบอกมือ หรือที่เรียกว่า “ปู้ไต้ชวี่” ซึ่งแปลว่า “ละครถุงผ้า” เนื่องจากว่าตัวของหุ่นมีลักษณะเป็นถุงผ้า โดยให้ผู้เชิดหุ่นสอดมือเข้าไปเชิด ซึ่งหุ่นกระบอกมือนี้    มีต้นกำเนิดมาจากมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ต่อมาชาวจีนที่อพยพจากแผ่นดินใหญ่ก็ได้นำเอาวัฒนธรรมหุ่นกระบอกมือมาที่เกาะไต้หวันด้วย ส่วนใหญ่การแสดงหุ่นกระบอกจะนิยมเล่นกันในงานเทศกาลที่สำคัญทางศาสนา

Billy Chen เจ้าของโรงละครเล็กๆ แห่งนี้ มีความมุ่งมั่นในการรักษาสมบัติและวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่   จึงประยุกต์เนื้อเรื่องให้มีความทันสมัย พร้อมกับใส่เสียงเอฟเฟกต์ในการแสดงเข้าไป เพื่อเพิ่มความตื่นเต้น เร้าใจ อีกทั้งยังช่วยดึงดูดกลุ่มคนหนุ่มสาวชาวไต้หวันให้เข้ามาชมการแสดงอีกด้วย มากไปกว่านั้น ยังมีกิจกรรมให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในการแสดงบนเวที ซึ่งสร้างความสนุกสนานและครื้นเครงให้กับผู้ชมตลอดจนจบการแสดง

หมู่บ้านวัฒนธรรมเก้าชนเผ่า หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น พิพิธภัณฑ์ทองคำ และหุ่นกระบอกไต้หวันนั้น เป็นตัวอย่างของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมดั้งเดิมของไต้หวัน ที่ครั้งหนึ่งเคยทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในสังคม ซึ่งการที่เราได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวยังสถานที่เหล่านั้น ถือเป็นการช่วยต่อลมหายใจให้วัฒนธรรมดั้งเดิมของไต้หวันไม่ให้เลือนหายไป