ธรรมะ คล้องใจ พ่อ-ลูก ชื่นฤทัยในธรรม
ตลอดเดือน ธ.ค. ยังคงอยู่ในบรรยากาศเทศกาลวันพ่อ มีพ่อลูกหลายคู่ที่รัดร้อยความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นอยู่เสมอ
โดย...เบ็ญจวรรณ รัตนวิจิตร ภาพ... เสกสรร โรจนเมธากุล
ตลอดเดือน ธ.ค. ยังคงอยู่ในบรรยากาศเทศกาลวันพ่อ มีพ่อลูกหลายคู่ที่รัดร้อยความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นอยู่เสมอ อย่างครอบครัวชื่นฤทัยในธรรม พ่อ-สนธิญาณ กับ ลูก-กิ่งการะเกด ที่ใช้ธรรมะในการสานสายใยระหว่างพ่อกับลูก บ่มเพาะวิถีชีวิตในแบบธรรมชาติ
กรรมจะจัดสรรชีวิต
สนธิญาณ เล่าว่าวัยเด็กเป็นคนไม่มีศาสนา ปฏิเสธศาสนา ชีวิตต้องพึ่งพาตัวเองตั้งแต่ 7 ขวบต้องสู้ชีวิต ประกอบกับช่วงวัยรุ่นรับทราบแนวคิดของพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งมีแนวปรัชญาที่ปฏิเสธศาสนา พอจบ ทำงาน ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยวัยเพียง 28 ปี มีเงินเดือนหลักแสนบาท
ชีวิตวัยกลางคน ก็วนเวียนอยู่กับผับ บาร์ คาราโอเกะ ร้านข้าวต้ม เพราะชีวิตที่ประสบความสำเร็จ ทำให้ฟุ้งเฟ้อ ทะเยอทะยาน จนวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ที่เจอกับทุกข์หนัก ธุรกิจที่ประสบปัญหา จึงหาทางแก้ทุกข์ ด้วยการไปบวชที่วัดป่าแถว จ.อุดรธานี
“ถือเป็นปาฏิหาริย์แห่งธรรมทำให้เชื่อว่านรก สวรรค์มีจริง ชีวิตที่ผ่านมา ดิ้นรน ต่อสู้ เข่นฆ่าทำมาหมด แต่วันนี้ชีวิตพลิกกลับ ความคิดทุกอย่างเปลี่ยนใหม่ กลับมาทำงานตามหน้าที่ให้ดีที่สุด เปลี่ยนพฤติกรรม เลิกเหล้า หันมาสวดมนต์ ไม่ใช่เพื่อเป็นคนดี แต่ดับร้อนในตัว” สนธิญาณ กล่าว
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของสนธิญาณเป็นการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญของครอบครัวชื่นฤทัยในธรรม มีการจัดห้องพระที่บ้าน ชวนคนในครอบครัวมาร่วมกันสวดมนต์ทุกวัน นับตั้งแต่วันนั้น ไม่มีวันไหนที่ครอบครัวจะไม่ไหว้พระสวดมนต์
สนธิญาณ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมีคุณค่ามหาศาลสำหรับครอบครัว ลูกสาว 2 คน เชื่อในบาป บุญ คุณ โทษ ต้องร่วมกันสวดมนต์ทุกวัน แม้จะไปเรียนไกลถึงประเทศอังกฤษ ก็ยังสวดมนต์ร่วมกันผ่านเฟซไทม์
“เพราะฉะนั้น กับลูก (กิ่งการะเกด) ก็จะไม่คาดหวังใดๆขอเพียงให้ลูกเข้าใจเรื่องธรรมะ สัจจะ ความจริงของธรรมชาติ ผมเชื่อล้านเปอร์เซ็นต์ว่ากรรมจะจัดสรรชีวิตเขาไปเอง เหมือนที่เราเคยประสบมาแล้ว”
สิ่งที่พ่อสอนต้องมีสติ
กิ่งการะเกด กล่าวว่า คุณพ่อ (สนธิญาณ) เล่าถึงวงกลมแห่งความสัมพันธ์ของชีวิต ที่ต้องดูแล จัดสรรความสัมพันธ์ของคนในวงให้ดี ซึ่งวงในสุด คือ ครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน เพื่อน ไปจนถึงคนรู้จักทั่วไป ตามลำดับ คนเหล่านี้เป็นหุ้นส่วนชีวิตที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ที่ต้องดูแล
“ความสุข ความทุกข์ ไม่ยึดติด ต้องปล่อยวาง ค่อยๆ แก้ปัญหา อย่าปล่อยให้พอกพูน ยิ่งหมองหม่น ชีวิตยิ่งติดลบ บั่นทอนจิตใจ” กิ่งการะเกด กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการที่ฝึกสมาธิมาตั้งแต่เด็ก ทำให้บางครั้งเกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นได้ พอมีสติ ไอเดียก็เกิดขึ้นในหัว เมื่อก่อนไม่เข้าใจ สิ่งที่พ่อสอน ให้ปฏิบัติ ว่าต้องมีสติ แต่วันนี้เห็นแล้วว่า เมื่อสติมา ปัญญาก็มี ทำให้เรารู้ว่าคิดอะไรอยู่ ทำอะไร ทำสิ่งนี้เพื่ออะไร ทำให้ความคิดเป็นขั้นตอนเป็นแบบแผน
นอกจากนี้ เวลามีปัญหาทำให้เราไม่ยอมแพ้ พยายามแก้ไขปัญหาไปให้ถึงที่สุด มีแผนเอ แผนบี แผนซี สุดท้ายหากไม่ได้จริงๆ ก็ต้องยอมรับความจริงและปล่อยวาง
กิ่งการะเกด เล่าว่า หลังจากเรียนจบจากอังกฤษ กลับมาทำงาน ไปฝึกงานกับคุณพ่อช่วงหนึ่ง แต่คิดว่าไม่ใช่ทางของเราเพราะชอบงานบริหาร จึงมารับบริหารคอมมูนิตี้มอลล์ บรีโอ้ พุทธมณฑลสาย 4 คุณพ่อให้สิทธิเต็มที่ในการบริหารงาน ซึ่งชีวิตได้วางไว้ 2 แผนคือ ทำงานช่วยคุณพ่อ และทำธุรกิจของตัวเองด้านเสื้อผ้าแฟชั่น โดยอาศัยความรู้ที่เรียนมา
ทุกวันนี้ สองคนพ่อลูกยังคงทำกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่การสวดมนต์ ไหว้พระ รวมถึงการนอนดูหนังที่บ้าน หรือออกไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมโปรดของครอบครัว รวมทั้งการกินข้าวร่วมกันตอนเช้า ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่พ่อลูกได้ปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนมุมมองในการทำธุรกิจระหว่างกันอยู่เสมอ