ไปสตูล อย่าแค่ไปลงเรือ
อาทิตย์นี้ยังติดพันกับทะเลอยู่ครับ แต่จะชวนไปกินของอร่อยถึงสตูล
โดย...สุธน สุขพิศิษฐ์
อาทิตย์นี้ยังติดพันกับทะเลอยู่ครับ แต่จะชวนไปกินของอร่อยถึงสตูล ที่ผมเลือกเอาเป็นสตูลนั้น เพราะว่าอีกไม่กี่วันจะมีวันหยุดยาวๆ คงมีหลายคนวางแผนไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ เกาะตะรุเตา หรือไปลังกาวี มาเลเซีย ซึ่งท่าเรือที่จะไปเกาะต่างๆ นั้นอยู่ที่สตูลทั้งสิ้น เมื่อไปทั้งทีแล้วก็ต้องกินของอร่อยที่กรุงเทพฯ ไม่มีกินเสียด้วยเลย
สตูลเป็นเมืองที่ผมชอบมาก เป็นจังหวัดเล็กแต่มีเพชรที่เป็นทะเลและป่า มีความสงบอย่างหนึ่งคือไม่ได้อยู่บนเส้นทางหลักที่เลียบทะเลอันดามัน จะเข้าสตูลต้องวิ่งลึกเข้าไปอีก 10 กว่ากิโล ฉะนั้นถ้าไม่มีธุระจริงๆ ก็ไม่มีใครเข้าสตูล อีกอย่างเป็นเมืองชาวมุสลิมที่รักสงบ ไม่มีปัญหาเรื่องขัดแย้งทางการเมือง
ป่าที่เป็นเพชรนั้นคือ ทะเลบัน เป็นทะเลสาบที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา รอบๆ ทะเลสาบเป็นป่าดงดิบร้อนชื้น ใครอยากเห็นป่าดงดิบ เงียบ มืด วังเวง ต้องเข้าไปที่ทะเลบัน จะรู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงสัตว์มีชีวิตเล็กๆ ในความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ หรืออย่าไปยุ่งปล่อยให้ธรรมชาติเขารักษาตัวเองไปเรื่อยๆ สิ่งที่ชอบที่สำคัญอีกอย่างมีอาหารอิสลามอร่อยๆ เยอะ
มาเรื่องไปสตูลเพื่อไปเกาะครับ เอาที่ตัวจังหวัดก่อน ผู้ที่จะไปเกาะลังกาวีของมาเลเซีย ก็ต้องไปที่ท่าเรือตำมะลัง ที่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กว่ากิโล ตลอดเส้นทางนั้นเงียบไม่มีบ้านเรือนเพราะเป็นเขตป่าโกงกางเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ผู้ที่จะไปเกาะลังกาวีนั้น อาจจะนอนไปในรถแล้วไปเช้าเอาที่นั่น หรือนอนค้างที่โรงแรมในสตูลก่อน พอเช้าแล้วค่อยไป นั่นเพราะเรือเขาออกสายๆ
พอขากลับจากลังกาวี จะมาถึงท่าเรือตอนบ่ายๆ ส่วนใหญ่ตีรถกลับกรุงเทพฯ เลย ที่ท่าเรือผมแนะนำให้ซื้ออินทผลัมแห้ง ใหม่ หวาน ไม่แพง ยี่ห้อไหนก็ได้
ผมนั้นนอนค้างที่สตูลโดยไม่มีความต้องการที่จะไปเกาะ แต่นอนค้างเพราะเห็นแก่กิน เป็นร้านหนึ่งอยู่ในตึกแถว ถนนบุรีวานิช อันเป็นตึกแถวเก่าแบบเดียวกับที่ภูเก็ต เลขที่ 35 ไม่มีชื่อร้าน ไม่มีการ
ตกแต่งใดๆ ทั้งสิ้น เงียบๆ มีโต๊ะเก้าอี้ไม้ 3-4 ชุด มีตู้กับข้าวอยู่ด้านใน เมื่อผมไปเจอครั้งแรกนั้นประมาณสัก 11 โมงเช้า ในตู้มีกะละมังกับข้าวอยู่ 3 อย่าง แต่เหลือแค่ 1 กะละมัง มีปลาอยู่แค่ 2-3 ชิ้น เป็นปลาชิ้นในน้ำแกงข้นๆ พอสั่งมาคนขายบอกว่าข้าวหมด นั่นก็ไม่ว่ากัน แต่ก็ยังนึกว่าขายข้าวแกงไม่มีข้าวได้อย่างไร
