คู่ใหญ่สั่งมาฟัด ครบเครื่องเรื่องเฉินหลง

โดย...เพรงเทพ

การไปดูภาพยนตร์ที่มี “เฉินหลง” แสดงนำ ไม่ว่ามาจากฟากฮ่องกงหรือฮอลลีวู้ดต้องทำความเข้าใจล่วงหน้าว่า ดูเอามันและเพื่อความบันเทิงล้วนๆ สนุกสนานโปร่งสมองและไม่ต้องคิดมากตามสไตล์หนังบู๊-ผจญภัย-ตลก ในแบบตัวของเขาเอง

หากย้อนกลับไปในยุคทศวรรษที่ 2520 ในบ้านเรา หนังของเฉินหลงจะมาช่วงเทศกาลตรุษจีน และการันตีได้เลยว่าโกยเงินอย่างมหาศาล เรียกว่าเป็นวาระแห่งปีกันในการดูหนังเฉินหลง หลังจากที่เขาโกอินเตอร์ไปร่วมมือกับฮอลลีวู้ด หนังของเฉินหลงก็ยังคงมนตร์ขลังไม่เสื่อมคลาย และยังมีแฟนานุแฟนติดตามกันอย่างเหนียวแน่น แม้ไม่ตูมไม่ปังดังเช่นอดีต แต่ทำเงินในระดับที่น่าพอใจ

เช่นกันหนังเรื่องล่าสุด “คู่ใหญ่สั่งมาฟัด” (Skiptrace) ก็เป็นหนังคู่หูผจญภัย บู๊ ตลก และหักมุมในตอนท้ายแบบเข้าใจได้ การเปิดเรื่องแนะนำดาราแสดงนำอย่างเร้าใจด้วยสีสันจัดจ้านย้อมสีเทคนิคคัลเลอร์ รวมถึงความตายของคู่หูที่เป็นทั้งเพื่อนและตำรวจด้วยกัน เบนนี่ ชาน ซึ่งแสดงนำโดย เฉินหลง จึงต้องรับภาระเลี้ยงลูกสาวของเพื่อนพร้อมกับนาฬิกาไว้ดูต่างหน้า รวมถึงภารกิจในการตามล่า วิคเตอร์ หว่อง หัวหน้ามาเฟียจอมบงการผู้ลึกลับให้เผยโฉมหน้าออกมา ซึ่งเขามั่นใจว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของความตายเพื่อตำรวจคู่หูของเขา

อย่างที่ว่าหนังเฉินหลงดูเอามันและลุ้นกันอย่างฮาๆ มากกว่าที่จริงจังไปตามท้องเรื่องที่พยายามให้ดูเข้มข้นจริงจัง ไม่ต้องมีเหตุผลไม่ต้องมีสุนทรียศาสตร์ไปจับให้ร้อนมือ เป็นงานเพื่อความบันเทิงและการค้าเอาใจผู้ชมล้วนๆ ยิ่งตามท้องเรื่องต้องเดินทางไปลากตัวเซียนพนันชาวอเมริกัน ซึ่งถูกจับไปในรัสเซียด้วยข้อหาไปทำผู้หญิงท้อง แต่กุมความลับของการฆาตกรรมในบ่อนพนันที่มาเก๊า โดยหลักฐานอยู่ในโทรศัพท์มือถือที่ได้ไป จากนั้นก็ร่ายยาวจากรัสเซีย มองโกเลีย จีนในภูมิภาคสวยงามของแม่น้ำแยงซีเกียงและเทือกเขาหวงซาน แน่นอนจุดประสงค์เด่นชัดต้องการขายภูมิทัศน์เพื่อให้คนดูหนังเรื่องนี้ได้เกิดแรงบันดาลใจไปเที่ยวสถานที่ในฉากเหล่านี้ตามรอยหนัง ซึ่งเห็นความจงใจออกมาอย่างล้นพ้น

