posttoday

สามีบอกเลิกเพื่อไปแต่งงานกับแฟนเก่า

13 ธันวาคม 2559

เมื่อสัปดาห์ก่อนได้ฟังเรื่องราวสะเทือนความรู้สึกเรื่องหนึ่งจากคนรู้จักกัน แม้ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่พอได้ฟังเรื่องราวจนสิ้นความ แล้วบอกตรงๆ ว่าช็อกและอดประณามผู้ชายในใจไม่ได้ ช่างทำได้ลงคอ เลือดเย็นมาก ไม่รู้ว่าบุรุษทั้งหลายในโลกนี้จะทำเหมือนผู้ชายคนที่จะเล่าต่อไปนี้ไหม คือแต่งงานอยู่กินกับภรรยาจนมีลูกด้วยกัน แล้ววันหนึ่งก็มาบอกว่าเราเลิกกันนะ ฉันไม่อยู่กับเธอแล้ว แล้วถ้าผู้หญิงถูกชายที่ชื่อสามีมาบอกเลิกอย่างนี้จะทำอย่างไร

เมื่อสัปดาห์ก่อนได้ฟังเรื่องราวสะเทือนความรู้สึกเรื่องหนึ่งจากคนรู้จักกัน แม้ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่พอได้ฟังเรื่องราวจนสิ้นความ แล้วบอกตรงๆ ว่าช็อกและอดประณามผู้ชายในใจไม่ได้ ช่างทำได้ลงคอ เลือดเย็นมาก ไม่รู้ว่าบุรุษทั้งหลายในโลกนี้จะทำเหมือนผู้ชายคนที่จะเล่าต่อไปนี้ไหม คือแต่งงานอยู่กินกับภรรยาจนมีลูกด้วยกัน แล้ววันหนึ่งก็มาบอกว่าเราเลิกกันนะ ฉันไม่อยู่กับเธอแล้ว แล้วถ้าผู้หญิงถูกชายที่ชื่อสามีมาบอกเลิกอย่างนี้จะทำอย่างไร

เรื่องมีอยู่ว่าผู้ชายคนหนึ่งเป็นข้าราชการตำรวจ ไปหลงรักผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งภูมิหลังเธอทราบมาว่ากำพร้าแม่เหลือแต่พ่อ การศึกษาก็ไม่ได้จบสูง แล้วผู้ชายคนนี้ไปเที่ยวร้านอาหารก็ได้เจอเธอซึ่งทำงานอยู๋ที่นั่น ฝ่ายชายเห็นว่าหน้าตาสวยถูกชะตาจึงพยายามจีบ ในที่สุดก็รับเธอมาอยู่ที่บ้านตัวเองในฐานะภรรยา โดยไม่ได้จัดพิธีแต่งงานและไม่ได้จดทะเบียนสมรส

ทั้งสองครองรักกันมาอย่างมีความสุขจนมีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นชายหนึ่งและหญิงหนึ่ง (ปัจจุบันลูกคนแรกเรียนชั้น ม.1 คนที่ 2 เรียน ป.5) โดยสามีเป็นคนหาเงิน ส่วนภรรยาก็เป็นแม่ศรีเรือนอยู่บ้านเลี้ยงลูก ทำหน้าที่ภรรยาและงานบ้านงานเรือนพร้อมกับปรนนิบัติดูแลพ่อแม่ของสามีอย่างดี จนพ่อแม่ของสามีก็รู้สึกรักใคร่ลูกสะใภ้คนนี้  

จู่ๆ วันหนึ่งสามีบังเอิญไปเจออดีตแฟนเก่า ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายแต่พอจบ ม.6 ทั้งคู่ไม่ได้ติดต่อกันเลย ฝ่ายหญิงไปเรียนต่อปริญญาตรี ส่วนผู้ชายไม่ได้เรียนต่อ แต่ไปสอบตำรวจและสอบติดจึงรับราชการตำรวจตั้งแต่นั้น แล้วเรียนต่อปริญญาตรีในภายหลัง พอมาเจอแฟนเก่าซึ่งปัจจุบันเป็นข้าราชการครูความรักในครั้งกระโน้นก็ฟื้นตื่นคืนมาด้วย

ฝ่ายชายเริ่มจุดไฟแห่งรักให้ลุกโชนด้วยการพยายามจีบคนรักเก่าอยู่นานพอสมควร ในที่สุดฝ่ายหญิงเหมือนจะเออออด้วย ทั้งที่ฝ่ายหญิงรู้ทั้งรู้ว่าฝ่ายชายมีลูกมีเมียแล้ว แต่ฝ่ายชายได้ให้คำยืนยันกับแฟนเก่าว่าถ้าตอบตกลงจะใช้ชีวิตคู่เป็นภรรยาสามี ก็จะไปบอกเลิกภรรยาในปัจจุบันเพื่อจะได้อยู่กินด้วยกัน

