เบคแฮม...ซุป’ตาร์นักธุรกิจ
จับอะไรเป็นเงินเป็นทองไปเสียหมด สำหรับ เดวิด เบคแฮม ซุป’ตาร์ลูกหนัง ก่อนหน้านี้ซื้อแฟรนไชส์ทีมฟุตบอลไมอามี
โดย...ราชันเบอร์23
จับอะไรเป็นเงินเป็นทองไปเสียหมด สำหรับ เดวิด เบคแฮม ซุป’ตาร์ลูกหนัง ก่อนหน้านี้ซื้อแฟรนไชส์ทีมฟุตบอลไมอามี ล่าสุด อดีตแข้ง “ผีแดง” หันมาจับธุรกิจการศึกษา ซื้อโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง แถวลิตเติล ฮาวานา ในไมอามี ประเทศสหรัฐ บนพื้นที่ 10.5 เอเคอร์
ถือเป็นการทำธุรกิจเต็มตัวสำหรับยอดกองกลางเท้าชั่งทองรายนี้
ธุรกิจบริหารจัดการโรงเรียนมัธยม ไม่ใช่ใครมีเงินจะสามารถทำได้ เบคแฮมได้ศึกษาหาข้อมูลนานนับปี รวมถึงพยายามปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านการศึกษา ทั้งบรรดาคณาจารย์และผู้ชำนาญเฉพาะด้านเกี่ยวกับผลกระทบ และเขาอยากให้ธุรกิจการศึกษาสามารถผสมผสานเข้ากับธุรกิจกีฬาด้วย
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. เบคแฮมตัดสินใจซื้อโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เมื่ออดีตแข่ง “สิงโตคำราม” ได้รับการยกเว้นภาษีที่ดินจากสภาเทศบาลเมือง เนื่องจาก มิดฟิลด์วัย 40 ปี ได้ซื้อแฟรนไชส์สโมสรฟุตบอล ทำให้ได้สิทธิยกเว้นไม่ต้องเสียเงิน 8.5 แสนเหรียญสหรัฐ/ปี (ราว 25.5 ล้านบาท) หรือคิดเป็นเงิน 51 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1,530 ล้านบาท) ตลอดครบสัญญา 60 ปี
นอกจากนี้ ระบบโรงเรียนที่ไมอามี ยังให้สิทธิ์นักเรียนทุกคนได้มีส่วนร่วมเข้าไปใช้สนามกีฬา ในกิจกรรมต่างๆได้ เช่น พิธีรับประกาศนียบัตรเมื่อจบการศึกษา รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ มากมาย
อย่างไรก็ตาม พิธีการต่างๆ ของโรงเรียนมัธยมดูจะเป็นเรื่องที่ไม่เคร่งครัดหรือมีระเบียบแบบแผนสักเท่าไหร่ เพราะเป็นวัฒนธรรมของชุมชนที่เน้นความเรียบง่าย ดังเช่นถ้อยคำของ อัลแบร์โต คาร์วัลโญ ผู้อำนวยการของโรงเรียนแห่งนี้ กล่าวไว้ว่า “ผมสามารถพูดได้ว่า แนวคิดของเบคแฮมเป็นสิ่งที่เยี่ยมยอด เขาเข้าใจเรื่องการศึกษาและกีฬา มันต้องผสมผสานและควบคู่กันได้อย่างลงตัว ผมยอมรับในความคิดของเขา”
เบคแฮมยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น ไม่เน้นธุรกิจจนเกินไป เขาพยายามที่จะเรียนรู้วัฒนธรรมของอเมริกันชน ซึ่งค่อนข้างคล้ายคลึงกับวิถีของคนอังกฤษในเรื่องของสภาพแวดล้อม วิถีชีวิตของคนในชุมชนเป็นประเด็นหลักที่ต้องให้ความสำคัญ ทำให้คุณพ่อลูก 4 สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐได้อย่างกลมกลืน เสมือนเป็นบ้านหลังที่สอง
“ความคิดของการเป็นหุ้นส่วนระหว่างไมอามี เบคแฮม ยูไนเต็ด (ตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ) เมือง สภาเทศบาล และชุมชนเมืองในไมอามี เป็นเรื่องแปลกใหม่และตื่นเต้นสำหรับเบคแฮม ทุกอย่างต้องตอบสนองและสอดคล้องซึ่งกันและกัน และต้องได้รับประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย ก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาและบรรลุข้อตกลง” ทาดด์ ชวาร์ตซ์ โฆษกส่วนตัวของเบคแฮม กล่าว
สุดท้าย เบคแฮมประกาศความตั้งใจที่จะทำงานบริหารธุรกิจโรงเรียนและสโมสรฟุตบอล ให้เป็นเช่นเดียวกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
“แน่นอนผมจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการเลือกผู้เล่น หรือตัดสินใจอะไรในทีม เพราะสมัยผมเป็นผู้เล่น ผมก็ไม่ชอบเวลาที่เจ้าของทีมลงมาล้วงลูก ผมไม่อยากให้นักเตะในทีมของผมต้องโดนแทรกแซง” เบคแฮม กล่าว
ต้องดูกันว่า การผันตัวมาเป็นนักธุรกิจของ เดวิด เบคแฮม จะประสบความสำเร็จ เหมือนตอนสมัยเป็นนักเตะหรือไม่