คิดและทำแบบนี้ จะประสบความสำเร็จ
โบราณว่าถ้าอยู่อย่างจนคุณจะรวย ถ้าอยู่อย่างรวยคุณจะจน ถ้าเราได้อ่านวิธีคิดและทำอย่างคนรวย
โดย...กันย์
โบราณว่าถ้าอยู่อย่างจนคุณจะรวย ถ้าอยู่อย่างรวยคุณจะจน ถ้าเราได้อ่านวิธีคิดและทำอย่างคนรวย แล้วพยายามนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเอง ค่อยปรับค่อยเปลี่ยน และถ้าคุณอ่านเข้าใจแล้วไปทำตามจะเปลี่ยนชีวิตของคุณอีก 10 ปีจากนี้ไปอย่างสิ้นเชิง!
นิตยสาร Forbes ได้ทำการสำรวจไว้ว่า ในโลกตอนนี้มีมหาเศรษฐีระดับ Billionaire ทั้งหมด 1,694 คน และมีทรัพย์สินระดับพันล้านเหรียญ US ขึ้นไป แปลเป็นไทยว่า มหาเศรษฐีหมื่นล้าน 2 ใน 3 นั้นล้วนแต่เป็น Self-made Billionaire ก็คือรวยพันล้านได้ใน Generation เดียว สร้างเองทำเอง ไม่ได้สืบมรดกจากพ่อแม่
มีการสำรวจต่อในกลุ่มเศรษฐีที่เป็น Self-made millionaire ว่าอะไรทำให้คนกลุ่มนี้ประสบความสำเร็จระดับสูงขนาดนี้! แค่คนบางคนมีทรัพย์สินส่วนตัวมากกว่าบางประเทศแล้ว!
ผลการศึกษาพบว่า มี 3 อย่างที่เป็น “Something in common” หรือเป็นนิสัยร่วมกันของอภิมหาเศรษฐีทั้งพันกว่าคนนี้! นั่นคือ
1.ทุกคนมี Big Goal & Plan ที่ชัดเจนเสมอ ซึ่งแตกต่างจากคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตไปวันๆเอาตัวรอดไปวันๆ ไม่มีฝัน ไม่มีเป้าหมาย เต็มที่มีแค่ความอยาก หรือความฝันลมๆ แล้งๆ จุดที่ Goal ต่างกับ Dream คือ Goal มีเป้าหมายแน่นอน ระบุเวลาชัด วัดผลได้ มี Goal อย่างเดียวก็ไม่พอ Billionaire ทุกคนต้องมี Plan ชัดเจนด้วย มีคำคมหนึ่งว่า “A goal without a plan is just a wish Goal” ที่ไร้ Action Plan ก็ไม่ต่างอะไรกับการไปขูดหวยขอให้รวยตามศาลเจ้า
2.ทุกคนเรียนรู้ตลอดเวลา คุณไม่มีทางมีชีวิตที่ดีกว่านี้ถ้าคุณยังเป็นคุณคนนี้ ชีวิตที่ดีกว่ามีไว้สำหรับคุณคนใหม่ที่เก่งกว่า Billionaire ทุกคน ที่กว่าจะมาเป็น Billionaire ได้ ลงทุนนู่นนี่นั่นมาเยอะ แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทุกคนลงทุนเยอะที่สุดและลงทุนเหมือนกันคือ การลงทุนกับตัวเอง Investment in myself การลงทุนให้ตัวเองเป็นการลงทุนที่ดีที่สุดในโลก เพราะไม่มีทางขาดทุน ไม่มีการผันผวน และไม่มีใครฉกชิงไปจากคุณได้ มหาเศรษฐีทุกคนถึงเน้นการลงทุนในตัวเองมากๆ
“You can learn anything you want to achieve any goal you need” ทุกคนสามารถเรียนอะไรก็ได้ในสิ่งที่คุณไม่เคยรู้ เพื่อได้ในสิ่งที่คุณไม่เคยมี และเป็นในสิ่งที่คุณไม่เคยเป็น คือจงแบ่งเวลาทำงานในปัจจุบันเพื่อเอามาเรียนรู้เพิ่มเติม ด้วยการอ่านหนังสือ ฟัง Audiobook เข้าสัมมนา เรียนคอร์สออนไลน์ ทำนัดคุยกับคนเก่งๆ เพื่ออนาคตของคุณ ถ้าคุณไม่แบ่งเวลาคุณก็จะไม่มีเวลา แล้วจะได้ข้ออ้างไม่มีเวลาเรื่อยไป และจงเผื่อเวลาปัจจุบันเพื่ออนาคต ให้เผื่อเวลาทำงานปัจจุบัน เพื่อทำงานอนาคต ถ้าทั้งวันมัวแต่ทำงานปัจจุบัน คุณจะกลายเป็นคนที่ไม่มีอนาคต!
3.ทุกคนลงมือทำและกล้ารับความเสี่ยงเสมอ เพราะจริงๆ แล้ว ทุกความสำเร็จมีขั้นตอนง่ายๆ แค่ 2 ขั้นตอนตามชื่อบทความ คือแค่ Think แล้ว Act เพราะคนส่วนใหญ่จบแค่ Think แต่ไม่ Act เลยติดแหง็กอยู่ที่เดิม ไม่ว่าคุณจะปิ๊งไอเดีย มีความคิดที่ดีแค่ไหน แต่ถ้าปราศจากการลงมือทำแล้ว ความคิดนั้นเท่ากับไร้ค่า ความคิดใดๆ จะมีค่าก็ต่อเมื่อมีการลงมือทำสะพานเชื่อมระหว่างความจริงกับความฝันคือการลงมือทำ และเมื่อคุณเริ่มลงมือทำ คุณจะได้ทำสิ่งใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน เหมือนคุณเดินทางไปดินแดนใหม่ที่ไม่เคยไป มันจะมีความเสี่ยงเกิดขึ้นเสมอ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องธรรมดา
คนส่วนใหญ่ไม่กล้าเสี่ยงเพราะติดอยู่ใน Comfort Zone แต่คนระดับ Top จะกล้าเสี่ยงเสมอ ถ้าความเสี่ยงนั้นคุ้มค่า ถ้าคุณทำอะไรที่ไม่รู้สึกเสี่ยง แปลว่าคุณกำลังทำอะไรเดิมๆ และอะไรเดิมๆไม่เคยทำให้ชีวิตใครเปลี่ยนไป เพราะอุปสรรคที่ขัดขวางความสำเร็จที่ใหญ่ที่สุดของมนุษย์คนหนึ่งคือมนุษย์คนนั้นนั่นเอง