โดยตัวเรื่องแล้วไม่มีอะไรมาก แม้จะหักมุมในตอนจบ หนังต้องการเน้นไปที่ความหมายของมิตรภาพ ซึ่งในเรื่องนี้เป็นการเดินคู่ขนานไประหว่างมิตรภาพเก่าของเพื่อนตำรวจที่ตายไป กับมิตรภาพใหม่ที่ก่อเกิดกับเพื่อนชาวต่างชาติที่กลายเป็นคู่หูผจญภัยในตอนหลัง

โดยเฉพาะการจบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้งแบบ 2 คู่ชู้ชื่น ก็ยังเป็นสูตรที่ทำให้คนดูสบายใจ เดินออกไปแบบหมดจดอิ่มใจ

สำหรับเฉินหลง แม้จะมีริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าเพิ่มเข้ามา แต่ด้วยวัย 60 กว่า การแสดงยังได้ระดับนี้คือ บู๊กังฟูแบบดั้งเดิมของเขาที่เน้นโชว์ปนตลก ก็ถือว่ายังไปได้สวยแม้จะไม่เข้มข้นเท่าเก่า

จอห์นนี่ น็อกซ์วิลล์ ซึ่งรับบท คอนเนอร์ วัตส์ เล่นตามน้ำได้อย่างนวลเนียน สอบผ่านสบายๆ แต่ไม่มีอะไรให้จดจำ นอกจากฟันขาวที่เรียงเป็นระเบียบสวยงาม

ฟ่านปิงปิง รับบทนางเอกขายสวยโผล่มาเป็นพักๆ ตอนจบ ฉากที่ถูกช่วยจากห้องที่น้ำทะลักเข้ามาท่วม แม้ดูคล้ายฉากในหนัง “ไททานิค” ไปหน่อย แต่ก็พอได้อยู่ สมกับเป็นนางเอกแบบเอเชียๆ

ส่วน ไมเคิล หว่อง ที่คนไทยคุ้นหน้ารับบทเป็นหัวหน้าตำรวจ ก็ตามสภาพไป ดาราอีกคน เจิ้งจื่อเหว่ย ซึ่งรับบทตัวสำคัญที่เป็นกุญแจของเรื่องทั้งหมดก็โผล่มาตอนต้นและท้ายเรื่อง ยังเล่นเป็นตัวเขาเช่นเดียวกับเฉินหลง ที่เล่นเรื่องไหนๆ บทบาทอะไรก็ยังเป็นตัวเองอยู่เสมอ

ผู้กำกับการแสดง เรนนี่ ฮาร์ลิน ซึ่งผ่านงานหนังระดับฮอลลีวู้ดที่ทำเงินมามากมาย คงทำงานแบบตามใจเฉินหลงอย่างถึงที่สุด ไม่มีอะไรต้องพูดถึงมากมาย ก็หนังเฉินหลงเขานี่

หลังหนังจบก็ต้องมีเบื้องหลังในการถ่ายทำฉากต่างๆ ที่นักแสดงพลาดท่าหรือหลุดซีนในการแสดง เป็นที่รู้กันอยู่ว่าหนังของเฉินหลงต้องเป็นเช่นนี้ เพื่อให้คนดูขำส่งท้ายไปอีกช็อตก่อนเดินออกจากโรงไปอย่างชื่นมื่นสบายใจ

แต่อย่างที่ว่า เมื่อมาครุ่นคิดอีกรอบ เฉินหลงเป็นคนที่เก่งมากซึ่งสามารถรักษาสภาพร่างกายและไอเดียในการทำหนังของตัวเองให้อยู่ยงคงกระพัน เป็นสูตรเฉพาะตัวที่อยู่เหนือกาลเวลา ไม่เคยล้าสมัยแม้ทำในยุคไหนๆ เป็นการผลิตซ้ำที่ถูกใจคอหนังเอเชียเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นวัฒนธรรมบันเทิงหนังบู๊-ผจญภัย-ตลก และดราม่านิดๆ แบบเฉินหลง นี่คือนิสัยคนเอเชียตะวันออกไกลนั่นเอง