หลังตกลงจนเป็นที่แน่ใจทั้งสองฝ่ายแล้ว ฝ่ายชายจึงพยายามหาโอกาสบอกเลิกภรรยาคนปัจจุบันที่มีลูกด้วยกัน 2 คน จนสบโอกาสเหมาะวันหนึ่งก็บอกภรรยาและขอเลิก ฝ่ายภรรยาพอได้ยินตอนแรกก็งวยงงนึกว่าสามีพูดเล่น แต่สามีย้ำขอเลิกกับเธอจริงๆ ก็ปล่อยโฮออกมาทันที ทางพ่อแม่สามีก็หันไปบอกทางลูกชายให้คิดดีๆ เพราะไหนก็มีลูกด้วยกัน แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะทางลูกชายยืนยันไม่ยอมและเลือกที่จะหวนไปแต่งงานกับแฟนเก่าอย่างเดียว      

ใครที่ไม่โดนกับตัวเองคงไม่รู้รสชาติของการถูกบอกเลิก เพราะมันทั้งเจ็บปวดรวดร้าวใจ ทั้งขมขื่นใจมากแค่ไหน แต่ในที่สุดภรรยาคนปัจจุบันก็หลีกทางให้แฟนเก่ายอมจากไปด้วยความจำใจและเจ็บปวดปนรันทด

ฟังเรื่องราวนี้แล้วเข้าใจก้นบึ้งความรู้สึกของภรรยา เธอตัดสินใจไปโดยหลีกทางให้แฟนคนเก่าของสามีด้วยความจำใจและกล้ำกลืนฝืนใจ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดในชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคนที่ได้ชื่อเป็นสามีและเป็นพ่อของลูก

ประการแรก เพราะเธอมีลูกรักถึงสองคนและรักมากยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง เพราะพวกเขามาจากเลือดในอกของเธอที่มีความผูกพันยากจะจากลาไปไกล ซึ่งเธอแคร์ความรู้สึกจากนี้ไปของลูกมากๆ ไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่สะเทือนใจนี้จะกระทบกระเทือนและตอกย้ำความรู้สึกของลูกมากแค่ไหน ตอนแรกเธอตั้งใจจะเอาลูกไปด้วย แต่ทางพ่อแม่ของสามีขอไม่ให้เอาไป จะเลี้ยงดูหลานๆ เอง คิดถึงก็มาหามาเยี่ยมได้ตลอด 

ประการที่ 2 เพราะเธอรู้ว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ทำการที่เป็นมลทินใดๆ ไม่ได้ประพฤตินอกใจสามี ในทางกลับกันการบ้านการเรือนเธอไม่เคยบกพร่องในหน้าที่ ทั้งในฐานะของภรรยาที่พึงปฏิบัติต่อสามี ทั้งในฐานะแม่ที่จะทำต่อลูก และในฐานของลูกสะใภ้ที่พึงปรนบัติต่อพ่อแม่สามี  

ประการที่ 3 เธอรู้สึกคาใจในสามีว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมาจนมีลูกถึง 2 คนนั้น สามีไม่ได้มีความรักความจริงใจในตัวเธอแม้แต่น้อยนิดเลยเชียวหรือ ทำไมถึงทำกับเธอได้ขนาดนี้ หรือเพราะเธอผิดที่เกิดมาจน ผิดที่ไม่ได้เรียนสูง หรือผิดที่เธอเคยทำงานในร้านอาหารมาก่อน ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้จะเลือกเธอมาเป็นคู่ชีวิตและเป็นแม่ของลูกแต่แรกทำไม

ประการที่ 4 เธอเลือกที่จะไม่เอาลูกไปด้วยเพื่ออนาคตลูก แม้ว่าตอนแรกอยากจะเอาลูกไปด้วยอย่างน้อยคนหนึ่ง แต่เพราะถูกพ่อแม่ของสามีขอร้องและยืนยันว่าจะเลี้ยงดูหลานๆ พร้อมส่งเรียน   

สมมติถ้าเหตุการณ์อันแสนชอกช้ำเช่นนี้เกิดขึ้นกับเราในวันหนึ่งวันใดจะรับมือในปัจจุบันขณะนั้นอย่างไร และจะเลือกทางเดินชีวิตข้างหน้าอย่างไร แต่ไม่ว่าจะรับมือด้วยวิธีไหน อย่างไร และเลือกทางเดินชีวิตข้างหน้าในแบบไหน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องมีคือต้องตั้งหลักโดยการมีสติอยู่เสมอ

อย่าให้อารมณ์โกรธ อย่าให้ความเจ็บปวด อย่าให้ความขมขื่นมาครอบงำจิตใจตลอดเวลา แน่นอนสิ่งเหล่านี้มันต้องมี มันต้องโกรธ ต้องเจ็บปวด และขมขื่นอยู่แล้ว แต่เราต้องไม่ให้สภาวะเหล่านี้นอนเนื่องอยู่ในใจเราถาวรเป็นอันขาด จงมีสติและค่อยคิดๆ เชื่อว่าทางออกมีอยู่เสมอ