อีก 2 ปีไปอีก 11 โมงเช้าเหมือนเดิม แต่หมดทั้งแกงทั้งข้าว คนขายบอกว่าต้องมาก่อน 11 โมง จึงต้องนอนที่สตูลเพราะอย่างนั้นเอง แล้วก็โชคดีไปได้รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ต้องเข้าซอยศุลกานุกูลไป อยู่ริมแม่น้ำมำบัง เงียบสะอาดดี มื้อเย็นก็กินที่นั่น มีอาหารทะเลตามสั่ง แกงเหลืองปลากะพงกับยอดมะพร้าวอร่อยมาก แถมมีราดหน้าซูเปอร์ (ทะเล) อร่อยทัดเทียมกับราดหน้าซูเปอร์ที่กันตัง จ.ตรัง ที่โด่งดัง พอสายๆ ก็ไปร้านในเมือง ไปร้านที่ว่า ตอนนี้ไม่ผิดหวัง ได้รู้ว่าร้านนี้ขายกับข้าวอยู่แค่ 3 อย่าง มีผัดเนื้อ ผัดเผ็ดเนื้อ และแกงกะหรี่ปลา ส่วนข้าวเป็นข้าวที่หุงด้วยกะทิ หอมมาก ถึงเข้าใจว่าที่ไม่มีข้าวในวันนั้นเป็นเพราะอะไร
ผมจะไม่บอกว่าอร่อย เพราะมันเหนือความอร่อยขึ้นไปหลายชั้น คุ้มค่าที่ต้องไปร้านนั้นถึง 3 ครั้ง ผมแนะนำว่าถ้าหลุดจากร้านนั้นก็มีร้านข้าวแกงแก้ขัด ต้องวิ่งออกนอกเมืองมานิดหนึ่ง ชื่อร้านมาเรีย เป็นร้านข้าวแกงมีอาหารอิสลามหลายอย่าง มีกะทิต้มผักใส่ไข่ต้มเป็นลูกๆ มีแกงสับปะรดกับกุ้ง มีปลาสีกุนทอดขมิ้น ที่เด็ดขาดคือซุปหางวัวอร่อยมาก
มาที่ท่าเรือปากบารา ท่าเรือที่จะไปเกาะหลีเป๊ะ เกาะตะรุเตาบ้าง ทุกหน้าร้อนจะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่ต้องไปค้างคืนที่ปากบาราก่อน ความที่มีนักท่องเที่ยวมากมาย จึงมีบ้านพัก รีสอร์ท โรงแรม ร้านอาหารเยอะเป็นอาหารทะเล ผมนั้นเลือกที่จะกินที่อื่นดีกว่า ยิ่งเป็นตลาดนัดใหญ่วันอาทิตย์ เป็นตลาดที่ออกจากปากบารานิดหนึ่ง มีกับข้าวอิสลามเยอะมาก อร่อย ซื้อเสร็จ เช่าเสื่อนั่งกิน ชมวิวทะเลปากบารามีความสุขกว่าเยอะ ถูกสตางค์ด้วย
มาถึงร้านที่ผมตั้งใจแนะนำครับ ต้องมาที่ อ.ละงู ปากทางเข้าปากบารา และต้องเป็นมื้อเช้าเท่านั้น ชื่อร้านครูบาหรี จะอยู่ใกล้ปากทางเข้าตลาดเทศบาล มีโรตี มะตะบะ ชาร้อน โรตีนั้นมีให้เลือกว่าเป็นโรตีกับนมข้นหวาน และโรตีกับแกงปลา ต้องกินโรตีกับแกงปลาครับ ปลานั้นจะละเอียด ส่วนน้ำแกงคล้ายแกงมัสมั่น มีกลิ่นหอมใบเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่ขึ้นตามสวนยาง มะตะบะก็สุดยอด ผมนั้นเป็นคนติดกาแฟในตอนเช้า สั่งกาแฟมามันเป็นการแหวกม่านประเพณีอย่างรุนแรงครับ ต้องกินชาร้อนอย่างดียว ผมเคยขอซื้อแกงปลา
กลับกรุงเทพฯ เอามากินกับขนมปังปิ้ง
นี่แหละครับไปสตูลเที่ยวเกาะแล้ว อย่าลืมไปรู้จักตัวตนของอาหารอิสลามด้วย จะคุ้มค่าครับ