อริยากร คุณาธิปพงษ์ อนาคตสวยเสมอ ในธุรกิจความงาม

โดย...ปอย

การทำธุรกิจความงามต้องทำในสิ่งที่ยังไม่มีใครทำ กว่าสิบปีที่สะสมประสบการณ์จากการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ เกี่ยวกับเครื่องสำอาง ทั้งกลุ่มสกินแคร์ และเมกอัพ รวมทั้งอุปกรณ์เสริมความงาม เช่น ขนตาปลอม ก็เริ่มเป็นเจ้าแรกๆ ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ อริยากร คุณาธิปพงษ์ นักธุรกิจสาวมาดเฉียบ บอกว่าแม้ภาวะเศรษฐกิจเป็นช่วงขาลง ขณะที่ธุรกิจก็ต้องดำเนินต่อไป การตัดสินใจทำธุรกิจใหม่ในช่วงนี้จึงเลือกเกี่ยวกับธุรกิจเซอร์วิสขายความแตกต่างให้ชัดเจนกว่าใคร ในขณะที่เครื่องสำอางมีแบรนด์ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดมากมาย เช่น การเลือกลิปสติกสีแดงสัก 1 แท่ง ก็มีหลายแบรนด์ให้เลือกเยอะจนแทบจะไม่เห็นความแตกต่างกันเลย

ธุรกิจล่าสุดจึงเลือกก้าวต่อไปในกลุ่มเสริมความงาม โดยการวิเคราะห์ตลาดจากการเดินทางไปงานบิวตี้แฟร์มาแล้วทั่วโลกอริยากร กล่าวว่า การทำคิ้วเป็นกระแสน่าสนใจมาก มีนวัตกรรมและเทรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ในเมืองไทยกลับมีแต่การสักคิ้วสารพัดมิติโฆษณากันโครมๆ ในขณะนี้ แต่ความเชื่อมั่นธุรกิจจะเติบโตได้ต้องทำในสิ่งที่ไม่มีใครทำ จึงนำมาสู่การสร้างแบรนด์ระดับพรีเมียม โซปราซี่ (Sopracie) ใช้เทคนิคฝังสีคิ้วกลมกลืนกับใบหน้าได้ให้มากที่สุด

“ใครๆ ก็ถามนะคะ เศรษฐกิจวันนี้กระทบไหม? ดิฉันมองว่าธุรกิจความงามจะเจอสถานการณ์อย่างไร ก็ยังมีกลุ่มที่พร้อมจ่ายโดยเฉพาะในกลุ่มพรีเมียมมีกำลังจ่ายเสมอนะคะ ผู้หญิงที่เลือกทำคิ้วกับร้านโซปราซี่จึงผ่านการคิดมาดีแล้วว่าได้เลือกสิ่งเหมาะที่สุดสำหรับตัวเอง ขณะที่การสักคิ้วมิติต่างๆ ก็คือวิธีการทำตลาดอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งก็มีหลายราคานะคะ ตั้งแต่ไม่กี่พันบาท จนถึงหมื่นบาท แต่ผลลัพธ์ความงามด้วยวิธีสักก็ดูไม่ธรรมชาตินัก

ผู้หญิงต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ หลายๆ คนเป็นเวิร์กกิ้งเกิร์ลอยู่ในกลุ่มไม่ค่อยแต่งหน้าเพราะเกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือของงาน อย่างเช่นคุณหมอก็ไม่อยากแต่งหน้าจัดๆ ด้วยนะคะ แล้วด้วยความที่งานก็เยอะไม่มีเวลาแต่งหน้าอีกด้วย และไม่อยากออกไปทำงานพร้อมหน้าสด แต่ถ้าแค่มีคิ้วก็สามารถออกจากบ้านโดยไม่ต้องเมกอัพ ซึ่งก็ตรงกับคอนเซ็ปต์ของเราคือให้เป็นธรรมชาติที่สุด การทำคิ้วต้องดูรูปหน้า ทรงคิ้วเดิม ไม่มีใครหน้าสองข้างเท่ากันหรอกค่ะ นอกจากนั้นผู้หญิงไทยมีจุดด้อยคือคิ้วบางแต่กลับไปแวกซ์ คิ้วก็ยิ่งบางเข้าไปใหญ่” อริยากร กล่าวถึงร้านเสริมความงามใหม่ล่าสุด

ผู้บริหารสาวสวยคนนี้ต้องจัดว่าคร่ำหวอดในวงการบิวตี้ หลังจบไฮสกูลจากนิวซีแลนด์ และศึกษาระดับปริญญาตรี International Business ที่ออสเตรเลีย เมื่อกลับเมืองไทยได้เลือกศึกษาต่อในปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ (MIM) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงได้เริ่มเก็บประสบการณ์ทางด้านงานการตลาด ดูแลผลิตภัณฑ์น้ำหอมในกลุ่มไฮเอนด์ ของบริษัท CMG (Central Marketing Group) จากนั้นมีโอกาสทำงานกับ LVMH รับหน้าที่ Marketing Manager เครื่องสำอางแบรนด์เกอร์แลง (Guerlain) สะสมประสบการณ์เกี่ยวกับสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางแบรนด์หรูจากต่างประเทศกว่า 5 ปี จึงมีความมั่นใจสูงในงานเส้นทางความงาม

“ดิฉันเริ่มต้น Career ด้านความสวยงามเลยค่ะ การทำธุรกิจความงามก็ไม่ใช่แค่เรารักสวยรักงาม ที่แน่ๆ กลยุทธ์ทำธุรกิจก็ต้องใช้ทั้งความซื่อสัตย์ มีอะไรต้องบอกกันตรงๆ นะคะ ร้านเริ่มเดือน มี.ค. 2558 เทรนด์คิ้วเกาหลีกำลังมาเลยค่ะ คือรูปคิ้วหนาตรงๆ ไม่โก่ง สั้นๆ และไม่เป๊ะ ดิฉันก็ต้องบอกว่านี่คือคิ้วที่เหมาะกับรูปหน้าสาวเกาหลีโครงหน้ารูปคางสั้น มีโหนกแก้ม ทำให้ผู้หญิงเกาหลีหน้าเด็ก แต่สำหรับโครงหน้าผู้หญิงไทยเราไม่ใช่แบบนั้นนะคะ ใบหน้าเรากลมมีแก้มแต่แก้ไขด้วยการวาดคิ้วยาวขึ้น หางคิ้วต้องวาดหักลงนิดๆ เพื่อให้ใบหน้าดูยาวขึ้นค่ะ” 

การวางคอนเซ็ปต์ร้านในระดับพรีเมียมบนห้างหรูพารากอน มีวิธีสร้างสรรค์คิ้วด้วยเทคโนโลยีเพื่อความเหมาะเจาะรับกับใบหน้า โดยผู้เชี่ยวชาญอิมพอร์ตมาจากต่างประเทศ เป็นกลยุทธ์ของธุรกิจความงามให้เติบโตในวันที่เศรษฐกิจไม่คึกคักนัก